คุณผู้อ่านรู้สึกเหมือนผมไหมครับว่า ในฐานะแฟนบอลเนี่ยดูพวกเราจะไม่ได้พักกันซะเลย นับตั้งแต่ฟุตบอบพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วปิดฉากลง เราก็ได้ดูบอลยูโรกันต่อ หลังจากนั้นก็เป็นฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิก ผ่านไปแป๊บเดียวบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ก็เวียนมาบรรจบอีกแล้ว ผมนี่สงสารนักบอลจับใจ บางคนต้องลงแข่งต่อเนื่องแทบไม่ได้พักได้ผ่อน แต่นั่นก็คือวิถีนักฟุตบอลล่ะนะครับ เรามาเข้าเรื่องเข้าราวของเรากันดีกว่า เพราะสิ่งที่ผมเกริ่นมา ผมกำลังจะนำพาคุณผู้อ่านทุกท่านเข้าสู่สถานการณ์ของทีมแมนยู ปีศาจแดงปีนี้มีนักเตะใหม่เพิมเข้ามาหลายคน และในจำนวนนั้นหลายคนก็ยังมีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม เอริค เทนฮาร์ค จำเป็นจะต้องจัดสรรกำลังพลด้วยความยืดหยุ่น ผลก็คือมันทำให้ผลงานในการเล่นนัดเปิดสนามของพวกเขาไม่ค่อยจะโสภาสักเท่าไหร่ แม็ทซ์นี้เกิดอะไรขึ้นบ้างเรามาคุยย้อนหลังกันเลยครับ 1. เปิดตัวนักเตะใหม่ให้แฟนบอลได้ชื่นใจผมว่าสำหรับแฟนเรดอาร์มี่คงจะถูกอกถูกใจกับสิ่งนี้มาก ๆ เพราะเพียงนัดแรกของฤดูกาลพวกเขาก็ได้ยลโฉมนักเตะใหม่ที่ถูกส่งลงสนามถึง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น Mazraoui , De Ligt และ Zirkzee ซึ่งแต่ละคนนั้นก็บรรเลงเพลงแข้งได้ไม่เลวเลย โดยเฉพาะศูนย์หน้าอย่าง Zirkzee ที่ทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรก แถมยังเป็นประตูสำคัญในช่วงท้ายเกม ความกดดันของเขากับการสวมยูนิฟอร์มปีศาจแดงน่าจะลดทอนลงไปได้หลายส่วน 2. คาเซมิโร่ยังคงใช้งานได้ที่ผมกล่าวถึงเขาก็เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวลือมาหนาหูเหลือเกินครับ ว่ามิดฟิลด์ตัวรับมากประสบการณ์ผู้นี้จะถูกขายออกจากทีม ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น ความเชื่องช้าที่มาเร็วเกินควร กับฟอร์มการเล่นที่กูรูหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "หมดแล้ว" การได้เห็นเขาเล่นวันนี้จึงประทับใจผมมาก ผมว่าเขายังเล่นได้อยู่ คาเซมิโร่เป็นตัวคุมจังหวะเกมในแดนกลางมิหนำซ้ำโอกาสในการทำประตูส่วนใหญ่ก็ดันมาจากเขาแทบทั้งนั้น (เพียงแต่มันไม่เข้าเป้า) ที่เหลือก็ต้องรอดูระยะยาวล่ะครับว่าเทน ฮาร์ค จะใช้เขาได้สักแค่ไหน 3. การปรากฎตัวของเมสัน เมาท์หลังจากที่เจ็บหนักหายหน้าหายตาไปเกือบทั้งฤดูกาล ในที่สุดเราก็ได้เห็นมิดฟิลด์หนุ่มรูปงามผู้นี้บนฟลอหญ้าสักที แถมในช่วงพรีซีซั่นเจ้าตัวก็แสดงผลงานได้อย่างเอกอุ มีส่วนร่วมกับการทำประตูมากมาย เพราะเหตุนี้กระมังแม็ทซ์เปิดสนามหนนี้เมาท์ถึงได้ลงเป็นตัวจริง แต่ทว่าผลงานของเจ้าตัวกลับไม่เปรี้ยงปร้างสักเท่าไหร่ การเล่นในบทบาทของศูนย์หน้าตัวหลอกหรือ Fause 9 ของเขาสลับกับบรูโน่ ดูจะไม่ค่อยเวิร์ค สร้างโอกาสให้ตัวเองไม่ได้ แล้วก็แทบจะหายไปจากเกม ทำให้ชวนคิดได้ว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของเจ้าตัวควรจะอยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะผมล่ะเสียวจริง ๆ ครับ ว่าเขากับบรูโน่อาจจะเล่นพร้อมกันไม่ได้เลย! 4. สูตรสำเร็จของเทน ฮาร์คเอาอีกแล้วครับคุณผู้อ่าน ขึ้นชื่อว่าแมนยูภาพจำที่เรามีมาตลอดก็คือการเล่นเกมรุกอย่างทรงพลัง พวกเขาคือทีมแชมป์ในตำนานที่มีคาแร็กเตอร์สู้ตายไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ จะมีก็แค่ช่วงหลัง ๆ นี่ล่ะครับที่ภาพในอดีตนั้นหายไป และเทน ฮาร์ค ก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ผมล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าแกคิดอะไรถึงส่งกองหลังลงไปถึง 2 คนในนาทีที่ 80 เกมยังเสมอกันและทีมต้องการประตู แกส่งกองหลังลงไปเพื่อ? ผมคิดได้อย่างเดียวว่าแกกลัวแพ้! และวิธีการเล่นของแมนยูในตอนนั้นก็คือการถอยลงมาเล่นเกมรับ เพื่อที่จะได้วางบอลยาวตูมเดียวไปให้กันนาโช่ใช้ความเร็ว ซึ่งมันก็คือแผนเดียวกับที่เทน ฮาร์ค ใช้มาตลอดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาไม่คิดจะเปลี่ยนอะไรเลย เขายังทำท่าถนัดอยูเหมือนเดิม บางทีแฟนบอลก็อยากเห็นอะไรใหม่ ๆ ที่มันเร้าใจกว่านี้สักหน่อย วิธีนี้มันได้ผลการแข่งก็จริงแต่มันขี้ขลาดครับ สรุปสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเฉือนหวิว เรียกได้ว่าเอาตัวรอดไปได้อย่างฉิวเฉียด มีทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่เกิดขึ้นในสนามวันนี้ กองหน้าตัวใหม่จบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมนับเป็นเรื่องดี ส่วนการเก็บคลีนชีทได้โดยไม่โดนล่อเป้าก็นับว่าใช้ได้ แต่ก็นั่นล่ะครับ! ในเมื่อคู่แข่งเป็นฟูแล่มทีมที่ไม่ได้มีชาติตระกูลอะไร การเฉือนหวิว 1 - 0 กับทีมเกรดนี้ในบ้าน ก็ยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับแฟนบอลบางกลุ่มอยู่ดี ขอให้เทนฮาร์ค เล่นเกมรุกให้เร้าใจกว่านี้ สร้างโอกาสในการจบสกอร์ให้มากกว่านี้สักหน่อย แค่นี้ผมก็ให้ผ่านแล้วครับ เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก 1 จาก FB : Manchester United ภาพหน้าปก 2 จาก FB : Manchester United รูปที่ 1 จาก FB : Manchester United รูปที่ 2 จาก FB : Manchester United รูปที่ 3 จาก FB : Manchester United รูปที่ 4 จาก FB : Manchester United Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์