เรียกได้ว่าเป็นสถิติที่ "บ้าคลั่ง" มากๆ ในฤดูกาลนี้ของกองหน้าคนใหม่ของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มีชื่อว่า "เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์" ที่มีสถิติลงสนาม 12 นัด (รวมคอมมูนิตี ชิลด์) ยิง 19 ประตู (ณ วันที่พิมพ์บทความ) โดยเฉพาะในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดก็เพิ่งทำแฮตทริกใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในศึกผ่าเมืองแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ และถึงแม้ด้วยวัย 22 ปีที่อาจจะอยู่ในเกณฑ์ของคำว่า "ดาวรุ่ง" แต่เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนไม่คิดว่าเขาคือดาวรุ่งแล้ว เพราะเรียกได้ว่าความสามารถของเขาเกินคำว่าดาวรุ่งไปแล้ว เก่งจนที่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะมีกองหน้าคนไหนที่สามารถหยุดกองหน้าชาวนอร์เวย์ของแมนซิตี้คนนี้ได้ และมีความเป็นไปได้ว่าฮาแลนด์อาจจะเป็น "จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย" ที่แมนซิตี้ตามหามานาน เพื่อที่จะทำให้แชมป์สุดปรารถนาอย่าง "ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก" มาอยู่ในการครอบครองของพวกเขาซักทีสำหรับเออร์ลิง ฮาแลนด์นั้นถูกแมนซิตี้ซื้อตัวมาจาก "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สนนค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้อยู่ที่ 60 ล้านยูโร (51 ล้านปอนด์) พร้อมกับรับค่าเหนื่อย 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็นรองเพียงเควิน เดอ บรอยน์ที่รับอยู่สัปดาห์ละ 400,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่าฮาแลนด์นั้นได้กลับมายังถิ่นเก่าของคุณพ่อของเขาอย่าง "อัลฟ์ อิงเก ฮาแลนด์" ที่เคยค้าแข้งกับทีมเรือใบในช่วงปี 2000-2003 โดยที่ฮาแลนด์ผู้พ่อนั้นลงสนามให้กับแมนซิตี้ไป 38 นัด ยิงได้ 3 ประตูกลับมาที่เออร์ลิง ฮาแลนด์กันครับ จะเรียกว่าเขาคือ "ปรากฎการณ์" ของวงการลูกหนังโลกอีกคนนึงก็พูดได้แบบไม่เขินปากเลยจริงๆ เพราะสถิติของตัวเขานั้นสุดยอดตั้งแต่ก่อนย้ายมาแมนซิตี้แล้ว เริ่มจากที่สถิติกับทีมชาตินอร์เวย์ก่อนเลย เขาลงเล่นให้กับนอร์เวย์ตั้งแต่ชุดเยาวชน U-14 จนมาถึงชุดใหญ่ในตอนนี้รวมทั้งหมด 69 นัด ยิงไปทั้งสิ้น 51 ประตู โดยไฮไลท์อยู่ที่กับทีมชาติชุดใหญ่ เพราะเขาลงเล่น 23 นัด ยิงได้ถึง 21 ประตู แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถช่วยให้นอร์เวย์ไปโม่แข้งฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ในปลายปีนี้ได้ ส่วนสถิติกับสโมสรก่อนที่จะย้ายมาแมนซิตี้นั้น แบ่งได้ 4 ทีม ดังนี้ทีมไบรน์ เอฟเค 16 นัด 0 ประตูทีมโมลด์ 50 นัด 20 ประตูทีมเรดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก 27 นัด 29 ประตูทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 89 นัด 86 ประตูรวมสถิติก่อนย้ายมาแมนซิตี้ ฮาแลนด์ลงเล่นไป 182 เกม ถลุงประตูไป 135 ลูก อายุ 22 ปี ลงเล่น 180 นัดนิดๆ แต่ยิงไปแล้วแตะหลัก 130 ลูก สุดยอดจริงๆอย่างชื่อบทความที่ผมได้บอกไปว่าจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะพาแมนซิตี้คว้า UCL มาครอบครองได้นั้นชื่อว่าฮาแลนด์ มันอาจจะไม่เกินเกินเลยครับ เพราะลองมาดูสถิติของเขากับรายการนี้กันว่าสุดท้ายแค่ไหนซึ่งผมขอยกมาเพียงบางสถิตินะครับ เพราะเจ้าตัวสร้างสถิติในเวทีไว้เยอะมาก เช่นลงเล่นไป 22 นัดใน UCL ยิงไปแล้ว 28 ประตู (เฉลี่ย 1.27 ประตู/เกม)เป็นนักเตะคนที่ 3 ที่ยิงได้ใน 3 นัดแรกที่ลงเล่นให้กับสโมสรจากอังกฤษใน UCL ต่อจากมารูยาน ชามัคห์ (อาร์เซนอล) และเฟอร์ราน ตอร์เรส (แมนซิตี้)ย้อนกลับไปนัดที่แล้วที่แมนซิตี้ที่กับดอร์ทมุนด์ ที่ฮาแลนด์ลงสนามใน UCL นัดที่ 21 และทำได้อีก 1 ประตู ทำให้ค่าเฉลี่ยในการทำประตูของเขาในรายการนี้ คือ ทุกๆ 62 นาที เขาจะสามารถยิงประตูได้ณ ตอนนี้เขาอยู่ในอันดับ 31 ของดาวซัลโวของเวที UCL ร่วมกับดาวเตะระดับตำนานอย่างฌอง-ปิแอร์ ปาแปง และไรอัน กิ๊กส์ รวมไปถึงอันดับสูงกว่าตำนานอีกหลายคน เช่น หลุยส์ ซัวเรส, ริวัลโด้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่และสำหรับสถิติของเขากับแมนซิตี้นี้อย่างที่ได้บอกไปว่าลงเล่นไปแล้ว 12 นัด ยิงได้ 19 ประตู ซึ่งแค่ในพรีเมียร์ลีกที่ลงเล่นไปแค่ 8 นัด เจ้าตัวก็ซัดไปแล้ว 14 ลูก แถมอีก 3 แอสซิสต์ ส่วนในยูซีแอลก็เล่น 3 นัดก็ยิงไปแล้ว 5 ลูกสำหรับเหตุผลที่ผมคิดว่าฮาแลนด์จะเป็นคนที่พาแมนซิตี้เป็นแชม์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ก็เพราะว่าที่ผ่านมานั้นกองหน้าของเรือใบสีฟ้านั้นมักจะมีปัญหาในเรื่องของการจบสกอร์กันทั้งนั้น เช่น คารอส เตเบซ, เอดิน เชโก, กาเบรียล เฆซุส หรือแม้กระทั่งเซอร์คิโอ กุน อเกวโรซึ่งขอยกเว้นในรายของกุน อเกวโรที่ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของแมนซิตี้ และไม่มีใครเถียงเรื่องความสามารถของเขา แต่ต้องยอมรับว่า "อาการบาดเจ็บ" มักจะพรากเขาไปจากการช่วยให้แมนซิตี้เถลิงบัลลังก์แชมป์ยูซีแอลแต่กับเออร์ลิง ฮาแลนด์นั้นจะดูเหมือนแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกองหน้าที่ผ่านๆ มาของแมนซิตี้ คือนอกจากการจบสกอร์ที่อาจจะไม่ได้แตกต่างกับกุนมากซักเท่าไหร่ แต่เรื่องอื่นๆ ต้องยอมรับว่าฮาแลนด์นั้นเหนือกว่ากองหน้าทุกคนของแมนซิตี้ ทั้งความเร็ว, ทักษะฟุตบอล, ทักษะการยิงประตูที่สามารถยิงประตูได้ทุกท่วงท่า ไม่ว่าเพื่อนร่วมทีมจะส่งบอลมารูปแบบไหนก็สามารถจัดท่าท่างของร่างกายให้สามารถยิงประตูได้เสมอ และรวมสภาพร่างกายที่เรียกได้ว่าสภาพร่างกายของฮาแลนด์นั้นสุดยอดมากๆนอกจากนี้ฮาแลนด์นั้นยังมีคนที่พร้อมจะส่งกระสุนให้เขายิงทำประตูได้จากทุกมุมของสภาพ โดยเฉพาะในรายของเควิน เดอ บรอยน์ที่ ณ ตอนนั้นทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งนอกจากเดอ บรอยน์แล้วก็ยังจะมีฟิล โฟเดน, ริยาซ มาห์เรซ, แจ็ค กริลิช, เจา คันเชโล และแบร์นาโด ซิลวา เป็นต้น เรียกได้ว่าขอเพียงฮาแลนด์อยู่ในถูกที่ถูกเวลา ทุกคนก็พร้อมที่จะส่งบอลให้เขายิง ไหนจะมีกุนซืออย่างเป๊ป กวาร์ดิโอลากุมบังเหียนด้วยแล้วยิ่งบวกกับทักษะการจบสกอร์ของเขาแล้วนั้นยิ่งรับประกันได้เลยว่าแมนซิตี้จะได้ประตูแบบเป็นกอบเป็นกำจากฮาแลนด์แน่นอน รวมไปถึงไม่ใช่แค่การยิงประตู แต่การผ่านบอล และการส่งบอลแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กันสุดท้ายนี้ผมและทุกคนคงได้เป็นพิษสงและความน่ากลัวของนักเตะเจ้าของฉายา "จอมมารบู" คนนี้ไปแล้ว และคงไม่แปลกใจถ้าตัวเขาจะเป็นคนสำคัญที่พาแมนเชสเตอร์ ซิตี้สิ้นสุดการรอคอยกับแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พูดได้ว่านักเตะคนนี้แทบจะไม่มีจุดอ่อนใดๆ ให้จัดการได้เลยขอบคุณข้อมูลสถิติจาก OptaJoe, Wikipedia และ TransfermarktขอบคุณรูปภาพประกอบจากOfficial Facebook ของแมนเชสเตอร์ซิตี้ : ภาพปก (ภาพปก 1, ภาพปก 2 และภาพปก 3) // ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4 และภาพประกอบ 5Official Instagram ของเออร์ลิง ฮาแลนด์ : ภาพประกอบ 2Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลีย