สวัสดีค่ะทุก ๆ คน ถ้าจะกล่าวถึงกีฬาที่ได้ออกกำลังกายในทุก ๆ ส่วนในการเล่นครั้งเดียวก็มีอยู่หลายประเภทเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าเป็นกีฬาที่ เวลาเล่นได้ออกกำลังกายทุกส่วนอย่างเต็มที่จริง ๆ ก็คงจะมีเพียงแต่กีฬาว่ายน้ำที่ช่วยในการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีที่สุด เพราะการว่ายน้ำนั้นต้องใช้ทั้งแขนขา และศีรษะ ในการประคองตัวให้อยู่ในน้ำได้โดยไม่จม ถือว่าเป็นกีฬาที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะการที่ได้ออกกำลังกายแบบนี้ในทุก ๆ วัน นอกจากจะสุขภาพดีแล้วยังช่วยทำให้รูปร่างของเราดีขึ้นอีกด้วยค่ะ แต่จะมีกี่คนที่จะรู้ว่ากีฬาว่ายน้ำนั้นมีความเป็นมาอย่างไร และมีกี่ท่า วันนี้เราจะมาหาคำตอบพร้อมกันค่ะ เครดิตภาพจาก : pixabay การแข่งขันว่ายน้ำแบ่งออกเป็น 7 ประเภทด้วยกัน 1. แบบ freestyle นักว่ายน้ำสามารถเลือกว่ายท่าใดก็ได้แต่มักนิยมว่ายท่า crawl stroke ซึ่งเป็นท่าที่สามารถว่ายได้เร็วที่สุด โดยการกลับตัวจะกลับแบบธรรมดาหรือตีลังกาม้วนหน้าก็ได้ มีระยะทางในการแข่งขันทั้งหมด 50 เมตร 100 เมตร 200 เมตร 400 เมตร 800 เมตรและสูงสุด 150 เมตร 2. แบบกรรเชียง backstroke เป็นท่าที่ start ในน้ำ ต้องว่ายในท่านอนหงาย และกลับตัวโดยกับตัวเหมือนท่าฟรีสไตล์ 3. แบบกบ Breaststroke เป็นท่าว่ายน้ำที่มีลักษณะการว่ายน้ำของกบ หรือเหมือนกบโดยจะดึงมือทั้งสองข้าง 1 ครั้งพร้อมกันจีบขา 2 ข้าง 1 ครั้ง การเข้าเส้นชัยหรือการกลับตัวต้องใช้มือทั้งสองข้างแตะขอบสระพร้อมกัน เครดิตภาพจาก : pixabay 4. แบบผีเสื้อ Butterfly stroke เป็นการว่ายน้ำแบบแขนทั้งสองข้างจะ พุ่งไปข้างหน้า และดึงแขนใต้น้ำพร้อมกันส่วนขาจะกระทุ่มน้ำพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ด้วยการกระทุ่มน้ำ 2 ครั้งต่อการดึงแขน 1 ครั้งไม่สลับมือสลับเท้าในการว่ายน้ำ และกับตัวต้องแตะขอบสระด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกันเช่นเดียวกับท่ากบ 5. การว่ายเดี่ยวผสม การแข่งขันประเภทนี้นักกีฬาว่ายน้ำคนเดียวจะต้องว่ายน้ำทั้ง 4 ท่าตามลำดับดังนี้ผีเสื้อกรรเชียงกบและฟรีสไตล์ในระยะทาง ที่เท่า ๆ กันเช่นมีการแข่งขันในระยะทาง 200 เมตร ต้องว่ายท่าละ 50 เมตร และระยะทาง 400 เมตร จะต้องว่ายท่าละ 100 เมตร เป็นต้นการว่ายเดี่ยวผสม การแข่งขันประเภทนี้ นักกีฬาว่ายน้ำคนเดียวจะต้องว่ายน้ำทั้ง 4 ท่าตามลำดับดังนี้ผีเสื้อกรรเชียงกบและฟรีสไตล์ในระยะทาง ที่เท่า ๆ กัน เครดิตภาพจาก : pixabay 6. การไหว้แบบผลัดผสม เป็นการแข่งขันว่ายผลัด ทีมละ 4 คนแต่ละคนจะต้องไหว้คนละถ้าตามลำดับคือกรรเชียงกบผีเสื้อและฟรีสไตล์ มีระยะทาง 4 * 100 เมตร วงเล็บนักว่ายน้ำแต่ละคนว่ายท่าละ 100 เมตร 7. การไหว้ผัดแบบฟรีสไตล์ เป็นการแข่งขันว่ายผลัดทีมละ 4 คนทุกคนจะต้องว่ายท่าฟรีสไตล์และกระโดดบนแท่นกระโดดทุกคนโดยมีระยะในการแข่งขัน 4 x 100 และ 4 x 200 เมตร เครดิตภาพปกจาก : pixabay ประวัติความเป็นมาของกีฬาว่ายน้ำ กีฬาว่ายน้ำได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ได้มีหลักฐานการบันทึกไว้ ไม่นานนัก โดยนาย Ralph Thomas ได้ให้ชื่อการ ว่ายน้ำที่มนุษย์ใช้ไหว้กันมาตั้งแต่สมัยก่อนว่าฮิวแมน สโตร์ก นอกจากนี้พวกชนชาติและพวกสแกนดิเนเวีย ยังรู้จักการว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยการใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้ำคล้ายกบหรือที่เรียกอีกชื่อว่าฟล็อกคิก แต่วิธีการเคลื่อนไหวโดยการใช้ท่านี้จะทำให้ผู้ที่ว่ายน้ำไม่สามารถที่จะว่ายน้ำได้เร็วนัก การว่ายน้ำของมนุษย์ในยุคแรก ๆ นั้นไม่มีสไตล์หรือแบบการว่ายน้ำเป็นท่าว่าย ส่วนมากมักเป็นท่าว่ายน้ำที่มักพยุงตัวให้ลอยน้ำโดยใช้เท้าทั้งสองข้างถีบน้ำขึ้นลงมือทั้งสองข้าง พุ้ยน้ำออกไปข้าง ๆ คล้าย ๆ สุนัขตกน้ำ จึงเรียกการว่ายน้ำในชนิดนั้นว่า Dog paddle จนมาถึงในต้นศตวรรษที่ 19 กีฬาว่ายน้ำได้กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมและความสนใจจากคนทั่วไปเป็นอย่างมาก ประเทศอังกฤษได้เริ่มมีบทบาทเกี่ยวข้องกับกีฬาว่ายน้ำตั้งแต่ค.ศ 1837 โดยได้ริเริ่มก่อตั้งสโมสรว่ายน้ำต่าง ๆ ขึ้นมากมาย แล้วรวมตัวกันเป็นสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศอังกฤษในกรุงลอนดอน แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากีฬาว่ายน้ำจึงเป็นกีฬาที่แพร่หลายไปทั่วโลก จนคนส่วนใหญ่นิยมเล่นกีฬาประเภทนี้กันมากมาย เครดิตภาพปกจาก : pixabay อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : http://www.parwat.com/391