ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บทสรุปสุดท้าย แมนซิตี้ก็เป็นฝ่ายเอาชนะแมนยูไปได้ 2 ประตูต่อ 1 โดยทั้งสองประตูมาจาก กุนโดกันนับว่าเป็นศึกดาร์บี้แมตช์ที่ดุเดือดและเต็มไปด้วยอารมณ์เกมที่หลากหลายจริงๆ ฝ่ายยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทนฮาก ต้องการแชมป์นี้เพื่อเป็นแรงผลักดัน เพิ่มความมั่นใจว่ายูไนเต็ดกำลังเดินมาถูกทางแล้ว ในการเริ่มต้นยุคใหม่ครั้งนี้ส่วนซิตี้ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า ที่ต้องการคว้าแชมป์นี้เพื่อเป็นการการันตีความเป็นสุดยอดทีมแห่งยุคในเกาะอังกฤษ นี่ถือเป็นถ้วยรางวัลที่สองหลังจากพวกเขาปาดหน้าอาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปได้สำเร็จ และถือเป็นหนทางสู่การคว้าทริปเปิลแชมป์ หากพวกเขาคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกมาได้สำเร็จ จะสามารถประกาศตนเป็นสุดยอดทีมแห่งยุโรป และสถาปนาตนเป็นทีมที่ดีที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้เกมนี้ฝั่งยูไนเต็ดมาด้วย 11 ผู้เล่นคือเดเคอา, ชอว์, ลินเดอเลิฟ, วาราน, วานบิซซาก้า, เฟร็ด, คาเซมิโร่, อิริคเซ่น, บรูโน, ซานโช่, แรชฟอร์ดและฝั่งซิตี้มาด้วย 11 ผู้เล่นอย่างมูริช , ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคานจี, โรดรี, จอห์น สโตนส์, แบร์นาร์โต้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอบรอยน์, แจ็ก กรีลิช, ฮาแลนด์ เปิดเกมมาเพียง 15 วินาที แมนซิตี้ทำประตูขึ้นนำโดยกุนโดกัน จากจังหวะเปิดบอลยาวของผู้รักษาประตูฝั่งซิตี้ บอลมาถึงฝั่งยูไนเต็ดและเป็น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่โหม่งสกัดบอลพลาด ไปเข้าทางกุนโดกัน ตะบันแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลเข้าสู่ก้นตะข่าย ขึ้นนำยูไนเต็ดเป็น 1 ประตูต่อ 0 หลังจากนั้นเป็นฝ่ายซิตี้ที่ไลบดขยี้จะเอาประตูจากยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่องจนมาในนาทีที่ 30 ยูไนเต็ดขึ้นเกมบุกมาและได้จุดโทษจากลูกแฮนด์บอลของ แจ็ก กริลิซ โดย บรูโน่ แฟร์นันเดส ทำหน้าที่สังหารจุดโทษ และทำประตูได้สำเร็จ พายูไนเต็ดตามตีเสมอซิตี้เป็น 1 ประตูต่อ 1 หลังจากนั้นเกมของยูไนเต็ดดูกระเตื้องมากขึ้น พยายามบุกเพื่อเอาประตูขึ้นนำก่อนจบครึ่งแรก แต่ทำไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1 ต่อ 1 ครึ่งหลังเริ่มขึ้น ซิตี้เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำเร็วอีกครั้งจากกุนโดกันคนเดิม ในนาทีที่ 51 โดยจังหวะนี้เป็นลูกตั้งเตะของเดอบรอยด์ เปิดบอลสวยๆ มาให้กุนโดกันซัดแบบไม่ต้องจับเหมือนเดิม และเป็นลูกยิงนอกกรอบอีกครั้งของเขาพาซิตี้ขึ้นนำยูไนเต็ดเป็น 2 ประตูต่อ 1 หลังจากนั้นเป็นฝ่ายซิตี้ที่คุมเกมได้เหนือกว่า โดยยูไนเต็ดมีจังหวะได้ลุ้นอยู่บ้าง แต่เป็นซิตี้ที่รัดกุมและทำได้ดีกว่า จัดการยูไนเต็ดไว้ได้อย่างอยู่หมัด จบเกมแมนซิตี้ลูกทีมของเป๊ปกวาดิโอล่า เป็นฝ่ายคว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 7 สำเร็จ และนับเป็นแชมป์ที่ 2 ของฤดูกาลนี้ ทำให้พวกเขามีลุ้นที่จะเป็นทริปเปิลแชมป์หากคว้าถ้วยยุโรปได้สำเร็จ และหากพวกเขาทำได้ ก็จะกลายเป็นเจ้ายุโรปที่ไร้ข้อกังขาสำเร็จส่วนทางฝั่งของยูไนเต็ดก็ต้องชอกช้ำกันไป ที่คว้าถ้วยใบนี้ไว้ไม่ได้ แล้วมาดูกันว่าซัมเมอร์นี้ เอริค เทนฮาก จะเสริมทัพกันอย่างไรบ้าง หากเขาต้องการพัฒนาทีมให้ดีขึ้น ก็คงต้องเสริมแกร่งกันอีกพอสมควร และหากเขาได้นักเตะที่ตรงใจมาเสริมทัพนั้น ยูไนเต็ดในฤดูกาลหน้าจะสามารถแข็งแกร่งทัดเทียมกับบรรดาทีมใหญ่ในยุโรป แล้วกลับไปสู่จุดที่พวกเขาเคยยืนได้หรือไม่?ขอบคุณสำหรับการรับชมบทความนะครับ ขอบคุณรูปภาพจาก : (Pep Guardiola/Twitter) (Tenhag/Twitter) (Gundogan/Twitter) (Mancity / Twitter) (Bruno/Twitter)(Manutd/Twitter)ภาพปก (FaCup/Twitter) (FaCup/Twitter)อัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'