แชมป์แรกของฤดูกาลนี้ตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่สามารถเอาชนะนิวคาสเซิลไปได้ 2-0 ในนัดชิงแมนยู พบ นิวคาสเซิล จากการทำประตูของคาเซมิโร่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ส่งทีมคว้าแชมป์โทรฟี่แรกของฤดูกาลนี้และเป็นแชมป์แรกของเอริค เทน ฮากในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นถ้วยแรกนับจากครั้งล่าสุดที่สามารถคว้าแชมป์ได้ 2 แชมป์ในฤดูกาล 2016-2017 ที่โชเซ่ มูรินโญ่ยังคุมทีมอยู่ในตอนนั้นที่สามารถคว้าถ้วยคาราบาวคัพและยูโรป้าลีกได้ นับเป็นเวลา 7 ปีแล้วที่แมนยูร้างแชมป์มานานและเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาทำได้แล้วหลังจบเกม สถิติของเกมเป็นของนิวคาสเซิลอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับสุดแข็งแกร่งทั้งแผงของแมนยูไปได้ แต่เมื่อมองดูสถิติของแมนยูให้ดีๆ กลายเป็นว่าแมนยูนั้นสร้างสรรค์โอกาสประตูไปได้ 14 ครั้ง และตรงกรอบถึง 10 ครั้ง สวนทางกับนิวคาสเซิลที่สร้างโอกาสได้ 15 ครั้งแต่ตรงกรอบเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น แต่ก็ต้องชมลอริส คาริอุสในช่วงครึ่งหลังที่โชว์เซฟสวยๆให้กับนิวคาสเซิลไม่เสียประตูเพิ่มอีก น่าจะไว้ใจได้อยู่ช่วงหนึ่งหลังจากที่นิค โป๊ป โดนแบนจากใบแดงในเกมลิเวอร์พูล ส่วนแนวรุกที่นัดนี้เล่นได้ไม่ดี หวังว่าในเกมลีกจะเริ่มสร้างสรรค์ประตูได้ดีกว่าในนัดนี้ละกันมาทางฝั่งผู้ชนะ ตอนนี้หันไปทางไหนก็เพอร์เฟคแทบทุกจุด ตั้งแต่แนวรับไปถึงแนวรุก หัวใจหลัก ตั้งแต่ ดาบิด เด เกอา กองหลัง ลิซานโดร มาร์ติเนส กองกลาง คาเซมิโร่ และกองหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด แกนกลาง 4 คนในชุดนี้ คือส่วนประกอบที่ลงตัวอย่างมากในทีมของเอริค เทน ฮาก ที่พยายามก่อร่างสร้างทีมในแบบฉบับของเขาที่มีทั้งนักเตะหน้าเก่าและหน้าใหม่ผสมผสานกัน อีกทั้งนักเตะหลายๆคนที่น่าจะหมดอนาคตในทีม กลับมาเป็นตัวหลักให้กับทีมได้อีกครั้ง แถมสร้างผลงานได้ดีด้วย เช่น อารอน วาน บิซซาก้า ลุค ชอว์ เป็นตัน แม้ช่วงแรกๆทีมจะดูมีปัญหาไปซะทุกอย่าง แต่ตอนนี้ เริ่มลงตัวและตั้งตัวพร้อมแซงทุกทีมในลีกแล้ว แถมเตรียมชนกับทุกทีมในเกมยุโรปอีกต่างหาก ณ ขณะนี้พวกเขายากที่จะหยุดได้แล้วในเกมนี้ก็เหมือนหลายๆเกมที่ผ่านมา ที่พวกเขาเลือกที่จะไม่เน้นครองบอล แต่เน้นรอจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกให้รวดเร็ว และเวลาตั้งรับก็ต้องตั้งรับลึกๆไม่ให้ฝั่งตรงข้ามสามารถสร้างสรรค์โอกาสได้ง่ายๆ ความเป็นระเบียบและความเนี๊ยบในทุกตำแหน่งของการเล่นในสไตล์เอริค เทน ฮาก กำลังผลิดอกออกผลให้กับพวกเขาแล้ว ฟอร์มร้อนแรงของแรชฟอร์ด เซนส์เกมรับของมาร์ติเนส การตัดบอลสุดโหดของคาเซมิโร่ ฟอร์มเหนียวหนึบของเด เกอา มันผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ไม่ขาดๆเกินๆแบบแต่ก่อนแล้วเมื่อตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องของอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวจริง อีกทั้งยังไม่มีทีมไหนสามารถหาแผนมารับมือกับการเล่นสุดร้อนแรงของแมนยูได้ ในตอนนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยากที่จะเบรคได้ง่ายๆ พวกเขากระหายชัยชนะ พวกเขากระหายความสำเร็จ อีกทั้ง พวกเขาจะสู้แบบไม่รู้จักยอมแพ้ ไม่มีอีกแล้ว แมนยูฟอร์มเล่นไปวันๆ ไม่มีอีกแล้วแมนยูที่เป็นหมูให้ทีมอื่นเคี้ยว ตอนนี้ พวกเขากลายเป็นปิศาจแดงเต็มตัวอีกครั้งแล้วขอแสดงความยินดีกับเหล่าแฟนบอลแมนยูด้วยครับ แชมป์แรกของทีมในฤดูกาลนี้ส่วนนิวคาสเซิล พวกคุณทำดีแล้ว แต่พวกเขาทำดีกว่าพวกคุณ ไม่เป็นไรครับ ในลีก พวกคุณยังมีลุ้นไปเล่นเกมยุโรปในฤดูกาลหน้า ขอให้มีผลงานที่ดีขึ้นๆเร็วๆวันและฤดูกาลหน้าขอให้เป็นฤดูกาลที่พร้อมสู้กับทีมใหญ่ๆอย่างเต็มตัวอีกครั้งครับขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Twitter Newcastle United FCภาพที่ 2 จาก Twitter Newcastle United FCภาพที่ 3 จาก Twitter Manchester Unitedภาพที่ 4 จาก Twitter Manchester Unitedภาพที่ 5 จาก Twitter Newcastle United FCภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter Manchester UnitedCommunity ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์