ฟุตบอลถ้วยเล็กของอังกฤษ คาราบาวคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากจบศึกฟุตบอลโลก ก็ประเดิมด้วยคู่บิ๊กแมตช์ทันที ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดสนามต้อนรับกันมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ทีมคู่รักคู่แค้น ที่ฟาดฟันกันมาตลอดหลายฤดูกาล ถึงแม้ว่าฟอร์มในช่วงหลัง แมนซิตี้จะดูดีกว่าพอสมควร แต่ก็ไม่สามารถประมาทนักเตะหงส์แดงได้อย่างแน่นอนวันนี้ NPK Footballstyle จะพามาดูความพร้อมของทั้งสองทีม ลองมาติดตามอ่านดูกันได้เลยลงเตะ : คืนวันที่ 22 ธันวาคม เวลา 03:00 น.สนาม : Etihad Stadiumดูสด >>ID Stationความพร้อมของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ผลงานในรอบที่ผ่านมารอบ 3 : แมนซิตี้ 2-0 เชลซีแมนซิตี้ มีนักเตะที่ไปทำภารกิจในศึกฟุตบอลโลก ทั้งหมด 16 คนด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดก็เป็นนักเตะตัวหลักแทบทั้งสิ้น ในช่วงพักเบรคก็มีเกมอุ่นเครื่องเพียงเกมเดียวพบกับ คิโรน่า จากลาลีกาสเปน ถึงแม้ว่าจะมีนักเตะตัวหลักเหลือเพียง 3-4 คน แต่ก็เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนในศึกคาราบาวคัพ รอบที่ผ่านมาส่งเชลซีกลับบ้านไปแล้วหนึ่งทีม แต่ในรอบนี้ก็ยังมาเจอศึกใหญ่กับลิเวอร์พูลอีก กลายเป็นเส้นทางที่เดินไม่ค่อยสะดวกมากซักเท่าไรความพร้อมของทีมแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีนักเตะบาดเจ็บ แต่มีปัญหาตรงที่นักเตะตัวหลักยังกลับมาจากศึกบอลโลกไม่ครบ ทำให้มีนักเตะเลือกใช้ค่อนข้างจำกัด มีเพียง เควิน เดอ บรอยน์ ที่กลับมาและได้ลงเล่นกับทีมไปบ้างแล้ว ส่วนนักเตะที่ตกรอบ 16 ทีมทั้ง เอเมอริก ลาปอร์กต์, โรดรี้, มานูเอล อาคานจี น่าจะมีลุ้นได้ลงเล่นในเกมนี้ ส่วนคนอื่นที่เหลือน่าจะยังไม่พร้อมอาจจะต้องเป็นสำรองไปก่อนคาดเดา 11 ตัวจริงอเดอร์สัน(GK)- ริโก ลูวิส/ มานูเอล อาคานจี/ แอมริก ลาปอร์ต/ เซร์ฆิโอ โกเมซ/ โรดรี้/ อิลคาย กุนโดกัน/ เควิน เดอบรอยน์/ ริยาด มาห์เรซ/ มอร์แกน โรเจอร์ส/ เออร์ลิง ฮาแลนด์ความพร้อมของทีม ลิเวอร์พูลผลงานในรอบที่ผ่านมารอบ 3 : ลิเวอร์พูล 0-0 ดาร์บี้ (จุดโทษ 3-2)ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นทีมใหญ่ที่มีนักเตะไปเล่นฟุตบอลโลกค่อนข้างน้อย เพียง 7 คนเท่านั้น แต่อาจเป็นข้อดีทำให้ช่วงที่ผ่านมา ได้ซ้อมแท็กติกกันอย่างเต็มที่ นักเตะหลักหลายคนก็อยู่กับทีมตลอด และได้ลงอุ่นเครื่องไปแล้ว 2 เกม เกมแรกแพ้ ลียง 1-3 เกมที่ 2 ชนะ เอซีมิลาน 4-1 ส่วนผลงานในคาราบาวคัพรอบที่ผ่านมา ใช้นักเตะสำรองผสมดาวรุ่งเกือบทั้งทีม เลยทำได้เพียงเสมอดาร์บี้ 0-0 ก่อนที่จะเอาชนะช่วงดวลจุดโทษผ่านเข้ารอบมาได้ความพร้อมของนักเตะ อาร์ตูร์ เมโล, หลุยส์ ดิอาท, ดิโอโก้ โชต้า ยังคงต้องรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่พร้อมลงเล่นอย่างแน่นอน ส่วนนักเตะที่ไปเล่นฟุตบอลโลก ก็กลับมาเกือบครบทุกคนแล้ว ดาร์วิน นูเญซ, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่ น่าจะมีลุ้นได้ออกสตาร์ทตัวจริง ส่วนคนอื่นที่กลับมาทีหลัง น่าจะสแตนบายรอข้างสนาม เผื่อมีโอกาสต้องส่งลงมาแก้เกมคาดเดา 11 ตัวจริงเควิน เคลเลเฮอร์(GK)/ เทรนต์ -อาร์โนลด์/ โจเอล มาติป/ โจ โกเมซ/ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน/ ติอาโก้ อัลคันทารา/ ฟาบินโญ่/ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์/ / โมฮาเหม็ด ซาลาห์/ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่/ ดาร์วิน นูเญซความน่าสนใจ ในเกมนี้เป็นคู่บิ๊กแมตช์ประจำรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ต้องมาเจอกันในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย การที่ไม่มีเกมลงเตะกันมานาน ทำให้ทั้งสองทีมต้องใช้เวลาในการเรียกจังหวะของตัวเอง รูปเกมอาจจะไม่ลื่นหลายอย่างที่ผ่านมา ทีมเจ้าบ้านแมนซิตี้ ขุมกำลังยังไม่ค่อยพร้อม นักเตะบางคนยังไม่กลับจากทีมชาติ หรือกลับมาแล้วสภาพร่างกายก็ยังไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม ส่วนทีมเยือนลิเวอร์พูล มีนักเตะไปเล่นทีมชาติน้อยกว่า จึงสามารถรวมทีมกันได้เร็ว และลงฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของความฟิตนักเตะ เปรียบเทียบกันแล้วลิเวอร์พูล มีนักเตะหลักที่พร้อมใช้งานมากกว่า ในขณะที่แมนซิตี้ ขาดนักเตะหลักหลายคน อาจทำให้จังหวะของเกมมีสะดุดไปบ้าง แต่เชื่อว่าทั้งสองทีมจะสู้กันได้สนุกสูสี แต่หากจะมีทีมชนะ ลิเวอร์พูลดูจะมีภาษีที่ดีมากกว่าเดาสกอร์ : แมนซิตี้ 2-3 ลิเวอร์พูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนเล็กๆ จาก NPK Footballstyle เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือเหมารวมว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueID : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพจาก FB : Manchester City/Liverpool FCภาพปก : Man City/Man Cityภาพปก : Liverpool/Liverpoolภาพประกอบ : Man City/Man Cityภาพประกอบ : Liverpool/Liverpool Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์