ฟุตซอล เป็นกีฬาที่ดูสนุกแต่ยังไม่เป็นกระแสในหมู่ผู้ชมเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับฟุตบอลหรือวอลเลย์บอล แต่ผมเชื่อว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปนี่ล่ะครับอัตราความนิยมน่าจะเพิ่มมากขึ้น เพราะเรามีฟุตซอลไทยลีก 2025 (MEA Futsal Thai League) มาให้ดูกันแล้ว ความรวดเร็วของเกม สปีดการเล่นของผู้เล่น รวมไปถึงกลยุทธ์ในการเอาชนะ เรียกได้ว่าทุกอย่างมีครบไม่แพ้ชาติใดในโลก และบทความนี้ผมก็ได้หยิบยกแม็ทซ์ที่น่าสนใจระหว่าง บลูเวฟ ชลบุรี VS สุราษฎร์ธานี มาวิเคราะห์วิจารณ์ก่อนเกมเล่น ๆ ดูครับ ว่าระหว่าง "ฉลามไฟฟ์" ที่ชนะมา 3 นัดรวด กับ "กุ้งสายฟ้า" ที่กราฟกำลังหัวปักสุดขีด ใครจะเป็นฝ่ายเช็ดน้ำตา 1. ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงของทั้ง 2 ทีม - บลูเวฟ ชลบุรี วรัญชิต พลพิทักษ์ รณชัย จูงวงษ์สุข ณชนน แสงทอง ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ผู้เล่นที่น่าจับตามอง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง - ดาวซัลโวประจำทีมกดไป 13 ประตู อยู่ในฟอร์มร้อนแรงน่าจะเป็นตัวชี้ชะตาเกมนี้ แฟนฟุตซอลไทยน่าจะคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี ณชนน แสงทอง - เป็นผู้เล่นแนวรับที่ทีมจะขาดไม่ได้ในตอนนี้ - สุราษฎร์ธานี ภานุวัฒร์ มะลิเลาะ ไตรรงค์ เพ็ชรเทียม สามารถ กาฬภักดี สหรัชฎ์ พันธุ์ดี นัทฐนันท์ ไพฑูรย์ ผู้เล่นที่น่าจับตามอง ภานุวัฒร์ มะลิเลาะ - การกลับมาของแบ็คคนสำคัญ จะช่วยเสริมแนวรับให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ไตรรงค์ เพ็ชรเทียม และ สามารถ กาฬภักดี - เป็นคู่หูแนวรับที่กำลังเข้าขากัน น่าสนใจว่าจะยับยั้งบลูเวฟได้หรือไม่ เพราะฝั่งนั้นก็ฟอร์มแรงเหลือเกิน คือจะเห็นว่าตัวสำคัญของสุราษฯ ล้วนแต่เป็นผู้เล่นเชิงรับทั้งนั้นเลย 2. สไตล์การเล่น จดแข็ง - จุดอ่อน ของทั้ง 2 ทีม - บลูเวฟ ชลบุรี เล่นเกมรุกแบบ “เพรสซิ่งสูง” กดดันตั้งแต่แดนบน พวกเขามักใช้การต่อบอลเร็วเพื่อฉีกแนวรับด้วยการทำชิ่งในพื้นที่แคบ ๆ เน้นการเคลื่อนที่โดยไม่มีบอลและการเล่นเซ็ตเพลย์จากลูกตั้งเตะแบบมีสูตร มีความหลากหลายในแท็กติก เช่น Power play ในช่วงท้ายเกม มิหนำซ้ำยังใช้ pivot (หน้าเป้า) อย่าง ศุภวุฒิ เถื่อนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดแข็ง ขุมกำลังแน่นปึกทั้งตัวจริง - สำรอง ( Squad Depth ดีจัด) ความเข้าใจในเกมสูง แท็กติกยืดหยุ่นได้หลากหลาย นักเตะมีประสบการณ์ระดับทีมชาติหลายคน เกมรุกเฉียบคม มีตัวจบสกอร์หลากหลาย มีผู้นำในสนามอย่าง กฤษดา และ ศุภวุฒิ จุดอ่อน บางครั้งเสียฟาวล์สะสมเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเพรสสูงผิดจังหวะ ผู้รักษาประตูยังมีบางจังหวะที่เล่นเสียจากบอลโต้กลับเร็วของคู่แข่ง เกมรับในจังหวะโดนลูกสวนกลับเร็ว หากโดนจะหลุดตำแหน่ง และอาจถึงขั้นเสียประตู - สุราษฎร์ธานี ต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นทีมที่เล่นแบบเน้นรับเป็นส่วนใหญ่ คือเล่นแบบ รัดกุม เน้นวินัย และรอโต้กลับ ชอบเซ็ตเกมจากแดนหลังแบบไม่รีบร้อนชิว ๆ สบาย ๆ แต่พอเข้าสู่ช่วงเข้มข้นก็จะเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของผู้เล่นในการเบียดปะทะ ถ้าเล่นในบ้านมักกล้าเปิดเกมแลกมากขึ้น แต่เกมเยือนจะให้ความสำคัญที่การตั้งรับไว้ก่อน แล้วแม็ทซ์นี้ก็ดันเป็นเกมที่ต้องบุกไปเยือนซะด้วยสิ จุดแข็ง เกมรับเหนียวแน่น มีตัวชนแกร่ง ๆ เช่น ภานุวัฒร์ และ ไตรรงค์ ลูกตั้งเตะ เช่น คิกอิน - คอร์เนอร์ มีความแม่นและมีแผนการเล่นชัดเจน เล่นเป็นทีมได้ดีแม้ไม่มีสตาร์ดัง พวกเขามีความขยันวิ่งและบีบพื้นที่ช่วยกันได้ดี จังหวะโต้กลับมีความเร็ว ใช้โอกาสค่อนข้างคุ้มค่า จุดอ่อน เกมรุกค่อนข้างจำกัด ขาดตัวสร้างสรรค์เกมในแดนบน หากตามหลังแล้วจะเล่นยากมาก เพราะไม่ถนัดเกมรุก ผู้เล่นสำรองไม่หลากหลายพอ เมื่อเจอทีมใหญ่อย่างบลูเวฟ ชลบุรี แก้เพรสซิ่งจากคู่แข่งยังไม่ดีพอ อาจพลาดในจังหวะโดนบีบเร็วได้ 3. แรงจูงใจของทั้ง 2 ทีม - บลูเวฟ ชลบุรี พวกเขากำลังอยู่ในช่วงไล่ล่า แชมป์ไทยลีก 2025 ตอนนี้บลูเวฟกำลังเกาะโซนหัวตาราง รักษาสถิติชนะต่อเนื่อง แถมแต้มยังเบียดกับทีมอื่นอย่าง การท่าเรือ และ แบล็คเพิร์ล อย่างสูสี ทุกแต้มจึงค่อนข้างสำคัญเพื่อชิงแชมป์ไทยลีกให้ได้อีกครั้ง ประการต่อมา โควตา ACL (AFC Futsal Club Championship) ก็สำคัญ กล่าวคือถ้าพวกเขาเป็นแชมป์ได้ จะได้รับสิทธิ์กลับไปลุยถ้วยเอเชียอีกครั้ง นี่จึงเป็นความมุ่งหวังสูงสุดของสโมสร และนักเตะทีมชาติหลายคน บลูเวฟเป็นทีมที่ถูกคาดหวังสูง แพ้ไม่ได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในบ้าน การเล่นต่อหน้าแฟนบอลที่สนาม มกช. ชลบุรี ยิ่งเพิ่มแรงขับให้ทำผลงานได้ดี - สุราษฎร์ธานี อันดับแรกเลยคือหนีโซนท้ายตารางให้ได้ ผลงานของพวกเขายังไม่คงเส้นคงวา ต้องการแต้มเพื่อไม่ให้หลุดไปโซนตกชั้น แม้ว่าเกมนี้จะเป็นเกมเยือนที่ต้องเจอทีมสุดแกร่งอย่าง บลูเวฟ ชลบุรี แต่พวกเขาก็ต้องพยายามที่จะ "มีแต้มกลับบ้าน" ให้ได้ ประการต่อมาคือการเจอกับทีมใหญ่แบบนี้คือบททดสอบสำคัญ ถ้าสู้ได้หรือทำได้ดีจนถึงขั้นยันเสมอได้ จะเป็นขวัญกำลังใจชั้นเยี่ยมให้กับทีม สุราษฎร์ธานี มีนักเตะใหม่เสริมเข้ามาในเลกหลัง เช่น ภานุวัฒร์ มะลิเลาะ เขาน่าจะอยากแสดงผลงานเพื่อยึดตัวจริงในทีม บางทีอาจจะได้เห็นการระเบิดฟอร์มอันเอกอุ 4. สถิติ 3 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม - บลูเวฟ ชลบุรี 24 พ.ค. 68 ชนะ วายเอฟซีศรีราชา 5 ‑3 (เยือน) 10 ก.ค. 68 ชนะ แบงค็อก บีทีเอส 4 ‑ 3 (เหย้า) 13 ก.ค. 68 ชนะ เกษมบัณฑิต เอฟซี 3 ‑ 2 (เยือน) สรุป บลูเวฟ ชลบุรี ฟอร์เข้าฝัก 3 นัดล่าสุด ชนะรวด ยิงรวม 12 ประตู เสียเพียง 8 ประตู ซึ่งแสดงถึงความแน่น หนืด และเด็ดขาดในทุกแมตช์การแข่งขัน - สุราษฎร์ธานี 29 มิ.ย. 68 แพ้ วายเอฟเอ ศรีราชา 2 ‑ 3 (เยือน) 5 ก.ค. 68 แพ้ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม 2 ‑ 6 (เหย้า) 13 ก.ค. 68 แพ้ ราชภัฏเพชรบุรี 1- 5 (เหย้า) สรุป สุราษฎร์ธานี 3 นัดหลังสุดแพ้รวด อยู่อันดับ 10 ของตาราง มี 11 แต้ม จาก 12 นัด สรุปสุดท้าย ด้วยปัจจัยหลายข้อที่กล่าวมาผมคิดว่า สุราษฎร์ธานี น่าจะรอดยาก ฟอร์มของพวกเขายังรักษามาตรฐานไม่ได้ แม้จะเล่นแบบเน้นเกมรับและหวังเพียงเสมอก็ยังยากจะต้านทานฝั่งเจ้าบ้านอยู่ดี บลูเวฟ ชลบุรี น่าจะครองบอลเข้าใส่และกระหน่ำบุกอยู่ข้างเดียว อาจจะมีเสียประตูจากการโดน counter บ้าง แต่ประตูรวมก็น่าจะชนะอยู่ดี เว้นแต่ว่า สุราษฎร์ธานี จะ “เล่นผิดฟอร์มแบบเทพ” หรือ บลูเวฟ ชลบุรี เกิดอุบัติเหตุลูกหนัง ผู้เล่นบาดเจ็บ หลุดฟอร์มกระจุย ฯลฯ ขึ้นชื่อว่ากีฬาอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ฟุตซอลเป็นกีฬาที่เล่นด้วยความรวดเร็ว แป๊บเดียวเกมก็เปลี่ยนได้แล้ว เพราะงั้นรอดูกันสนุก ๆ หน้างานดีกว่าครับ อย่าไปเดาให้เครียดเลย เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก จาก FB : Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์ รูปที่ 1 จาก FB : Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์ รูปที่ 2 จาก FB : Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์ รูปที่ 3 จาก FB : Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์ รูปที่ 4 จาก FB : Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !