รีเซต
คลาส ออฟ ‘92 : คู่ชิงสังเวียน “ครูซิเบิ้ล” ในฝัน ของแฟนสอยคิวรุ่นเก๋า by ... "จอน"

คลาส ออฟ ‘92 : คู่ชิงสังเวียน “ครูซิเบิ้ล” ในฝัน ของแฟนสอยคิวรุ่นเก๋า by ... "จอน"

คลาส ออฟ ‘92 : คู่ชิงสังเวียน “ครูซิเบิ้ล” ในฝัน ของแฟนสอยคิวรุ่นเก๋า by ... "จอน"
Supanat
6 พฤษภาคม 2561 ( 14:21 )
1.1K

นานๆ ที ผมจะมีโอกาสเขียนถึงสนุ้กเกอร์ ที่เป็นชนิดกีฬาที่มีกลุ่มผู้ชมในวงแคบๆ ไม่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย แม้จะมีถ่ายทอดสดมายังประเทศไทย อยู่แทบทุกทัวร์นาเมนต์ผ่าน True Visions ก็ตาม

แต่คู่ชิงชนะเลิศ สนุ้กเกอร์ ชิงแชมป์โลก 2018 ที่สังเวียนครูซิเบิ้ล เธียเตอร์, เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ปีนี้ ได้ทำให้ผมต้องกดแป้นพิมพ์เกี่ยวกับกีฬาสอยคิวจนได้ เมื่อรอบไฟน่อล ปรากฏชื่อของ มาร์ค เจ.วิลเลี่ยมส์ กับ จอห์น ฮิกกิ้นส์ สองนักสนุ้กเกอร์ขวัญใจวัยเก๋าในตำนาน

ย้อนไปเมื่อปี 1992 วงการฟุตบอลอังกฤษ ได้ต้อนรับสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า “คลาส ออฟ ‘92” ที่ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” บรมกุนซือชาวสกอตแลนด์ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในขณะนั้น ได้ผลักดันเหล่าดาวรุ่งเยาวชน แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 1992 ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โชว์ฝีเท้าบนโรงละครแห่งความฝัน และจากนั้น “ปีศาจแดง” ก็กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ พวกเขากวาดแชมป์ประดับตู้โชว์มากมาย โดยเฉพาะการคว้า “ทริปเปิ้ลแชมป์” เมื่อปี 1999

นักเตะในกลุ่มนั้น แฟนฟุตบอลคุ้นชื่ออย่างแน่นอน ทั้ง เดวิด เบ๊คแฮม, ไรอัน กิ๊กส์, แกรี่ เนวิลล์, นิกกี้ บัตต์, พอล สโคลส์ และ ฟิล เนวิลล์ ที่ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นตำนานลูกหนังในท้ายที่สุด

ช่วงปีเดียวกัน (ปี 1992) ในวงการสอยคิวโลก ก็มีนักสนุ้กเกอร์ ที่เกิดในปี 1975 เหมือนกัน จำนวน 3 คน ได้เลือกเทิร์นโปรโชว์ลีลาในวงการสนุ้กเกอร์อาชีพ เมื่อปี 1992 เหมือนกัน ในวัย 17 ปี และหลังจากนั้น พวกเขาทั้งสามก็ก้าวขึ้นไปเป็นทั้งแชมป์โลก และมืออันดับ 1 ของโลก ได้ทั้งหมด

“นั่นคือ คลาส ออฟ’92 ของวงการสนุ้กเกอร์โลก”

3 รายชื่อนั้นก็คือ รอนนี่ โอ’ซุนลิแวน โคตรนักสนุ้กเกอร์ชาวอังกฤษ เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัย และเจ้าของสถิติ แม็กซิมั่มเบรก (147 แต้ม) ถึง 14 ครั้ง และอีกสองคนก็คือ “คู่ชิงชนะเลิศ สนุ้กเกอร์ชิงแชมป์โลก ในปีนี้เนี่ยแหละครับ”

จอห์น ฮิกกิ้นส์ นักสนุ้กชาวสกอตแลนด์ ในวัยย่าง 43 ปี เขาเป็นแชมป์โลกมาแล้ว 4 สมัย (1998, 2007, 2009, 2011) ซึ่งถ้าเขาเป็นแชมป์ในปีนี้ นอกจากจะทำสถิติ 5 สมัยเทียบเท่า รอนนี่ แล้ว ก็ยังทำให้เขาสามารถเป็นแชมป์ที่ระยะห่างถึง 20 ปี จากครั้งแรกที่ได้แชมป์โลก เมื่อวัย 22 ปี อีกด้วย

R R / Shutterstock.com

ฮิกกิ้นส์ มีประสบการณ์ในรอบชิงชนะเลิศ ครูซิเบิ้ล ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 โดยครั้งล่าสุด เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วนี่เอง แต่เกมนั้น มันจบที่ความพ่ายแพ้ต่อ มาร์ค เซลบี้ มือ 1 ของโลก ในปัจจุบันจากอังกฤษ ที่สกอร์ 18-15 เฟรม

ฮิกกิ้นส์ อดีตมือ 1 ของโลก ใช้ระยะเวลายาวนานเกือบ 4 ปี แบกความผิดหวัง ก้าวเข้ามารอบไฟน่อลส์ได้อีกครั้ง โดยเขาเริ่มต้นผ่าน “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู นักสอยคิวหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ได้ในรอบ 32 คนสุดท้าย ด้วยสกอร์ 10-7 เฟรม ตามด้วยตบ แจ๊ค ลิชอว์สกี้ ดาวรุ่งของอังกฤษ 13-1 เฟรม ในรอบที่ 16 คนสุดท้าย จนรอบ 8 คนสุดท้าย ฮิกกิ้นส์ พบศึกหนักอย่าง จัดด์ ทรัมป์ เจ้าพ่อเซนจูรี่เบรก วัย 28 ปี แต่ก็ใช้ความเก๋า สยบไปได้ 13-12 เฟรม แบบสุดมันส์ ตามด้วยรอบรองชนะเลิศ บด คีเรน วิลสัน 17-13 เฟรม ก่อนทะลุมารอบชิงชนะเลิศ ได้ในที่สุด

ข้ามมาที่ฟอร์มของ “มาร์ค เจ วิลเลี่ยมส์” อดีตแชมป์โลก 2 สมัย (ปี 2000, 2003) เขาไม่ได้สัมผัสรอบชิงชนะเลิศ รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกมาแล้วถึง 15 ปี แน่นอน

เขาถูกมองว่า “ใจต้องเต้นรัว แรง เร็ว และตื่นเต้นกว่า ฮิกกิ้นส์” แน่นอน

Pal2iyawit / Shutterstock.com

มาร์ค ในวัย 43 ปี เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นมือวางอันดับ 7 ของรายการ และรอบแรกนักสอยคิวจากเวลส์รายนี้ ก็ชนะ จิมมี่ โรเบิร์ตสัน 10-5 เฟรม ตามด้วยชนะ โรเบิร์ต มิลกินส์ 13-7 เฟรม ในรอบ 16 คนสุดท้าย และรอบ 8 คนสุดท้าย เขาพบ อาลี คาร์เตอร์ ที่ผ่าน รอนนี่ โอ’ซุนลิแวน มาได้ แต่ด้วยความเก๋า มาร์ค ก็บดเอาชนะ อาลี ไปได้ไม่ยากเย็นนัก 13-8 เฟรม

กระทั่งรอบรองชนะเลิศ มาร์ค เจ.วิลเลี่ยมส์ ต้องพบกับ แบร์รี่ ฮอว์กิ้นส์ มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ ซึ่งก่อนจะถึงเซสซั่นสุดท้าย เขาตามหลังอยู่ 11-13 เฟรม ก่อนที่จะรวมพลังพลิกกลับมาชนะได้ 17-15 เฟรม ทำให้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ฮิกกิ้นส์ และ มาร์ค พบกันครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 แล้วของทั้งคู่ ในครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ โดยสามครั้งก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศทั้งหมด โดยมาร์ค วิลเลี่ยมส์ ชนะได้สองครั้งในปี 1999 และ 2000 ส่วน ฮิกกิ้นส์ ชนะได้ในปี 2011

และนี่คือการพบกันของทั้งคู่ใน “ครูซิเบิ้ล” ที่เป็น “เดอะ บิ๊ก วัน” ที่สุดแล้ว และมันอาจจะไม่เกิดขึ้นอีก

จากสองนักสนุ้กเกอร์ดาวรุ่ง ที่ถูกจับตามองทั้งโลก เมื่อ 26 ปีที่แล้ว
สู่ ยอดนักสอยคิววัยเกินหลักสี่
ที่เยือกเย็น สุขุม ไม่รีบร้อน ชัวร์ค่อยตบ วางขาวเฉียบ กันไว้ก่อนจะดีเสมอ
ทั้งหมดได้ทำให้คู่นี้จะเป็นคู่ชิงที่ยาวนาน และบี้กันสนุกจนหยดสุดท้ายแน่นอน

บทสรุปสุดท้าย จอห์น ฮิ้กกิ้นส์ จะได้แชมป์โลก สมัยที่ 5 หรือ มาร์ค เจ.วิลเลี่ยมส์ จะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้งได้ในรอบ 15 ปี อีกไม่นานเกินรอ เราจะได้รู้กัน….

อนึ่ง การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ สนุ้กเกอร์ชิงแชมป์โลก 2018 จะเกิดขึ้นในวันที่ 6 และ 7 พฤษภาคม โดยเล่นในระบบ 18 ใน 35 เฟรม

เซสซั่นแรก เริ่มต้นตั้งแต่ 16.00 น. ของเย็นวันที่ 6 พฤษภาคม ตามเวลาประเทศไทย
ถ่ายทอดสดทาง TrueSports HD และ App TrueID

“จอน”

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้