หลังเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา ผมขอย้อนพาไปดูเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์พบ กลาสโกว์เรนเจอร์ส มีประเด็นอะไรบ้าง1.ลิเวอร์พูลปรับแผนแน่นอนว่าลิเวอร์พูลมีแผน 4-3-3 เป็นแผนหลัก คือหลักจากที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมลิเวอร์พูล ก็ปรับจูนจนหาแผนที่ลงตัวคือ 4-3-3 ลิเวอร์พูลก็มักไม่เปลี่ยนแผนในการออกสตาร์ทใช่ 4-3-3 ในการออกสตาร์ทตลอด มีแค่การแก้แผนในระหว่างเกมเมื่อต้องการประตูหรือทีมกำลังตามหลังอยู่ ก็อาจจะเปลี่ยนแผนระหว่างเกม แต่ด้วยฟอร์มของลิเวอร์พูลในช่วงเวลานี้ที่ไม่คงเส้นคงวา จากเกมก่อนที่เสมอไบรท์ตัน 3-3 ทำให้คล็อปป์นั้น เลือกที่จะเปลี่ยนแผนใหม่จาก 4-3-3 เปลี่ยนเป็น 4-4-2 โดย อลิซอน เฝ้าเสาเกมรับ ฟานไดจ์ ยืนคู่ มาติป เทรนต์ อาร์โนลด์ เป็นแบ็คขวา แบ็คซ้ายเป็น ซิมิกาสมิดฟิลด์คู่เป็น เฮนเดอร์สัน ยืนคู่กับ ติอาโก้ ส่วนปีกซ้ายปีกขวาอย่าง ดิอาส , ซาลาห์ ถูกจับยื่นต่ำลง ตรงมิลฟิลด์ (ดิอาส LW เป็น LM , ซาลาห์ RW เป็น RM ) กองหน้าคู่ โจต้า คู่กับ นูนเญซ2.รูปเกมดูเหมือนว่า เรนเจอร์ส นั้นดูจะไม่ค่อยมีพิษสงกับลิเวอร์พูลมากเท่าไหร่ ดูเป็นงานง่ายสำหรับลิเวอร์พูล เมื่อเผชิญกับทีมดังจากสก๊อตแลนด์ ลิเวอร์พูลครองเกมเหนือกว่า มาได้ประตูจากฟริคิกเทรนต์ อาร์โนลด์ นาทีที่ 7 และ จุดโทษของซาลาห์ นาทีที่ 53 หากไม่เปลืองโอกาสหงส์แดงน่าจะยิงได้เยอะกว่านี้ แต่ก็ต้องชมผู้รักษาประตูของเรนเจอร์ที่โชว์ฟอร์มเซฟได้โหด เรนเจอร์สเอง ก็มีบุกท้ายเกม มี 2 จังหวะเน้นๆ แต่จังหวะแรกโดนสกัดจากเส้น จังหวะสองก็โดนอลิซอนเซฟจ่อๆสถิติ ลิเวอร์พูล - เรนเจอร์สยิงลูก 23 - 6ยิงเข้ากรอบ 10 - 2ครองบอล 64 - 36 (เปอร์เซ็นต์) เตะมุม 13 - 13. เทรนต์พิสูจน์ / นูนเญซปรับตัวเทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล์ด เป็นนักเตะที่พูดถึง ถูกวิจารณ์มากที่สุดคนหนึ่ง ตั้งแต่ต้นฤดูกาล เทรนต์ถูกวิจารณ์ว่าเกมรับของเขานั้นเป็นจุดอ่อน หลายนั้น หลายจังหวะ ที่ถูกตั้งคำถามว่าไม่ค่อยกระตือรือร้นกับเกมรับ อย่างเช่น เกมที่แพ้นาโปลีอย่างราบคาบ 4-1 มีจังหวะเทรนต์ยืนนิ่งเฉยขณะโดนบุก ไม่วิ่งไล่ หรือกับเกมลีกล่าสุดที่เสมอไบรท์ตัน 3-3 เทรนต์โดนทรอดซารด์ล็อคหลบจนเสียผู้เสียคน รวมถึงโดนคาโอรุ มิโตมะ เล่นงานหนัก เทรนต์โดนปีกชาวญี่ปุ่นกระชากลากเลื่อยจนเอาไม่อยู่ จังหวะ 1ต่อ1 เทรนต์เอาไม่อยู่เลย มาในนัดกับเรนเจอร์สนี้ เทรนต์จัดการซัดฟรีคิกตั้งแต่ต้นเกม ส่วนเกมรับก็ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น ส่วนหนึ่งก็เพราะแผนการเล่นที่ปรับใหม่ เทรนต์ไม่จำเป็นต้องเติมเกมบุกแบบบ้าคลั่ง ทำให้ผลงานของเทรนต์ออกมาดีส่วนอีกคนที่จะพูดถึงคือ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าค่าตัวแพงที่ยังรอเวลาในการปรับตัว ในนัดนี้ถือว่าไม่เลวสำหรับ นูนเญซ แม้จะไม่มีประตู แต่ก็สามารถคุกคามคู่แข่งได้ หาช่องได้ดี และเห็นได้ถึงแพสชั่น ภาษากายที่กระตือรือร้นอยู่เสมอ4.สู้ต่อไปกับโปรแกรมสุดโหดเดือนตุลา แม้จะเป็นการชนะเรนเจอร์ส ทีมที่ดูอ่อนที่สุดในกลุ่ม แต่ชัยชนะในนัดนี้อาจช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ทัพหงส์แดงไม่มากก็น้อย ในการสู้กับโปรแกรมที่ต้องลงเตะในเดือนตุลาคมนี้อีก 7 นัด ซึ่งพรีเมียร์ลีก 2 นัดถัดไป ต้องเจอกับจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล และรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้09/10/65 อาร์เซน่อล - ลิเวอร์พูล13/10/65 เรนเจอร์ส - ลิเวอร์พูล16/10/65 ลิเวอร์พูล - แมนฯซิตี้20/10/65 ลิเวอร์พูล - เวสต์แฮม22/10/65 ฟอเรสต์ - ลิเวอร์พูล27/10/65 อายักซ์ - ลิเวอร์พูล30/10/65 ลิเวอร์พูล - ลีดส์ฯ นี่คือทั้งหมดของประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ขอบคุณสำหรับการอ่าน สวัสดีครับ เขียนโดย : ฮาฟีย์เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก : Liverpool FC / Facebook , UEFA.TV Champions League / Facebookภาพที่ 1 : Liverpool FC / Facebookภาพที่ 2 : Liverpool FC / Facebook ภาพที่ 3 : Liverpool FC / Facebook , Liverpool FC / Facebookภาพที่ 4 : UEFA.TV Champions League / Facebook ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !