“แมนยู” หรือที่หลายคนให้ฉายา ปีศาจแดง ด้วยความดุดันเกมบุก เกมรับเหนียวแน่น เหล่าขุนพลที่วิ่งสู้ฟัดกระหายชัยชนะ ไม่ได้เล่นเพื่อตัวเอง แต่ทั้งใจเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ ทุกชัยชนะในทุกเกมไม่ใช่ความสุขของคน ๆ เดียว แต่เป็นความสุขของสาวกปีศาจแดง ความสุขจากการเห็นทีมรักสุดใจได้ประสบความสำเร็จ พูดถึงทีมรักด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ต้องมาเล่นเพื่อแค่พื้นที่ UCL แต่เล่นเพื่อไล่ล่าแชมป์ ทำให้กบายเป็นทีมที่น่าเกรงขามของเหล่าทีมที่ได้ประจันหน้านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบสิบปีมาแล้ว เมื่อมองมายังปัจจุบันช่างต่างห่างไกลเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อเวลาเพียงแค่เกือบสอบปีทีมที่เคยน่าเกรงขาม จะกลายเป็นทีมที่ใครก็มาตบกบาลได้ถึงถิ่นโอทราฟฟอร์ด แล้วปัญหาแท้จริงของความตกต่ำนี้อยู่ที่ไหนกันบ้างถึงทำให้สโมสรที่ได้ชื่อว่าปีศาจแดง กลายเป็นแค่ผีน้อยแคสเปอร์ ได้ถึงเพียงนี้ แล้วพอจะมีวิธีแก้ไขให้กลับมาได้ในเร็ววันได้หรือไม่ ยิ่งในฤดูกาลนี้แล้วละก็ โอกาสที่จะจบท๊อปโฟร์นั้นริบหรี่เสียนี่กระไร สาเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้นเชื่อว่าเหล่าสากวปีศาจแดงก็พอจะทราบกันบ้างแล้ว ว่าเกิดจากสาเหตุอันใด หรือหากใครไม่ชาสายเลือดปีศาจแก็คงจะพอเดาได้ว่ามาจากเจ้าของทีมทั้งหมดทั้งมวลนี่แหละ ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหานี้แก้ไขไม่ได้แน่นอน แต่หากจะพอเห็นทางออกอยู่บ้าง แต่จะต้องใช้ความกล้าบ้าบิ่น รวมถึงยอมเจ็บปวดที่เห็นทีมรักเป็นเพียงแค่ดอกไม้ประดับในพรีเมียร์ลีก ซัก 3- 5 ฤดูกาล ว่าแล้วก็ไปดูทางออกกันหน่อยว่าจะโหดร้ายและแฟนปีศาจแดงจะยอมรับได้หรือไม่ 1. ล้างไพ่ในมือ นี่เป็นสิ่งแรกที่จะต้องทำอย่างด่วนสำหรับสโมสรแห่งนี้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? ด้วยความเคารพไม่ใช่ว่านักเตะที่มีไม่มีคุณภาพหรือไม่มีความสามารถ แต่สิ่งที่กำลังเป็นมะเร็งร้ายเกาะกินจากภายในคือเพดานค่าเหนื่อยที่แพงมหาศาล แต่ผลงานที่ได้กลับไม่คุ้มค่า ไม่เพียงเท่านั้นในหลาย ๆ เกมสิ่งที่แทบจะไม่มีเห็นจากเหล่าขุนพลปีศาจในช่วงห้าฤดูกาลที่ผ่านมาคือใจที่รักสโมสรเล่นเพื่อทีม หากนึกภาพไม่ออกให้มองไปนักเตะเหล่าที่มีชื่อดังต่อไปนี้ อังเคล ดิมาเรีย เมมฟิส เดปาย พอล ป๊อกบา แค่สามคนนี้ก็น่าจะเห็ภาพได้ไม่ยากกำคำว่า “ไม่มีใจ” ซึ่งต่างจากยุคก่อน ๆ ที่นักเตะจะเล่นถวายหัวให้กับสโมสรแห่งนี้อย่างแท้จริง ฉะนั้นการเริ่มต้นใหม่โยปล่อยให้หมดสัญญาไปหรือขายไป แล้วลองไปเริ่มต้นใหม่จากติดลบ ตามหานักเตะที่เล่นเพื่อทีม รักในสโมสร หรือจะเอานักเตะในอคาเดมี่ขึ้นชุดใหญ่ค่อยๆเติบโต ซึมซับความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างที่เคยเป็นมา ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานกว่าจะได้เพชรซักเม็ดขึ้นมาสู่ทีม แต่มันก็ดีกว่าให้พวกเหลือบไรมาสูบเลือด พออิ่มก็จากไป ไม่ใช่เหรอ ? 2. นายท้ายเลือกฝีพายเอง ย้อนกลับไปตอนที่ โฆเช่ มูริญโญ่ เป็นผู้จัดการทีมของปีศาจแดงในตอนนั้นเขาได้กล่าวอยู่สองประโยคซึ่งมีนคือความจริงที่บั่นทอนปีศาจแดงมาจนถึงเวลานี้นั้นก็คือ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีทางไปได้ไกลกว่านี้หากคนคุมทีมไม่มีสิทธิ์เลือกนักเตะ” “คนที่อยากได้ไม่ได้ คนที่ไม่อยากได้กลับได้ แล้วจะใช้งานให้ถูกวิธีได้ยังไง” ซึ่งมันคือความจริงที่สุดในวงการลูกหนัง เพราะคนที่จะใช้งานนักเตะนั้นก็คือผุ้จัดการทีมในเมื่อเขารู้ปัญหา ต้องรู้แล้วว่าจะเอาใครมาแก้ไขปัญหาได้ แต่ตลอดเวลาของสโมสรแห่งนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทุกครั้งที่เปิดตัวนักเตะหลายคนมาสู่ทีม เกิดคำถามเสมอว่า “เอามาทำไม??” และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะเมื่อได้มากลับไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือผผลงานไม่ได้เป็นไปอย่างที่ต้องการ ไม่ได้แก้ปัญหาที่ถูกจุดเท่าไหร่ หรือหนักกว่านั้นกว่าจะได้นักเตะที่พอจะแก้ปัญหาให้ได้ ต้องถึงขั้นแฟนบอลไปเผาบ้านกันเลยทีเดียวกว่าจะได้นักเตะที่ใช้งานได้จริงเข้าทีมสักคน ฉะนั้นในการเลือกนักเตะควรให้อำนาจผู้จัดการทีมทำการเลือกนักเตะแบบเบ็ดเสร็จร้อยเปอร์เซ็น ไม่ใช่เซ็นนักแตะเพื่อเงินส่วนต่างของนักเตะ เพราะทีมก็เหมือนเรือลำหนึ่ง นักเตะคือพาย ผู้จัดการทีมคือนายท้ายเรือผู้คุมหางเสือที่คอยมองทิศทางที่จะไปมองดูฝีพายว่าคนไหนอ่อน ควรเสริมตรงไหน การให้อำนาจเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการที่จะต้องก้าวไปข้างหน้า หากไม่เป็นเช่นนั้นต่อให้ได้ เปป กว่าดิโอล่า , เจอร์เกน คล๊อปป์ , ฮันซี ฟลิก เหล่าผู้จัดการทีมที่เก่งเกาจแห่งยุคมาคุมหางเสือก็ไม่สามารถพาเรือที่ชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงฝั่งฝันได้อย่างแน่นอน 3. เลิกแก้ผ้าเอาหน้ารอด หลายครั้งหลายคราเมื่อสถานการณ์ของทีมดูจะย่ำแย่ สิ่งที่เหล่าผู้บริหารทำก็คือทุ่มซื้อนักเตะค่าตัวแพงหรือไม่ก็ให้ค่าเหนื่อยแสนแพงเพื่อล่อใจให้มารับใช้สโมสรแห่งหรือที่แย่กว่านั้นชอบไปสรรหานักเตะปลดระวาง ซึ่งก้รู้ ๆ กันอยู่ว่าพละกำลังหรือความเฉียบคม ก็เริ่มจะหดหายไปตามวัยของเขาเหล่านั้น แต่สโมสรแห่งนี้ก็มักจะสรรหานักเตะเหล่านี้ที่ประเคนค่าเหนื่อยแสนแพงให้เสมอซึ่งไม่มีสโมสรไหนทำในเกาะอังกฤษ เพราะมันเป็นเพียงแค่เอาตัวรอดไปวัน ๆ แต่หวังผลระยะยาวไม่ได้อย่างที่เห็นกันมาตลอด หากจะยกตัวอย่างก็คงเห็นกันชัดดังนี้ ซลาตัน อิบราฮีมอวิชเอดิสัน คาวานี่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ปฏิเสธว่าทั้งสามรายคือนักเตะระดับโลก แต่การจะเอามาแค่ใช้งานเพื่อหวังแค่เอาหน้ารอดใช้ไม่ได้กับทีมในเกาะอังกฤษ นอกจากผลงานจะไม่ได้อย่างที่คาดหวัง กลับสร้างรอยร้าวภายในสโมสรอย่างที่กำลังเป็นอยุ่ในตอนนี้ ลองคิดแบบใหม่ดีไหม ใช้นักเตะที่เป็นชุดเดิม ๆ เน้นสร้างความเข้าใจในแผนการเล่น เสริมทีมในตำแหน่งที่ขาดซักราย ถึงจะทุ่มแต่แก้ปัญหาได้ การเสริมทัพเน้นนักเตะดาวรุ่ง ค่อย ๆ สร้าง ๆ ค่อย ๆ ให้โอกาส เพื่อเป็นกำลังหลักในอนาคตต่อไป แม้ว่ากว่าจะได้ผลอย่างที่หวังต้องใช้วเลา แต่ต้นทุนที่เสียไปกับดอกผลที่ได้รับมันก็สมเหตุสมผลแลยังเป็นรากฐานในยุคต่อ ๆ ไป ได้อีกนานไม่ใช่เหรอ เพราะหากปัญหาดังที่กล่าวมาไม่ถูกแก้ไขอย่างจริงจังต่อให้ได้ใครมาเป็นผู้จัดการทีม หรือได้นักเตะซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมาร่วมทีม สุดท้ายแล้วก็ได้แค่แรงโปรโมต แต่ไม่สามารถพาสโมสรแห่งนี้กลับสู่ความรุ่งโรจน์ที่เคยเป็นได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นไม่รู้ว่าจะได้เห็น ผีน้อยแคสเปอร์ เติบโตเป็น ปีศาจ อีกครั้งในยุคไหนกันแน่ ?ข่าวที่เกี่ยวข้อง6 เหตุผลที่ "แมนยู" ควรตั้ง "เมาริซิโอ โปเช็ตติโน" เป็นผู้จัดการทีมสมมุติว่า!!l ส่องไลน์อัพ "แมนยู" หาก เอริค เทนฮาก ได้สามแข้งร่วมทัพถูกใจไหม?? จัดอันดับ 5 นักเตะแมนยูผลงานดีที่สุดประจำปี 2021การมาของ "เอริค เทน ฮาก" จะพา "แมนยู" สู่ยุคใหม่หรือถอยลงคลองคลายสงสัย !! ทำไม แมนยู ล้มเหลวหลัง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ เครดิตภาพปก twitter.com/ManUtd :: ภาพปกเครดิตภาพประกอบ twitter.com/ChampionsLeague :: ภาพที่ 1 , twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!