ลีลล์เปิดบ้านเอาชนะแร็งส์ 2-1 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2025 ด้วยรูปแบบการเล่น 4-2-3-1 ที่เน้นความสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุก พร้อมจังหวะจบสกอร์อันเฉียบคมของเรมี กาเบยญา (Rémy Cabella) ในนาทีที่ 37 และการใช้จุดโทษของชูบา อัคปอม (Chuba Akpom) ในนาทีที่ 86 ก่อนหน้านั้นแม้เซร์จิโอ อาคิเอเม (Sergio Akieme) จะแก้เกมให้แร็งส์ตีเสมอได้ในนาทีที่ 60 แต่ลีลล์ยังคงครองเกมได้เหนือกว่าและใช้โอกาสสำคัญเปลี่ยนเป็นประตูชัยได้สำเร็จ วิเคราะห์แทคติกและเหตุผลที่ลีลล์เอาชนะแร็งส์ 1. การจัดทัพและระบบการเล่น 4-2-3-1 สมดุลเกมรับ–รุก ลีลล์ใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยวางบาโฟเด้ ดิยากิเต้ กับโธมัส เมอนิเยร์ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ เพื่อคุมจังหวะเกมกลางสนามและตัดบอลได้อย่างรวดเร็ว การตั้งรับแนวลึก สองมิดฟิลด์ตัวรับถอยต่ำคอยช่วยแบ็คโฟร์รับมือเกมโต้กลับของแร็งส์ ทำให้ฝ่ายเยือนสร้างโอกาสจะแจ้งได้ยาก แม้แร็งส์จะใช้แผน 5-4-1 กดต่ำ แต่ก็ไม่สามารถหาพื้นที่จบสกอร์ง่ายๆ ได้ 2. จังหวะสำคัญและการทำประตู ประตูเปิดสกอร์จากเรมี กาเบยญา (น.37) กาเบยญาวัย 35 ปีที่ลงเล่นเกมสุดท้ายให้สโมสร จบสกอร์สุดประณีตด้วยการแปหลังจากลูกโหม่งเบี่ยงของเมอนิเยร์ ทำให้ลีลล์ขึ้นนำก่อนพักครึ่งอย่างคมกริบ ประตูตีเสมอของเซร์จิโอ อาคิเอเม (น.60) แร็งส์โต้กลับเร็วและอาคิเอเมสอดขึ้นมายิงด้วยซ้ายเน้นๆ ผ่านผู้รักษาประตูเข้าไปให้ทีมเยือนตีเสมอ 1-1 ก่อนเข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง จุดโทษและประตูชัยของชูบา อัคปอม (น.86) ลีลล์บีบพื้นที่จนโจเซฟ โอคุมุทำฟาวล์ในกรอบ ผลคือจุดโทษที่อัคปอมยิงเข้าไปไม่พลาด ส่งให้ลีลล์นำ 2-1 และรักษาชัยจนจบเกม 3. การครองเกมและตัวเลขสำคัญ ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน ลีลล์ครองบอลได้ถึง 78.3% แสดงถึงการควบคุมจังหวะเกมและลดโอกาสแด่แร็งส์ในการขึ้นเกม โอกาสยิงและความแม่นยำ ทีมเจ้าบ้านยิงทั้งหมด 21 ครั้ง (เข้ากรอบ 5 ครั้ง) ขณะที่แร็งส์ยิงเพียง 5 ครั้ง (เข้ากรอบ 2 ครั้ง) สะท้อนถึงความอันตรายด้านเกมรุกของลีลล์ สถิติการผ่านบอลและแย่งบอล ลีลล์ส่งบอลสำเร็จรวม 549 ครั้ง เตะมุม 10 ครั้ง และทำ 9 ครั้ง ในขณะที่แร็งส์มี 117 ผ่านบอล และ 7 แย่งบอลสำเร็จ ชัดเจนว่าลีลล์ครองเกมเหนือกว่าแทบทุกด้าน 4. การปรับแทคติกระหว่างเกม สลับบทบาทตัวรุก บรูโน่ เจเนซิโอ (Bruno Genesio) ปรับให้โอซาเมห์ ซาฮราอุย (Osame Sahraoui) ขึ้นมาเล่นสูง ช่วยสร้างปัญหาให้แนวรับแร็งส์ และเพิ่มตัวเลือกจบสกอร์ทางปีกขวา หมุนเวียนผู้เล่นตามสถานการณ์ หลังตีเสมอ แร็งส์ยิ่งเล่นยากขึ้น เจเนซิโอสลับนักเตะสำรองเข้ามาเสริมความสด ทำให้เกมรุกลีลล์ไม่หยุดนิ่ง ส่งผลให้จังหวะได้จุดโทษเกิดขึ้นในท้ายเกม บทสรุป ชัยชนะเหนือแร็งส์เป็นผลจากการวางระบบ 4-2-3-1 ที่สมดุล การใช้ตัวรุกสร้างความอันตราย และการควบคุมเกมด้วยสถิติครองบอลสูง นอกจากนี้ จังหวะสำคัญอย่างการยิงของกาเบยญาและการใช้จุดโทษของอัคปอมยังพิสูจน์ว่า “ลีลล์” จบสกอร์ได้เฉียบคมเพียงพอจะเก็บสามคะแนนในเกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ รูปหน้าปก : รูปที่1 รูปภาพที่1 : จากเฟสบุ๊ค Ligue 1 McDonald's รูปภาพที่2 : จากเฟสบุ๊ค LOSC รูปภาพที่3 : จากเฟสบุ๊ค LOSC รูปภาพที่4 : จากเฟสบุ๊ค LOSC เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !