สโมสรลิเวอร์พูล หลังจากสร้างความยิ่งใหญ่มาตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา จนสามารถคว้าแชมป์ได้ครบทุกรายการบนเกาะอังกฤษ รวมถึงการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปได้ถึง 4 ครั้งในยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ แบ่งเป็นถ้วยยูฟ่ายูโรปาลีก 1 ครั้ง และถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 ครั้ง แม้ว่าจะสามารถคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้ครั้งเดียว แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูลในยุคนี้ได้เป็นอย่างดีแต่เมื่อเริ่มฤดูกาล 2022/2023 ต้องถือว่าเป็นจุดจบของยุครุ่งเรื่องอย่างแท้จริง เมื่อลิเวอร์พูลกลายเป็นเหมือนคนละทีมกลับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผลงานตกลงอย่างน่าใจหาย นักเตะที่เคยทำผลงานดีกลายเป็นเล่นผิดพลาดไปกันหมด ถึงแม้ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะพยายามแก้ไขมาหลายวิธีแต่ตอนถึงตอนนี้ เราก็ยังมองไม่เห็นวี่แววของลิเวอร์พูลทีมเดิมเลยแม้แต่นิดเดียววันนี้ NPK Football Style จะมาวิเคราะห์ถึง 4 ตำแหน่งในทีมลิเวอร์พูลชุดปัจจุบัน ที่กลายเป็นจุดอ่อนของทีมอย่างชัดเจน1. เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป็นอีกฤดูกาลที่เกิดความปั่นป่วนอย่างมากในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ นอกจากจะนัดกันฟอร์มตกหลายคนแล้ว ยังสลับกันหายตัวไปเพราะอาการบาดเจ็บอีก แม้ว่า เฟอร์จิล ฟานไดค์ จะยังคงเป็นตัวหลักของทีมพลาดไปเพียงไม่กี่เกม แต่คู่หูอันดับหนึ่งอย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ ดันเจออาการบาดเจ็บตั้งแต่ต้นฤดูกาล กว่าจะลงมาช่วยทีมได้ก็เข้าสู่เกมที่ 13 ไปแล้ว ถึงตอนนี้ก็ผ่านมา 26 แเกมแล้ว ฟานไดค์+โกนาเต้ เพิ่งจะได้ลงเล่นคู่กันเพียง 5 เกมเท่านั้น ทำให้ส่วนใหญ่เราจะได้เห็น เฟอร์จิล ฟานไดค์ ลงเล่นคู่กับ โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป ซึ่งเป็นสองคนที่มีผลงานตำ่กว่ามาตรฐานเป็นอย่างมาก และก็มักจะก่อความผิดพลาดส่วนตัว จนส่งผลต่อการเสียประตูของทีม ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่เสียประตูง่ายและเร็ว จริงอยู่ที่ว่า เฟอร์จิล ฟานไดค์ เองก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่เค้าก็ยังคงไว้ใจได้มากที่สุด ดังนั้นการที่ต้องเปลี่ยนคู่หูบ่อยๆมันส่งผลต่อวิธีการเล่น ต้องปรับตัวเข้าหากันตลอดเวลา ทำให้เกิดช่องโหว่ระหว่างคู่เซ็นเตอร์กลายเป็นจุดตายที่โดนคู่แข่งเล่นงาน จนเสียประตูเป็นประจำ2. แบ็คขวาความจริงแล้วตำแหน่งแบ็คทั้งสองข้างของลิเวอร์พูล ไม่ได้เก่งในเรื่องเกมรับมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่มีความโดดเด่นในการขึ้นไปเล่นเกมรุก มีการเปิดบอลที่แม่นยำจนกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ของทีม แต่ในฤดูกาลนี้ทุกอย่างหายไปหมด แบ็คซ้ายอาจจะยังพอเอาตัวรอดได้ แต่แบ็คขวากลายเป็นตำหน่งจุดตายที่คู่แข่งใช่เล่นงานได้ผลตลอด ทุกทีมรู้ดีว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นทีเด็ดในเกมรุกของลิเวอร์พูล ดังนั้นการใช้ปีกที่มีความเร็วคล่องตัวสูง คอยปั่นป่วนและกดดันไม่ให้ได้เติมเกมรุก ก็เท่ากับว่าลดความอันตรายของลิเวอร์พูลไปได้เยอะ แต่ความซวยยังไม่จบเมื่อ เทรนต์-อาร์โนลด์ เป็นแบ็คขวาที่ไม่เก่งในเกมรับอยู่แล้ว มีปัญหาในการดวลแบบตัวต่อตัว เข้าบอลไม่แม่นและกลับตัวช้า เราจึงจะเห็นว่าโดนปีกคู่แข่งเลี้ยงหลบง่ายๆเป็นประจำ แต่จะโยนความผิดให้ทั้งหมดก็ใจร้ายเกินไปหน่อย เพื่อนร่วมทีมคนอื่นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบไม่น้อยเหมือนกัน เพราะถ้าคุณต้องการเกมรุกจากเทรนต์ ก็ต้องมาช่วยกันซัพพอร์ตในจังหวะเกมรับด้วย หลายครั้งที่เติมเกมขึ้นไปแล้วโดนสวนกลับ พื้นที่แบ็คขวาจะว่างโล่งกลายเป็นบ่อน้ำ ทั้งๆที่ตอนนั้นควรจะมีนักเตะคนอื่นขยับมาช่วยปิดพื้นทีแทนไว้ก่อน ดังนั้นทั้งปัญหาที่เทนต์ฟอร์มตก ขาดการสื่อสารที่ดี และเพื่อนปล่อยให้โดดเดี่ยวขยับเข้ามาช่วยกันน้อยไป จึงนำไปสู่หายนะทางฝั่งขวาอย่างแท้จริง 3. กองกลางตัวรับในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตำแหน่งกองกลางตัวรับ มีผลต่อรูปเกมของทีมเป็นอย่างมาก ลิเวอร์พูลเองก็จะมี ฟาบินโญ่ เป็นศูนย์กลางคอยคุมจังหวะของเกมมาตลอดหลายฤดูกาล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของทัพหงส์แดงในยุครุ่งเรื่อง แต่เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลนี้หลายอย่างดูผิดแปลกไปจากเดิม ฟาบินโญ่ ฟอร์มหล่นลงไปอย่างน่าตกใจ ยิ่งในช่วงแรกเล่นเหมือนคนไม่มีแรงจูงใจ การเคลื่อนที่ดูเชื่องช้ากว่าเดิม แทบจะดักตัดเกมสวยๆไม่ได้เลย กลายเป็นคู่แข่งสามารถเลี้ยงบอล จ่ายบอลผ่านแดนกลางลิเวอร์พูลแบบสบายๆ และผลจากการอ่านเกมที่ช้าลง ทำให้ฟาบินโญ่ถึงบอลช้ากว่าคู่แข่งหลายจังหวะ จนกลายเป็นการเข้าบอลที่อันตรายเสี่ยงต่อการโดนไล่ออกอยู่หลายครั้ง จนมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องถอดออกจากตัวจริงแล้วไปใช้งาน สเตฟาน บายเซติช ดาวรุ่งวัน 18 ปีลงเล่นแทนจนผลงานของทีมเริ่มดีขึนมาบ้าง ถึงแม้ว่าช่วงหลัง ฟาบินโญ่ จะเริ่มกลับมายึดตัวจริงได้ และมีฟอร์มการเล่นที่ดูดีขึ้นช่วยทีมได้มากกว่าเมื่อช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยยกระดับแดนกลางให้แข็งแกร่งเหมือนเดิมได้4. กองกลางตัวรุกความจริงแล้วลิเวอร์พูลไม่ได้มีตำแหน่งกองกลางตัวรุกคอยปั้นเกมเหมือนอย่างทีมอื่น เหนื่องจากปกติแล้วบอลจะถูกจ่ายเข้าพื้นที่อันตรายโดยแบ็คทั้งสองข้าง แต่เมื่อฤดูกาลนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และเทรนต์-อาร์โนลด์ ฟอร์มตกลงไปเยอะไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้เหมือนเดิม แม้ว่าจะมีแนวรุกที่อันตราย แต่เมื่อไม่สามารถส่งบอลไปถึงได้ก็ดูไร้ค่าทันที ตำแหน่งกองกลางตัวรุกจึงถูกพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง และก็ดูเหมือนว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะพยายามทดลองอยู่หลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการใช้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ในช่วงแรกแต่ก็สู้แรงปะทะไม่ได้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มีบางเกมที่ทำได้ดีแต่ขาดความสม่ำเสมอ และก็ยังจ่ายบอลได้ไม่คมมากพอ หรือล่าสุดก็คือการให้ โคดี้ กัคโป ขยับลงมาล้วงบอลมากขึ้น เพื่อหนีตัวประกบและใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาบอลไปจ่ายให้เพื่อน ซึ่งก็ดูจะได้ผลดีและมีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมมากขึ้น แต่ด้วยความที่ยังไม่ใช่ตำแหน่งถนัด ความเป็นธรรมชาติจึงมีไม่มากต้องปรับตัวกันหลายอย่าง เชื่อว่าในฤดูกาลหน้าจะกลายเป็นอีกตำแหน่งที่น่าสนใจ และเจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องมีไว้อยู่ในทีมแน่นอนเมื่อมองดูฟอร์มการเล่นของทุกตำแหน่งที่กล่าวมาแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลงานของลิเวอร์พูจะตกต่ำลงไปมากขนาดนี้ จากที่เคยเป็นจุดแข็งของทีม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นจุดอ่อนซะเอง นี่ยังไม่รวมถึงนักเตะส่วนใหญ่ที่พากันเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานเกือบทั้งทีม ตอนนี้คนที่น่าเห็นใจที่สุดคงหนีไม่พ้น เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่ของทีมที่ต้องแบกรับปัญหาทั้งหมดเอาไว้ ประคองทีมผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ พร้อมทั้งต้องหาวิธีพาลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ในฤดูกาลนี้ ถ้าหากเพื่อนๆชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueID : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพปก Liverpool/Liverpoolภาพ Liverpoolภาพ1 Liverpoolภาพ2 Liverpoolภาพ3 Liverpoolภาพ4 Liverpoolภาพ5 LiverpoolCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์