ได้คู่ชิงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับนัดชิง ยูฟ่าแชมป์ลีก ประจำฤดูกาล 2024/25 โดยคู่ชิงคือ อินเตอร์ มิลาน และ ปารีส แซ็ง แชร์กแม็ง(เปเเอสเช) จะแตะกันวันที่1มิถุนายน2568 ณ สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า มหานครมิวนิก สำหรับเปแอสเชนั้นพวกเข้าเพิ่งผ่าน3ยอดทีมจากเกาะอังกฤษ ทั้ง ลิเวอร์พูล แอสตัน วิลล่า และอาร์เซนอล ในรอบรองชนะเลิศเรียกได้เต็มปากเลยว่านี้คือมือปราบทีมจากพรีเมียร์ลีกโดยแท้ ในเกมรอบรองที่พวกเขาผ่านอาร์เซนอลมานั้นไม่ใช่งานง่ายเลย เพราะทีมไอ้ปืนใหญ่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วเพราะในฤดูกาลนี้พวกเขาไม่มีถ้วยไหนให้ลุ้นอีกแล้ว ทั้งบอลลีกและบอลถ้วยในประเทศบวกกับรอบ8ทีมพวกเขาเพิ่งปราบราชันชุดขาวจากมาดริดมาได้นี้ก็จะเสริมความมั่นใจให้พวกเขาได้มากเลยทีเดียว แม้เกมนัดแรกที่เอมิเรต สเตเดียม เปแอสเช จะบุกไปคว่ำไอ้ปืนใหญ่ได้ก็ตาม แต่ด้วยสกอร์แค่1-0อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! ค่ำคืนที่ปารีส เมื่อรายชื่อผู้เล่นออกมาก็ทำเหล่าสาวกปารีเซียน หวั่นใจไม่น้อย เพราะ11ผู้เล่นตัวจริงไร้ชื่ออุสมาน เดมเบเล่ ตัวรุกคนสำคัญที่ต้องวางก้นไว้บนม้านั่งสำรองไปก่อนด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ยังมี ควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกเครางามจากจอร์เจียเป็นหัวหอกทะลวงฟัน ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆก็เป็นชุดเดียวกับนัดแรกทีลอนดอนมีเพียงแบรดลีย์ บาร์โคลา ที่ได้ออกสตาร์ทแทน เดมเบเล่ ฝั่งทัพเดอะกันเนอร์สก็ได้ทีมชุดที่ดีที่สุดของพวกเขาเท่าที่มีลงสนามเช่นกัน ขาดผู้เล่นสำคัญๆไปเพียงแค่ กาเบรียล มากัลเญส กับ ไค ฮาแวทซ์ที่เจออาการบาดเจ็บลักพาตัวไปเท่านั้น แถมนัดนี้ได้พี่ใหญ่อย่าง โทมัส ปาร์เตย์ที่ติดโทษแบนจากเกมนัดแรกกลับมาช่วยคุมแดนกลางให้อีกด้วย นอกนั้นก็อยู่ครบ เสียงนกหวีดเป่าเริ่มเกม กันเนอร์สพลังหนุ่มก็เปิดเกมรุกใส่เจ้าบ้านอย่างไม่ให้หายใจหายคอเลยในช่วง10นาทีแรก เกมก็เป็นของอาร์เซนอลไปโดยปริยาย พวกเขาหวังจะเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่ได้ทั้งลูกโหม่งหลุดกรอบตั้งแต่แต่3นาทีแรกของดีแคลน ไรด์ และลูกยิงที่ใครเห็นก็ว่าเข้า แต่ก็ถูกนายทวารชาวอิตาลี จานรุยจิ ดอนนารุมม่า ปฎิเสธไว้ถึง2ครั้ง เมื่อเริ่มตั้งหลักได้เปแอสเชก็เริ่มเล่นเกมสวนกลับเร็วของพวกเขาได้เป็นระยะ จนกระทั้งนาทีที่27 เมื่อพวกเขาได้ลูกตั้งแต่ทางฝั่งซ้ายหน้ากรอบเขตโทษของ อาเซน่อล วิตินญ่าเป็นคนเปิดเข้าไป แต่ถูกปาร์เตย์โหม่งสกัดไว้ได้ แต่แทนที่จะโหม่งให้บอลออกหลังไปเขากลับเลือกโหม่งตั้งมาหน้าเขตโทษทีมตัวเอง โดยหวังจะเล่นลูกสวนกลับนั้นแหละแต่โชคไม่เข้าข้างเมื่อคนที่ได้บอลไม่ใช่นักแตะอาร์เซนอล แต่เป็นฟาเบียน รุยซ์ ที่ยืนรออยู่ตรงนั้นพอดี ก่อนที่มิดฟิวด์เชิงสูงเลือดกระทิงจะแตะอกให้บอลเข้าอีซ้ายเท้าถนัดและซัดเปลี้ยงเดียวบอลแฉลบนิดหน่อยแต่ดีพอจะหนีมือดาวิด ราย่า เป็นประตูขึ้นนำไปก่อน1-0 ถึงตอนนี้สกอร์รวมเป็นฝั่ง เปแอสเช ที่นำไปแล้ว2-0 อาร์เซนอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยิงประตูไล่มาให้เร็วที่สุดแต่เหมือนยิงเร่งก็ยิ่งแย่ไปใหญ่เพราะพวกเขามักจะพลาดกันง่ายๆกับบางจังหวะ จนเปแอสเชมีโอกาสโต้กลับยิงประตูตอกฝาโลงตั้งแต่ครึ่งแรกเลย พอมาครึ่งหลังก็เหมือนเดิมเปเเอสเชรับแน่นรอสวนเช่นเดิม ทางด้านอาร์เซนอลแม้จะครองบอลบุกได้มากกว่าก็ตามแต่ก็แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากครึ่งแรกเลยเปแอสเชก็ยังได้สวนกลับอยู่เรื่อยๆจนกระทั้ง น.65ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมเนื่องจากห้องvarเรียกให้ไปดูลูกจุดโทษ เมื่อผู้ตัดสินไปดูจอข้างสนามก็เรียบร้อย จอภาพได้ฉายย้อนไปในนาทีที่63 เปเเอสเช ได้เกมสวนกลับ อาคราฟ ฮาคิมี่ เป็นคนลากตะลุยจากหน้าปากประตูตัวเองฝากเพื่อนหนึ่งจังหวะก่อนเข้าไปยิงในเขตโทษอาเซน่อลแต่บอลเจ้ากรรมดันไปแฉลบมือ ไมล์ ลูอิส สเคลลี่ ผู้ตัดสินปล่อยเกมไหลไปก่อนและมาเป่าให้จุดโทษหลังดูvar คนรับหน้าที่สังหารคือวิตินญ่า หากลูกนี้เป็นประตูก็แทบจะหมดหวังเลยสำหรับฝั่งอาร์เซนอลเพราะจะตามถึง3ประตูและเวลาก็งวดลงมาทุกที แต่ก็เป็นดาวิด ราย่าที่ช่วยกู้สถานการณ์ให้กับทีมได้เมื่อพรุ่งไปปัดลูกยิงของวิตินญ่าที่ยิงเล่นทางออกหลังไป อาร์เซนอลยังเสียบอลง่ายและสุดท้ายพวกเขาก็ถูกฝัง หลังดาวิด ราย่าช่วยเซฟจุดโทษได้เพียง3นาที น.71อาคราฟ ฮาคิมี่ ก็มายิงประตูจนได้จากการเล่นโต้กลับอีกแล้วโดยเขาเป็นคนวิ่งตัดจากฝั่งขวามารับหน้าหัวกระโหลกก่อนชิ่งกับเดมเบเล่ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ก่อนแตะเข้าขวาหนึ่งทีแล้วปั้นเสียบเสาขวาอย่างหมดจด ถึงแม้อาร์เซนอลจะได้ประตูไล่มาใน น.76 และเกือบจะได้ลูกที่2ก็ตามที แต่ก็ช้าเกินไปแล้วที่จะพลิกกลับมาชนะ จบเกมเป็นปารีส แซ็ง แชร์กแม็ง เจ้าบุญทุ่มแห่งปารีสเข้าไปล่าถ้วยเกียรติยศของพวกเขาต่อที่มิวนิก คนเสกชัยชนะ นัดนี้ทางยูฟ่ายกรางวัลMVPให้ อาคราฟ ฮาคิมี่ ที่วันนี้ยิง1เเละเรียกจุดโทษให้ทีมได้อีก1บวกกับการเติมขึ้นไปช่วยเกมรุกและเกมรับก็เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆว่าทั้ง2ประตูที่ เปแอสเช ได้มานั้นจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าอาร์เซนอลก็ยิงได้เหมือนกัน หากดูจากโอกาสยิงของพวกเขาในเกมนี้ที่มีโอกาส19ครั้งและตรงกรอบ4แต่เป็น4ครั้งที่ใครเห็นก็ว่าเข้า ดังนั้นก็ต้องยกความดีความชอบให้ จานรุยจิ ดอนนารุมม่า ที่ยังรักษาฟอร์มหนึบมาตั้งแต่รอบรองนัดแรกจนมานัดนี้ เชื่อเหลือเกินว่าถ้าไม่ใช่นายด่านเลือดอิตาลีคนนี้ ฝั่งอาเซน่อลหน้าจะทำประตูได้ไม่1ก็2ลูกแน่ๆจากทั้ง2นัดที่เจอกัน ก่อนจะถึงมิวนิก ปารีส แซ็ง แชร์กแม็ง พวกเขาไม่ต้องพะวงในลีกอีกต่อไปเพราะคว้าแชมป์ลีกเอิงสมัยที่13ไปตั้งแต่เกมลีกนัดที่28 ดังนั้นก็พักตัวได้ยาวๆ จะเหลือเพียงฟุตบอลถ้วย เฟรนซ์ คัพ นัดชิงชนะเลิศที่จะพบกับ แร็งส์ เพียงถ้วยเดียวเท่านั้นก่อนนัดชิงUCL หากคว้าแชมป์เฟรนซ์คัพได้ก็จะเป็นแชมป์สมัยที่14และเป็นการกลับมาคว้าแชมป์รายการนี้ในรอบ3ปี ดังนั้นอาจต้องจัดทีมชุดที่ดีที่สุดเพื่อถ้วยนี้เหมือนกัน และนี้อาจจะเป็นปัญหาที่เกิดกับพวกเขา เพราะถ้าหากผู้เล่นคนสำคัญๆเกิดดวงแตกบาดเจ็บแล้วหายไม่ทันนัดชิงUCLนั้นจะส่งผลเสียแน่นอน จริงอยู่ที่ขุมกำลังของพวกเขานั้นมีขนาดใหญ่และคุณภาพโดยรวมก็ไม่หนีกันมากแต่สำหรับผู้เล่นบางคนนั้นก็หาคนมาทดแทนไม่ได้จริงๆ แต่หากมองในแง่ดีการได้แตะนัดชิงถ้วย เฟรนซ์ คัพ ก่อนก็เหมือนการซ่อมใหญ่ ทั้งบรรยากาศแฟนบอลและความกดดันภายในห้องแต่งตัว นี้จะทำให้นักแตะหนุ่มในทีมที่หลายคนคุ้นชินก่อนรับมือศึกใหญ่กับอินเตอร์ มิลาน ขอบคุณภาพหน้าปกจาก Facebook :PSG - Paris Saint-Germain ภาพปก ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !