ศึก inter miami vs chicago กลายเป็นแมตช์ที่คอบอล MLS ต้องพูดถึงกันทั้งคืน เพราะมันเต็มไปด้วยประตู ดราม่า และเรื่องราวที่บ่งบอกถึงสองทีมที่กำลังเดินเส้นทางแตกต่างกันในฤดูกาลนี้ เกมนี้ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ในสนาม แต่ยังสะท้อนถึงความหวังของชิคาโก ไฟร์ที่กลับมามีลุ้นอีกครั้ง และในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องเตือนใจอินเตอร์ ไมอามี่ ว่าการพึ่งซูเปอร์สตาร์ไม่พอจะทำให้หลุดจากเส้นทางที่ตั้งไว้ได้ง่ายแค่ไหน ชิคาโก ไฟร์: ทีมม้ามืดที่ปลุกชีพตัวเอง ผมต้องยอมรับเลยว่าชิคาโก ไฟร์ในปีนี้เล่นกันได้เกินคาดจริงๆ เกมนี้พวกเขาออกสตาร์ทแบบไม่กลัวบารมีเมสซีหรือซัวเรซเลย การขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้เห็นถึงการเตรียมทีมที่ละเอียด การเข้าทำที่รวดเร็ว และความมั่นใจเต็มเปี่ยม ประตูของ Dje D’Avilla และ Jonathan Dean ไม่ได้มาแบบฟลุ๊ก แต่คือผลลัพธ์จากการวางแผนโจมตีตรงจุดอ่อนของไมอามี่ สิ่งที่ผมชอบมากคือพวกเขาไม่ได้แค่เล่นเพื่อเสมอหรือรอโต้ แต่บุกใส่เต็มกำลังและเชื่อในโอกาสของตัวเอง จนท้ายที่สุดการชนะ 5-3 มันคือการยืนยันว่าไฟร์กลับมามีของจริงๆ และที่สำคัญคือได้ตั๋วเพลย์ออฟครั้งแรกตั้งแต่ปี 2017 ถือว่าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของทีมถูกเขียนขึ้นในค่ำคืนนั้น อินเตอร์ ไมอามี่: ทีมที่ยังฝากความหวังไว้บนไหล่ซูเปอร์สตาร์ พูดถึงไมอามี่ เกมนี้คือหนังคนละม้วนเลยในครึ่งแรกกับครึ่งหลัง ครึ่งแรกพวกเขาเสียการควบคุมและถูกเจาะง่ายเกินไป แต่ครึ่งหลังกลับมามีชีวิตใหม่เพราะซัวเรซจริงๆ การที่เจ้าตัวยิงเบิ้ล ตีเสมอได้ มันสะท้อนให้เห็นว่ายังไงซะประสบการณ์และความเป็น “big game player” ของเขาก็ยังคงสำคัญ แต่ปัญหาคือ…ทีมทั้งทีมเหมือนจะยังรอให้ใครสักคนมาทำปาฏิหาริย์ โดยเฉพาะในวันที่เมสซียังหาฟอร์มไม่เจอ การยิงชนเสาในครึ่งหลังคือจังหวะที่ถ้ามันเข้าจริงๆ เกมอาจเปลี่ยนไปเลย แต่ฟุตบอลก็แบบนี้ครับ ไม่ใช่ทุกวันจะเป็นวันของสตาร์ดัง ไฮไลท์ที่ผมมองว่าสำคัญ เมสซีเงียบไปสองเกมติด: นี่คือความกดดันที่แฟนๆ เริ่มจับตามอง เพราะถ้าตัวจริงยังเงียบ แต่ทีมต้องเจอคู่แข่งที่ห้าวแบบชิคาโก มันอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ซัวเรซยังเป็นตัวแบก: การทำ 2 ประตูและมีส่วนร่วมอย่างมากคือสิ่งที่ทำให้ไมอามี่ยังมีหวังจนเกือบพลิกเกม แต่การพึ่งพาเขามากเกินไปอาจไม่ยั่งยืน ชิคาโกยิงได้ทุกรูปแบบ: จะเป็นลูกครอส, จังหวะโต้กลับ หรือยิงไกล พวกเขาเล่นได้ครบเครื่อง นี่คือสัญญาณชัดว่าทีมพร้อมสำหรับเพลย์ออฟ มุมมองส่วนตัว ผมมองว่าเกมนี้คือการตบหน้าผู้จัดการทีมไมอามี่เต็มๆ เพราะการเปลี่ยนกองหลังยกชุด (ยกเว้นอัลบา) เหมือนการเสี่ยงเกินไป และมันก็เห็นผลจริงๆ ว่าเกมรับรวนตั้งแต่ต้น ชิคาโกฉวยโอกาสได้หมด ส่วนตัวผมดีใจกับชิคาโกมากๆ ที่กลับมามีที่ยืนใน MLS เพราะนี่คือทีมที่เคยหายไปจากแถวหน้ามานาน แต่ก็แอบเสียดายแทนไมอามี่เหมือนกันที่พลาดโอกาสเก็บแต้มสำคัญในการไล่ล่า Supporters’ Shield เพราะถ้าได้แชมป์ตรงนี้จริงๆ มันคงเป็นการยืนยันอีกระดับของยุคเมสซี แมตช์ inter miami vs chicago ไม่ใช่แค่เกมยิงประตูเยอะๆ ธรรมดา แต่เป็นเกมที่เล่าเรื่องราวของสองทีมได้ชัดเจน ชิคาโก ไฟร์ ที่กลับมาสู่เวทีเพลย์ออฟหลังจากรอคอยนานเกือบสิบปี กับอินเตอร์ ไมอามี่ที่ยังต้องหาสมดุลให้ได้ระหว่าง “ทีมซูเปอร์สตาร์” กับ “ทีมเวิร์ก” ที่แท้จริง สำหรับผม เกมนี้คือหนึ่งในแมตช์ MLS ที่สนุกที่สุดของปี และถ้าจะมีบทเรียนให้ไมอามี่ มันก็คือ “ฟุตบอลไม่ได้ชนะด้วยชื่อเสียง แต่ชนะด้วยการเล่นเป็นทีม” รูปภาพปก 1 มาจาก Inter Miami CF :|: รูปภาพปกที่ 1 รูปภาพปก 2 มาจาก Chicago Fire :|: รูปภาพปกที่ 2 รูปภาพประกอบ 1 มาจาก Inter Miami CF :|: รูปภาพประกอบที่ 1 รูปภาพประกอบ 2 มาจาก Chicago Fire :|: รูปภาพประกอบที่ 2 รูปภาพประกอบ 3 มาจาก Inter Miami CF :|: รูปภาพประกอบที่ 3 รูปภาพประกอบ 4 มาจาก Chicago Fire :|: รูปภาพประกอบที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !