แจ็ค วิลเชียร์ อดีตดาวเตะทีมอาร์เซน่อล อดีตวันเดอร์คิด อดีตนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) อดีตนักเตะที่ได้รับการกล่าวขานว่าจะขึ้นแท่นเวิลด์คลาสในอนาคต แต่เมื่อนักเตะได้รับการบาดเจ็บเล่นงานมาโดยตลอด จนไม่สามารถมีโอกาสได้ลงสนามมากเท่าที่ควรจะเป็น ทำให้หลุดไปจากคำว่า วันเดอร์คิดของทีมอาร์เซน่อลไปเลย วันนี้ขอนำเสนอ นักเตะจอมเดี้ยงมีนามว่า แจ็ค วิลเชียร์ อดีตว่าที่กัปตันทีมอาร์เซน่อล cr :wikipedia.org แจ็ค วิลเชียร์ เกิดที่ประเทศอังกฤษ ปัจจุปันเป็นนักฟุตบอลทีมเวสต์แฮมยูไนเต็ด ในตำแหน่งกองกลางตัว เริ่มหัดเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 9 ขวบ กับสโมสรลูตันทาวน์ จากนั้นเข้าสู่สโมสรอาร์เซนอล ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ถือว่าวิลเชีนร์เป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรตัวจริง ที่โดดเด่นกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน วิลเชียร์ได้ฉายแววเก่งตั้งแต่เด็กก่อนได้เซ็นสัญญาอาชีพนักฟุตบอลกับทีมอาร์เซน่อล ยังติดทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนทุกระดับ จนถึงทีมชุดใหญ่ จนได้รับฉายาว่า วันเดอร์คิดของทีมอาร์เซน่อล โดยมีอาร์เซน เวงเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ได้เล็งเห็นความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้ ที่มีการเล่นฟุตบอลที่เก่งเกินอายุ จึงดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2008 ด้วยอายุ 16 ปี 256 วัน ถือว่าอายุน้อยมากที่จะสามารถลงสนามในทีมชุดใหญ่ได้ ด้วยที่วิลเชียร์เป็นนักเตะที่ห้าวหาญเกินวัย การเลี้ยงลูกบอลดี มีวิสัยทัศน์ การเคลื่อนไหวที่ดีมาก ชอบเข้าปะทะ เล่นหนัก ไม่สนใจว่าคู่ต่อสู้เป็นใคร ทั้งที่รูปร่างเล็กพริกขี้หนู ขนาดเจอนักเตะระดับโลกอย่างมาแล้ว ยังไม่กลัวแถมจะมีเรื่องกันด้วยซ้ำเมื่อลงสนาม จนอาร์เซน เวงเกอร์ นายใหญ่ให้สวมเสื้อเบอร์ 10 ด้วยซ้ำ cr :wikipedia.org วิลเชียร์ ได้รับความไว้วางใจจาก อาร์เซน เวงเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ให้เป็นนักเตะหลักในแดนกลางเสมอ คู่ไปกับ เซสก์ ฟาเบรกัส กัปตันทีมที่คอยขับเคลือนเกมกลางสนามของทีม จนได้รับคำยกย่องว่านักเตะคนนี้จะขึ้นแท่นเวิลด์คลาสแน่นอนในไม่ช้า ถึงมีแมวมองจากสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปหมายตาไว้ มีนัดหนึ่งที่ยังตราตรึ่งใจแฟนบอลนัดบอลแชมเปียนส์ลีก เจอกับ บาร์เซโลน่า วิลเชียร์เล่นได้โดดเด่นมากในแดนกลางคุมเกมไว้ได้หมด โดยฝั่งตรงข้ามมีสุดยอดนักเตะอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ และอันเดรส อิเนียสต้า ยังต้องยอม นัดนั้นทีมอาร์เซน่อลเก็บชัยชนะไปได้ cr: pixabay พอเล่นไปสักพัก วิลเชียร์ เกิดอาการบาดเจ็บข้อเท้ารบกวนตลอดเวลาเนื่องจากลงเตะบ่อยตั้งแต่เด็ก เรียกว่า "ร่างกายกรอบ" ทำให้นักเตะเหนื่อยล้ามากไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ด้วยโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลในลีคประเทศอังกฤษถี่มาก ทำให้บาดเจ็บได้ง่าย บางฤดูกาลวิลเชียร์ต้องพักไปทั้งฤดูกาล พอกลับมาเล่นได้ 2 นัด เจ็บต้องพักไปอีก จึงเป็นที่ของคำว่า นักเตะกระดูกยุง ไม่ใช่แค่มีแต่ วิลเชียร์ที่เจ็บบ่อยของทีมอาร์เซน่อล ยังมีนักเตะอย่าง โทมัส โรชี้กี้, อาบู ดิอาบี้ ที่เจ็บออด ๆ แอด ๆ จนอยู่แต่โรงพยาบาลสโมสรส่วนใหญ่ ทำให้ฟอร์มการเล่นไม่ดีเมื่อกลับมา จึงทำให้สโมสรต่อสัญญาแบบปีต่อปี จนปี 2018 อาร์เซน เวงเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ต้องวางมือลงทำให้วิลเชียร์ต้องเดินออกจากสโมสรอันเป็นที่รักของเขาที่อยู่มา 18 ปี หลังจากที่ได้คุยกับอูไน เอเมรี่ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลคนใหม่เข้ามา วิลเชียร์ไม่ได้รับการการันตีตัวจริงของทีมจึงทำให้ต้องออกจากสโมสร และได้ทำการเซ็นสัญญากับทีมเวสต์แฮมยูไนเต็ด สโมสรที่เขารักตั้งแต่เด็กแล้ว cr: pixabay ซึ่งปัจจุบันนี้ วิลเชียร์ ลงสนามให้กับ เวส์แฮมยูไนเต็ด น้อยมาก ทั้งที่จะเป็นตัวหลักของทีม เนื่องจากได้รับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง และกำลังอยู่ในช่วงรักษาตัว โดยวิลเชียร์เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ บริติช คอร์ ของอาร์เซน่อล ที่มีการสร้างทีมอาร์เซนอล โดยจะใช้นักเตะที่มีสายเลือดบริติช หรือ สหราชอาณาจักร เป็นคีย์หลักของทีมเลยทีเดียวซึ่งประกอบด้วย ธีโอ วัลคอตต์, แจ็ค วิลเชียร์ , คีแรน กิ๊บส์ คาร์ล เจนกินสัน, อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน แต่ตอนนี้ทุกคนได้แยกย้ายกันไปหมดแล้ว หลังจากที่อาร์เซน เวงเกอร์ ผู้จัดการทีมได้วางมือไป cr: pixabay ด้วยทั้งหมดทั้งมวลนี้ แจ็ค วิลเชียร์ อดีตดาวเตะทีมอาร์เซน่อล อดีตวันเดอร์คิด อดีตนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) และอดีตนักเตะที่ได้รับการกล่าวขานว่าจะขึ้นแท่นเวิลด์คลาสในอนาคต ถ้าไม่มีการอาการบาดเจ็บเล่นงาน ไม่เช่นนั้นเขาคงจะบินสูงไปเทียบกับ เมสซี โรนัลโด ไปแล้ว และยังเป็น กัปตันทีมอาร์เซนอล ยุคใหม่แน่นอน หวังว่าสักวันวิลเชียร์ จะสลัดอาการบาดเจ็บให้หายขาดสักที กลับมาเป็นนักเตะเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง และที่สำคัญกลับมาเป็นกัปตันทีมอาร์เซน่อลด้วย พาทีมโลดแล่นบนถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปอีกครั้ง