หลังจากพรีเมียร์ลีกผ่านศึกมาทั้งหมด 23 นัดแล้ว ตอนนี้ตารางบอลพรีเมียร์ลีกเริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า มีอยู่ 3 ทีมที่กำลังอยู่ในเส้นทางของการลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว ได้แก่ จ่าฝูงในตอนนี้อย่างลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง อาร์เซนอล และอันดับที่ 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้นับตั้งแต่สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นเดือนเริ่มต้นฤดูกาลพรีเมียรลีก 2023/2024 แม้แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะลุ่มๆดอนๆ อยู่ในสภาวะที่สะดุดหลายๆนัด ฟอร์มหลุดไปบ้าง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ พวกเขาก็กำลังกลับมาอยู่ในทิศทางการลุ้นแชมป์อีกครั้ง หันกลับไปทางอาร์เซนอลที่ช่วงแรกๆก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไปได้ แต่ก็ต้องมาหลุดจากตำแหน่งจ่าฝูงไปพักใหญ่ เมื่อพวกเขาอยู่ดีๆฟอร์มหลุดดื้อๆ เกมที่เล่นได้ดีก็กลับเก็บคะแนนไม่ได้ แต่สุดท้าย โมเมนตัมก็เหวี่ยงไอ้ปืนใหญ่กลับมาอยู่ในทิศทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง เมื่อสามารถเปิดบ้านเอาชนะจ่าฝูงปัจจุบันอย่างลิเวอร์พูลไปได้ 3-1 ทวงตำแหน่งเต็งลุ้นแชมป์ปีนี้อีกครั้งหนึ่ง มาทางฟากลิเวอร์พูลกันบ้าง หลังจากที่พวกเขาสะดุดแพ้ให้กับสเปอร์สไป พวกเขาก็สร้างความแข็งแกร่งทั้งแผ่นดินอังกฤษให้เห็นอีกครั้งด้วยการไม่แพ้ใครง่ายๆในลีกยาวถึง 15 นัดติดต่อกัน พร้อมทวงทีมเต็งลุ้นแชมป์อีกครั้ง แต่ก็ต้องมาสะดุดอีกครั้งกับทีมจากลอนดอนสีแดง ที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับลิเวอร์พูลไปได้อีกครั้งหนึ่ง หากมาลองเช็คดูบททดสอบการลุ้นแชมป์ของทั้ง 3 ทีมที่ว่ามา จะเห็นได้ชัดว่าจำนวนทัวร์นาเมนต์การแข่งขันในมือก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบแล้ว อาร์เซนอลดูมีภาษีในเรื่องความสดของผู้เล่นมากกว่าลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะตอนนี้ทัวร์นาเมนต์ของไอ้ปืนใหญ่เหลือเพียงยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกและพรีเมียร์ลีก ส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูล มีนัดชิงคาราบาว คัพในช่วงปลายเดือนที่ต้องเจอกับเชลซี การลุ้นแชมป์ FA Cup และยูโรป้า ลีก ที่ก็ต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าที่ต้องเล่นในหลายๆถ้วยไม่แพ้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ด้วยประสบการณ์และความเคี่ยวของเจอร์เกน คล็อปป์ และเป๊ป กวาดิโอลาร์ที่มีเหนือว่ามิเกล อาร์เตต้า อยู่ ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกเขายังคงมีภาษีที่ดีไม่แพ้อาร์เซนอลโดยบททดสอบที่น่าจะยากที่สุดของทั้งสามทีม คือ ยังมีเกมที่ต้องเจอกันเอง ตัดคะแนนกันเองอยู่ในมือความได้เปรียบของแมนซิตี้ในตอนนี้คือจำนวนนัดที่มีน้อยกว่า 1 นัด โดยเกมที่เหลือคือเกมที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของลูตัน ทาวน์ ซึ่งความได้เปรียบตรงส่วนนี้คือไพ่ตายชิ้นสำคัญ ที่จะกุมชัยชนะในการคว้าแชมป์ของแมนซิตี้มากขึ้นไปอีกเกมในช่วงเดือนมีนาคมของแมนซิตี้ ต้องเผชิญหน้ากับทั้งลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล โดยเป็นเกมเยือน 1 เกมและเกมในบ้าน 1 เกม หากแมนซิตี้สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ยังไงก็หนทางสู่แชมป์สดใสอย่างแน่นอนแต่ถ้าหากแพ้หรือสะดุดเสมอ ยังไงก็ต้องทดสอบด้วยความนิ่งและความเก๋าของทีมขณะที่ฝั่งอาร์เซนอลที่ดูได้เปรียบเรื่องของความสด ทัวร์นาเมนต์ที่เล่นน้อยกว่าลิเวอร์พูลและแมนซิตี้ มีส่วนทำให้กุมความได้เปรียบเช่นกัน แต่เมื่อเทียบๆกันแล้ว ความเก๋าประสบการณ์และฟอร์มนักเตะยังคงน้อยกว่าทั้งสองทีมที่ว่ามาส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูลจะยังคงต้องเผชิญหน้ากับเรื่องผู้เล่นที่บาดเจ็บและฟอร์มยังไม่คงเส้นคงวาอีกพักใหญ่ แต่ถ้าหากทีมได้โมฮาเหม็ด ซาลาห์กลับมาสู่แนวรุก และเหล่าผู้เล่นที่ทยอยกลับมาจากอาการบาดเจ็บ กลับมาเล่นดีขึ้น ก็ยังคงอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ต่อไป เกมที่จะชี้ชะตาการลุ้นแชมป์ต่อ น่าจะเป็นเกมที่เปิดบ้านต้อนรับแมนซิตี้ ด้วยสถิติที่แข็งแกร่งของลิเวอร์พูลที่เล่นในบ้าน ทำให้แมนซิตี้ต้องคิดหนักแทน แต่การจบด้วยผลเสมอ แมนซิตี้ถือว่าเสมอตัว แต่ลิเวอร์พูลอาจจะกระทบหนัก เพราะฤดูกาลนี้ยังเป็นอีกฤดูกาลที่ฟอร์มดั้งเดิมของทีมยังไม่กลับมา 100%ทั้งสามทีมมีบททดสอบที่ต่างกันไป แต่ด้วยศักยภาพการลุ้นแชมป์ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ยังคงเป็นความมันส์และเชียร์สนุกสำหรับแฟนบอลอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ หลายๆทีมก็พร้อมทะยานมาเป็นทีมลุ้นแชมป์เช่นกัน ไม่ว่าจะทีมเล็กหรือทีมเคยใหญ่มาก่อนฤดูกาลนี้ลุ้นสนุก ลุ้นจนวินาทีสุดท้ายอย่างแน่นอนขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Facebook Liverpool FC, Arsenal และ Manchester City ภาพที่ 2 จาก Facebook Premier Leagueภาพที่ 3 จาก Facebook Manchester Cityภาพที่ 4 จาก Facebook Arsenalภาพที่ 5 จาก Facebook Liverpool FCภาพปกบทความ จาก Facebook Liverpool FC, Manchester City และ Arsenal เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี