อาร์เซน่อล 12 นัดชี้ชะตา ที่เดิมพันด้วย 19 ปีที่รอคอย.....ภายหลังจาก "ปาทริก วิเอร่า" กัปตันทีม ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2004 ด้วยสถิติอันน่าทึ่ง ที่ยังไม่มีทีมใดทำลายลงได้ นั่นก็คือ ทำสถิติในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ โดยการไม่แพ้ใครเลยตลอดฤดูกาลที่ฟาดแข้ง อันเป็นที่มาของ "ตำนานไร้พ่าย" หรือ "แชมป์ถ้วยทอง" อย่างที่แฟนบอลทั่วโลกทราบ โดยเฉพาะแฟนบอลแห่งเกาะอังกฤษเป็นที่เลื่องลือกันดี.....แต่แล้ว วิถีของฟุตบอล หรือ ปีศาจแห่งกาลเวลา ก็ได้เข้ามาทำให้ตำนานนี้ค่อยๆเสื่อมลง จนเป็นแค่เรื่องเล่าเอาไว้ให้เป็นที่ภาคภูมิใจของแฟนบอลรุ่นหลัง รวมถึงเป็นยาชั้นดีเอาไว้เยียวยาจิตใจเหล่าชาวกูนเนอร์ เวลาไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะปีแล้ว ปีเล่า ที่ทีมอาร์เซน่อลไม่สามารถสัมผัสถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้อีกเลย.....วันเวลาล่วงเลยมานานขนาดที่สโมสรอาร์เซน่อล เปลี่ยนรังเหย้าของพวกเขาจาก "ไฮบิวรี่" เป็น "เอมิเรตส์ สเตเดียม" และยังเปลี่ยนผู้จัดการทีมที่เปรียบเสมือนไอคอนของสโมสรจาก "อาร์เซน เวนเกอร์" มาเป็น "มิเกล อาร์เตตา" อดีตกัปตันทีมอาร์เซนอล ที่ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน นานขนาดไหนละครับ แฟนๆของไอ้ปืนโต คงรู้กันดี ถ้านับเป็นตัวเลขกลมๆก็ผ่านมา 19 ปีแล้วครับ ! https://www.facebook.com/Arsenal/photos/10160656146722713/ .....ปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับเหล่าสาวกทีมปืนใหญ่ ห่างจากแชมป์พรีเมียร์ลีกมานานขนาดนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกินครับ สำหรับทีมยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน กับการรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดของแดนผู้ดี นับตั้งแต่ปี 2004 ล่วงเลยจนมาถึงปี 2023.....และในปีนี้นี่เอง ที่ขุนพลทีมปืนโต นำทัพโดยกัปตันทีมสตาร์หนุ่ม "มาร์ติน โอเดการ์ด" ผนึกกำลังกับเหล่าแข้งสายเลือดใหม่ฟอร์มร้อนแรง อย่างเช่น "บูกาโย ซากา" , "กาเบรียล มาร์ติเนลลี่" และ"วิลเลี่ยม ซาลิบา" ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมกับการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นำมาโดย "กาเบรียล เชซุส" บวกกับ "โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้" ทั้งสองเป็นอดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งแย่งแชมป์โดยตรง จากองค์ประกอบข้างต้น รวมถึงผลงานการคุมทีมของตัวกุนซือ อาร์เตตา ทำให้ฤดูกาลนี้อาร์เซน่อลมีผลงานที่ร้อนแรงและสม่ำเสมอมาก จนทำให้เป็นจ่าฝูงอยู่ในตอนนี้ ขณะที่แข่งไปแล้ว 27 นัด จนเป็นผลงานที่หักปากกาเซียนของเหล่ากูรูหลายสำนัก พร้อมกับลบคำสบประมาทจากเหล่านักวิจารณ์ลงได้ เพราะที่ผ่านมาลูกทีมของอาร์เตตา ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือความหวังจะเป็นแชมป์ลีกนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นทั้งสิ้น เนื่องจากเราได้เห็นขุนพลทีมชุดนี้ มีหัวใจของความเป็นนักสู้ มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมในการเอาชนะ ไม่ยอมแพ้ในวินาทีสุดท้าย ดังจะได้เห็นในสถานการณ์ต่างๆ ที่ทีมปืนใหญ่ พลิกสถานการณ์กลับมาในช่วงเวลาสำคัญจนได้ในที่สุด บวกกับเกมรุกดุดัน ที่ยังมีมนต์เสน่ห์และสวยงามเหมือนเดิมตามสไตล์ของทีมอาร์เซน่อล แต่ที่เพิ่มเติมมาในฤดูกาลนี้ก็คือ เกมรับของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งเป็นจุดอ่อนเรื่อยมาของสโมสรในช่วงหลายปีหลัง และที่สำคัญอาร์เตตา ทำให้ทีมชุดนี้มีวินัย มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ช่วยกันสร้างสรรค์เกมในยามที่มีบอล ช่วยกันเล่นเกมรับในยามที่บอลอยู่ฝ่ายตรงข้าม และการเล่นฟุตบอลของพวกเขาแสดงออกมาด้วยหัวจิตหัวใจของผู้ชนะ โดยได้เห็นกันเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของแฟนบอลแล้ว ซึ่งผลงานที่ออกมาก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจน กับการนำจ่าฝูงอยู่ในตอนนี้..... https://www.facebook.com/Arsenal/photos/a.10150606524867713/10160736185617713/ .....นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลย ที่บรรดาสาวกอาร์เซน่อล จะฝันหรือหวังถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้ หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว.....แต่ก็ต้องมาดูและมาลุ้นกันต่อไปว่า 12 นัดที่เหลือนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาร์เซน่อลจะรักษาฟอร์มการเล่นระดับสูงนี้ ได้จนถึงปลายทางไหม? ประสบการณ์ของพวกเขาจะเก๋าพอประคับประคองบัลลังก์จ่าฝูงได้จนถึงนัดสุดท้ายหรือไม่? ก็คงต้องเดิมพันกันนัดต่อนัดแล้วละครับ เพราะว่าแฟนบอลกูนเนอร์ยังวางใจไม่ได้เด็ดขาด เนื่องจากอันดับสอง ที่ไล่หลังพวกเขาอยู่ ไม่ใช่ทีมอื่นใด นั่นคือ แชมป์เก่า ทีมที่น่าเกรงขามที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในสังเวียนแห่งนี้ โดยมีแต้มห่างกัน 5 คะแนน หลายคนมองว่าอาจจะห่างกันเยอะในช่องวางขนาดนี้ แต่เชื่อว่าแฟนบอลปืนหลายคนคงหวังแชมป์ได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์แน่ เพราะนี้คือ แมนซิตี้ ทีมที่พวกเขารู้จักกันดี เป็นคู่แข่งที่พร้อมจะพราก 19 ปีที่รอคอยของอาร์เซน่อลได้เสมอ ถ้าหากว่าอาร์เซน่อลพลาดโดยไม่จำเป็นอีกใน 12 นัดข้างหน้า เพราะหนึ่งในนั้น คือนัดที่พวกเขาต้องกรีธาทัพไปเมืองแมนเชสเตอร์ ในวันที่ 27 เมษายนนี้ ตามเวลาของบ้านเรา ถือได้ว่าเป็นนัดชี้ชะตาแชมป์เลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นการตัดแต้มโดยตรงในการแย่งแชมป์กัน จากสถิติที่ผ่านมาน่าหนักใจแทนแฟนบอลปืนใหญ่จริงๆครับ เนื่องจากผลงานที่เจอกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ทีมเรือใบสีฟ้า เหนือกว่า เจ้าปืนใหญ่ อยู่หลายขุมเลยทีเดียวครับ และยิ่งนัดล่าสุด เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทีมเรือใบก็บุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับทัพปืนโตไป พร้อมกับเก็บ 3 คะแนนเต็ม ออกมาจากถิ่นยอดทีมแห่งกรุงลอนดอนไปได้.....นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมจะลงโทษทุกทีมไม่เลือกหน้า หากคุณปล่อยโอกาสให้พวกเขา..... https://www.facebook.com/Arsenal/photos/10160663531797713 .....เพราะฉะนั้นแล้วศึกนัดนี้ เหมือนเป็นป้อมปราการสำคัญที่อาร์เซน่อลต้องพิชิตและก้าวข้ามมันไปให้ได้ หากหวังจะลบฝันร้ายตลอด 19 ปีที่ผ่านมา และสร้างตำนานบทใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ที่เขียนโดยยุคสมัยของพวกเขาโดยแท้จริง..... https://www.facebook.com/Arsenal/photos/10160592236257713 มาติดตามกันต่อไป ว่าสุดท้ายทบสรุปจะเป็นยังไง ใครจะเป็นผู้ครอบครองถ้วยแชมป์อันยิ่งใหญ่นี้ได้ ขอขอบคุณ / เครดิตรูปภาพภาพปกโดยผู้เขียน ออกแบบจาก Canva.comรูปภาพที่ 1 facebook.com/Arsenalรูปภาพที่ 2 facebook.com/Arsenalรูปภาพที่ 3 facebook.com/Arsenalรูปภาพที่ 4 facebook.com/Arsenal ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !