เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดในสนาม Amex Community Stadium เป็นอันว่าเกมการแข่งขันในค่ำคืนนี้จบลงเป็นที่เรียบร้อย แฟนบอลของเจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟอัลเบี้ยน ได้ร้องตะโกนด้วยความดีใจอย่างสุดเสียง นักเตะในสนามก็วื่งฉลองกันเต็มที่เป็นอีกค่ำคืนแห่งความสุขของชาวนกนางนวล สวนทางกลับผู้มาเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล นักเตะพากันเดินคอตกยอมรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้น แฟนบอลก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง กุนซือของทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำได้เพียงเดินไปยกมือขอโทษแฟนบอลด้วยความผิดหวังอย่างเต็มที่ หลังจบเกมนี้ทุกอย่างเริ่มส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ลิเวอร์พูล กำลังจะเริ่มก้าวเข้าสู่ความล้มเหลว อีกครั้งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมทีมที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เดินหน้าลุ้นถึง 4 แชมป์ และสามารถคว้ามาได้ถึงสองรายการ นักเตะหลักส่วนใหญ่ก็ยังเป็นชุดเดิม นักเตะใหม่ที่เข้ามาก็ดูดีมีอนาตต แต่ด้วยเหตุอะไรถึงเปลี่ยนให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่มีผลงานย่ำแย่มากขนาดนี้ วันนี้เราจึงจะมาวิเคราะห์กันถึงสาเหตุของปัญหา รวมถึงทางแก้ไขที่อาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นลองมาติดตามกันได้เลยการพัฒนานักเตะ ขาดความต่อเนื่องแฟนบอลลิเวอร์พูลคงทราบกันดีอยู่แล้วว่านับตั้งแต่วันที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม การพัฒนาก็เริ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงนักเตะอย่างต่อเนื่อง นักเตะใหม่ถูกนำเข้ามาเป็นแกนหลักจนสามารถยกระดับทีมขึ้นมาได้ชัดเจน ใช้เวลาประมาณ 3 ฤดูกาลจึงเริ่มมองเห็นทีมที่มีอนาคต และสามารถเก็บเกี่ยวความสำเร็จเข้าสู่สโมสรได้เรื่อยๆ แต่ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมานี้จะเห็นได้ว่าการพัฒนานักเตะ ขาดความต่อเนื่อง เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องใช้นักเตะชุดเดิมเป็นแกนหลักมาโดยตลอด การซื้อนักเตะใหม่ส่วนใหญ่เป็นดาวรุ่งที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาปรับตัว ลิเวอร์พูลแทบจะไม่ได้ซื้อนักเตะใหม่ที่มีคุณภาพสูงกว่านักเตะที่มีอยู่เลย การแข่งขันแย่งตำแหน่งภายในทีมจึงไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ลิเวอร์พูลเลยยังอยู่ในระดับความสามารถเดิมที่เคยทำได้ แต่ยังไม่ได้ยกระดับทีมให้ก้าวไปข้างหน้ามากกว่าเดิมนักเตะเสื่อมสภาพ ขาดความกระหายเจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นคนนำวิธีการเล่นใหม่เข้ามาสู่สโมสรลิเวอร์พูล เกเก้นเพรสซิ่ง เป็นรูปแบบการเล่นที่ต้องใช้พลังงาน และความเข้าใจกันสูงมากๆ นักเตะลิเวอร์พูลต้องใช้ควาพยายามอย่างมากในการพัฒนาปรับตัว ค่อยๆเรียนรู้จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อทุกอย่างลงตัวลิเวอร์พูลในเมื่อของเจอร์เก้น คล็อปป์ ก็กลายเป็นทีมที่เล่นเกมเพรสซิ่งได้ดีลำดับต้นๆของโลก นักเตะเล่นกันด้วยความฟิตที่สูงมาก วิ่งไล่บีบพื้นที่จนคู่แข่งไม่มีช่องว่างให้จ่ายบอล ก่อนที่จะแย่งบอลมาทำเกมรุกของตัวเอง เป็นวิธีการเล่นที่สมบูรณ์แบบและได้รับการยกย่องอย่างมาก แต่เมื่อมาถึงฤดูกาลนี้หลายอย่างเริ่มถึงจึดอิ่มตัว นักเตะชุดนี้เดินหน้าคว้าแชมป์มาครบทุกรายการ ดั้งนั้นความกระหายจึงไม่ได้มีมากเหมือนที่ผ่านมา ประกอบกับตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมาทุกคนใช้ร่างกายในการเล่นเยอะมาก เรียกได้ว่าแทบจะดึงพลังงานจากอนาคตมาใช้กันเลยก็ว่าได้ เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายที่ถูกใช้งานมาอย่างหนักจึงเจอปัญหาความอ่อนล้า และเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เราจึงจะเป็นว่าบางทีนักเตะคนเดิมก็ไม่สามารถเล่นในแบบเดิมได้อีกแล้วจุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อนจุดแข็งของลิเวอร์พูลในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา นอกจากจะมีเกมรุกที่ยอดเยี่ยม เกมรับที่แข็งแกร่ง อีกหนึ่งหัวใจสำคัญก็คือแดนกลาง พื้นที่กลางสนามเป็นเหมือนสมรภูมิที่นักเตะหงส์แดงใช้ในการจัดการคู่แข่ง ทั้งการบีบเพรสซิ่งเร็ว ขยับปิดช่องว่าง และช่วยกันรุมแย่งบอลเอามาครอบครง จนคู่แข่งตั้งหลักไม่ทันต้องมาเสียบอลตรงกลางสนาม นอกจากจะช่วยทำลายเกมคู่แข่งแล้ว การดักตัดบอลยังเป็นจุดเริ่มต้นช่วยให้ทีมสร้างโอกาสทำเกมรุกเร็วจนได้ประตูมาเป็นกอบเป็นกำ แต่ในเวลานี้แดนกลางที่เคยเป็นจุดแข็งเปรียบเสมือนกำแพงที่คู่แข่งผ่านไปได้ยาก กลับกายเป็นจุดอ่อนของทีม มีช่องว่างเต็มไปหมด ปล่อยให้คู่ต่อสู้สามารถเล่นได้ง่าย แทบไม่เจอกับความกดดันเลย ลำเลียงบอลทะลุมาถึงกองหลังได้อย่างง่ายได้ โดยที่กองกลางลิเวอร์พูลได้แต่ยืนมอง ต้องยอมรับว่าในฤดูกาลนี้แทบไม่มีเกมไหนเลยที่แดนกลางลิเวอร์พูลจะทำงานผลได้ดีกว่าคู่แข่ง ขนาดและคุณภาพทีม เป็นรองคู่แข่งถ้าหากเราจัด 11 ตัวจริงชุดฟูลทีมของลิเวอร์พูล แน่นอนว่าคุณภาพและฝีมือไม่ได้เป็นรองทีมในโลกนี้ แม้แต่ยอดทีมแห่งยุคอย่างแมนซิตี้ เวลามาเจอกันในชุดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยากที่จะกินกันได้ลง แต่ถ้าหากเรามองลึกไปถึงขนาดและคุณภาพทีมแล้วยังคงเป็นรองทีมคู่แข่งอยู่มาก นักเตะสำรองของลิเวอร์พูลยังมีความสามารถแตกต่างจากตัวจริงมากเกินไป บางคนก็เจ็บประจำฤดูกาลนึงลงเล่นได้ไม่กี่นัด เป็นการเสียโควต้าไปโดยไม่จำเป็น ดั้งนั้นเราจึงจะเห็นว่าถ้าช่วงไหนที่ลิเวอร์พูล เจอปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บพร้อมกันหลายคน ผลงานจะตกลงไปอย่างชัดเจน ตัวสำรองไม่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนได้ทันเวลา จากทีมที่น่ากลัวต้องกลายเป็นทีมที่ประคองตัวเพื่อความอยู่รอด แสดงให้เห็นว่าการมีผู้เล่นในระดับฝีเท้าใกล้เคียงกันนั้น เป็นสิ่งจำเป็นมากต่อการทำทีมลุ้นแชมป์ในระยะยาวในฤดูกาล 2022/2023 น่าจะเป็นอีกฤดูกาลที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องใช้ความสามารถประคองลิเวอร์พูลไปให้ตลอดรอดฝั่ง แต่เชื่อว่าหลังจบฤดูกาลนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้ง การนำเข้าผู้เล่นที่พร้อมจะมาเป็นแกนหลักของทีมได้ทันที่ ไม่ใช่เพียงแค่การซื้ออนาคตเหมือนที่ผ่านมา ดาร์วิน นูเญซ และโคดี้ ฆัคโป ก็จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในแนวรุกหงส์แดงยุคใหม่ แดนกลางก็ควรมีนักเตะใหม่เข้ามาแทนแบบยกชุด เพื่อตอบสนองต่อแผนการเล่นให้มากกว่าเดิม หลังจากนี้เชื่ออีกไม่เกินสองฤดูกาล ถ้าการพัฒนาทีมเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็น่าจะพร้อมนำลูกทีมกลับมาเขย่าบัลลังก์แชมป์ ได้อีกครั้งเครดิตภาพภาพปก Liverpool/Liverpoolภาพ1 Liverpoolภาพ2 Liverpoolภาพ3 Liverpoolภาพ4 Liverpoolภาพ5 Liverpoolภาพ6 Liverpoolส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !