นี่ก็นับเป็นปีที่ 2 แล้วสำหรับการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนบลูโค โดยท็อดด์ โบลีห์ เป็นประธานสโมสร แต่สถานการณ์ของทีมในพรีเมียร์ลีกตอนนี้กลับไม่เป็นไปตามที่แฟนบอลคาดหวังไว้ หลังจากที่สิ้นสุดยุคโรมัน อบราโมวิช ที่เข้ามาสร้างความยิ่งใหญ่และความสำเร็จให้กับสโมสรอย่างมากมาย แม้กลุ่มทุนใหม่จะระดมเงินทุนให้ทีมซื้อนักเตะมามากมายเพียงใดก็ตาม แต่ก็สวนทางกับฟอร์มการเล่นในสนาม รวมไปถึงภาพรวม 2 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาได้แบบที่ยุคก่อนๆสร้างขึ้นมาหลากหลายข่าวลือที่ออกมาจากสื่อท้องถิ่นหรือนักข่าวสายกีฬา ทั้งเรื่องของความไม่พอใจของนักเตะหลายๆคนที่เลือกเข้ามาสู่ทีมเพราะเชื่อในโปรเจ็คใหม่ของทีม แต่สุดท้ายดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามที่พวกเขาคาดหวังและเริ่มคลางแคลงในเรื่องของการบริหารจัดการ รวมไปถึงระยะสัญญายาวนานที่เป็นข้อสงสัยของเรื่องการหลบหลีกกฎการเงิน จนทำให้เริ่มจะมีความเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด อีกทั้งยังมีเรื่องของฟอร์มการเล่นของผู้เล่นที่ถูกคาดหวังจากค่าตัวมหาศาล ทั้งคริสตอฟ เอ็นคุนคูที่แม้จะเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บได้ แถมยิงประตูได้แล้ว ก็ยังไม่สามารถช่วยทีมได้เต็มที่ มิไคโล มูดริกที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับค่าตัวที่จ่ายไป ก็มีปัญหากับคนในโซเชียลอีก ส่วนที่เป็นข่าวทำให้แฟนบอลเชลซีใจสั่นกันไปทั้งบาง เมื่อมีข่าวว่าเอ็นโซ่ เฟอร์นันเดส กองกลางดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 เปิดโอกาสในการย้ายทีมเพื่อความสม่ำเสมอของฟอร์มตัวเองและการได้ไปเล่นในเกมฟุตบอลยุโรปอย่างต่อเนื่อง ยิ่งตอกย้ำโปรเจ็คของเชลซีว่ายังคงสั่นคลอนและพร้อมล้มเหลวตลอดเวลา ขนาดนักเตะที่ฟอร์มคงเส้นคงว่าอย่างเอ็นโซ่ยังมีข่าวจะย้ายทีม แล้วคนอื่นๆล่ะ จะไม่คิดย้ายออกเลยหรือไงเข้าใจว่าเจ้าของทีมชุดปัจจุบันพยายามลอกวิธีการทำทีมให้เหมือนกันกับยุคโรมัน อบราโมวิช แต่ก็ต้องการเสริมทัพด้วยนักเตะอายุน้อย ที่ยังสามารถพัฒนาศักยภาพให้ทีมได้ แต่ด้วยความคาดหวังจากแฟนบอลและความสำเร็จที่เชลซีไม่เคยขาดตอน มันเลยกลายเป็นแรงกดดันมหาศาลที่เหล่านักเตะในทีม รวมไปถึง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ แต่การสัมภาษณ์หลังเกมแพ้วูล์ฟแฮมป์ตันของเขาก็กลายเป็นชนวนเหตุที่เริ่มสร้างปัญหาให้กับเขา แถมยังถูกนักข่าวสัมภาษณ์เพื่อจี้จุดอารมณ์ของเขาอีก กลายเป็นว่าเป็นผลเสียกับทีมเข้าไปกันใหญ่แต่เมื่อเกมล่าสุดที่สามารถเอาชนะแอสตัน วิลล่าไปได้ 3-1 เข้ารอบ FA Cup ต่อไป การสัมภาษณ์ก็เริ่มจะอยู่ในบรรยากาศที่ดีขึ้นกว่าคราวก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แฟนบอลยังคงตั้งคำถามกับวิธีการจัดการภายในทีมของเขา ทั้งเรื่องการใช้นักเตะเหมือนว่ายังไม่สามารถหา 11 ตัวจริงที่ใช่ของเขาเจอสักที การเลือกใช้นักเตะขัดสายตาแฟนบอล อีกทั้งเรื่องของการตัดสินใจต่างๆนานา การบอกเป็นนัยเรื่องของการต้องใช้เวลาสร้างทีมเพื่อกลับมาเป็นทีมลุ้นโทรฟี่ใหญ่ๆ อย่างตอนที่สามารถผ่านเข้ารอบไปชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ที่จะต้องไปเจอกับลิเวอร์พูล ก็บอกชัดเจนว่าหากคว้าแชมป์นี้ได้ก็จะสามารถต่อยอดไปที่ถ้วยแชมป์ใหญ่ๆได้ แม้จะดูเป็นคำที่ใครก็พูดได้และทำให้น่าเชื่อถือก็ตาม แต่เมื่อดูภาพรวมเหตุการณ์และฟอร์มการเล่นของทีมที่ผ่านมา มันไม่ได้ส่งเสริมให้คำพูดของเขาดูสร้างความเชื่อใจเลยว่าจะชนะลิเวอร์พูลแล้วคว้าแชมป์ได้หลายๆคนจึงเลือกเปรียบเทียบทีมที่ถือกำเนิดจากจุดเริ่มต้นของความรักฟุตบอลของโรมัน อบราโมวิช ที่ยังคงตราตรึงใจแฟนบอลตลอดไป แต่การเอาชุดยุคใหม่ไปเปรียบเทียบกับยุคเก่าก็ดูจะไม่เป็นธรรมกับเหล่านักเตะชุดปัจจุบันเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ควรที่จะอยู่ในฟอร์มที่พอจะไปลุ้นแชมป์หรือลุ้นอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปแบบสม่ำเสมอได้แบบยุคนั้นก็ยังดี หากจะยึดคำพูดของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ต้องการระยะเวลาในการสร้างทีมอีกหน่อย ก็คงจะเป็นธรรมกับเขาอย่างมากเมื่อเทียบกับความเป็นจริงในตอนนี้ เมื่อชุดปัจจุบันยังไม่แน่ไม่นอนแต่ยังคงมีความพยายามในการหาผู้เล่นที่ใช่ที่สุด การไม่ใจร้อนปลดผู้จัดการทีม หรือการไม่เข้าไปแทรกแซงการจัดการภายในทีมของบอร์ดบริหาร ก็น่าจะทำให้การทำงานของทีมฟุตบอลชุดนี้ยังคงพัฒนาต่อไปได้อีก แม้จะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนก็ตาม แฟนบอลเชลซีก็ต้องอดทนรอให้ได้ ยิ่งไปกดดันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแต่ฉุดให้ทีมดิ่งลงไปเรื่อยๆเท่านั้นขอให้ทีมเชลซีที่แข็งแกร่งดังเดิมกลับมาไวๆครับขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1,2,3,4,5,6 และภาพปกบทความ จาก Facebook Chelsea Football Club เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี