เข้าสู่สัปดาห์ที่ 25 เป็นที่เรียบร้อย และถ้านับจากตรงนี้ก็น่าจะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/2024 แล้ว การขับเคี่ยวของทีมหัวตารางยังคงเข้มข้น โดยสัปดาห์นี้เป็นคิวของลิเวอร์พูลที่ต้องลงแข่งก่อนใครเพื่อน และเมื่อลองพิจารณาจากฟอร์มนัดล่าสุดที่แนวรับค่อนข้างจะมีปัญหา นายทวารมือสองอย่างน้องลูกหมีเคลเลอร์เฮอร์ก็ดูเลิ่กลักๆพิกล ผมล่ะเสียวใจเหลือเกินครับคุณผู้อ่าน ว่าการบุกไปตีรังผึ้งที่เบรนท์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยมในวันนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย รู้สึกว่าปีที่แล้วหงส์แดงก็โดนถล่มยับจนหาทางออกจากสนามแห่งนี้ไม่ถูกอยู่เหมือนกัน แมทซ์นี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง? มีช็อตไหนเป็นเหตุการณ์สำคัญ บทความนี้เราจะมาคุยหลังเกมเพื่อเก็บตกสิ่งเหล่านี้กันครับ! 1. การเคาะบอลจังหวะเดียวของโมเปย์สร้างปัญหาสุดๆ ขึ้นชื่อว่าเบรนท์ฟอร์ดสินค้าโอท็อปขึ้นหน้าขึ้นตาของพวกเขาก็คงจะหนีไม่พ้นศูนย์หน้าอย่าง อิวาน โทนีย์ แต่คุณผู้อ่านครับแมทซ์นี้ในช่วงต้นเกมผมกลับมองว่า โมเปย์ที่เล่นอยู่ข้างกันกลับเล่นได้มีประโยชน์มากกว่า การเคาะบอลทำชิ่งดีดบอลเร็วไปยังพื้นที่ว่าง สร้างความปั่นปวนให้แนวรับหงส์แดงหลายครั้ง โทนีย์ได้หลุดเข้าไปยิงก็เพราะโมเปย์ และถ้าเฉียบคมเหมือนที่เคยเป็นมาสักหน่อย เบรนท์ฟอร์ดก็น่าจะได้ประตูขึ้นนำในช่วงต้นเกมไปแล้ว ทว่าในมิติของเกมรับนั้น เบรนท์ฟอร์ดผึ้งน้อยกลับไม่ได้ใช้การเพลสซิ่งสูงหรือวิ่งเข้าบีบเร็ว พวกเขากลับเลือกที่จะใช้วิธียืนคุมโซนและมาร์คตำแหน่ง ทำให้ผู้เล่นลิเวอร์พูลได้มีเวลาเล่นกับบอลมาก ในฐานะเด็กหงส์ผมบอกตรงๆครับว่าแมทซ์นี้ค่อนข้างดูได้อย่างสบายใจ ไม่มีความเครียดใดๆ เพราะทรงบอลแบบนี้ลิเวอร์พูลก็เจอมาทั้งฤดูกาลอยู่แล้ว 2. การกลับมาของโรเบิร์ตสันค่อยเหมือนลิเวอร์พูลขึ้นมาหน่อยต้องยอมรับครับว่าหลังจากที่แบ็คซ้ายเลือดสก็อตติสท์รายนี้บาดเจ็บไป การประจำการแทนของโจ โกเมซ แม้จะทำได้ดีแต่เหลี่ยมมุมในการเปิดบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายนั้น ยังเป็นคนละเรื่อง! ผมว่าโกเมซเน้นหุบเข้ามาเล่นเป็นอินเวอร์สฟูลแบ็คซะมากกว่า การโจมตีจากริมเส้นฝั่งซ้ายที่ทรงพลังดั่งเฟอร์รารี่ที่ไม่คิดติดเบรคเลยหายไป การเปิดบอลตวัดเร็วแบบได้เสียเป็นอะไรที่สุดมาก! ไม่ต้องจับไม่ต้องล็อค ถึงเส้นหลังปุ๊บเปิดกระแทกวัดไปเลย! หลายครั้งแม่นยำ แต่ถ้าพลาดไม่แม่นบอลมันก็อาจจะแฉลบกองหลังกระเด็นกระดอน ไปให้ศูนย์หน้าเข้าชาร์จได้ มันคือการสร้างโอกาสให้ทีม ไม่ใช่เอาแต่ครองบอลป้อไปป้อมา ผมล่ะรักการกลับมาของโรเบิร์ตสันจริงๆ ครับ 3. การหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้นของดาร์วิน นูนเญชในช่วงครึ่งแรกคนที่เล่นโดดเด่นที่สุดในแนวรุกลิเวอร์พูลน่าจะเป็น ดิอาโก้ โชวต้า ศูนย์หน้าเกมเมอร์รายนี้ไม่ได้เก่งแค่นัดนี้แต่เป็นตัวจักรสำคัญมาหลายนัดแล้ว (ยกเว้นนัดที่แพ้อาร์เซน่อล) เขาทำหน้าที่เชื่อมบอลในแดนหน้า ดึงตัวประกบ จ่ายบอลให้เพื่อนในโมเมนต์ที่เหมาะสม แถมเมื่อไหร่ที่เจ้าตัวมีโอกาสได้ยิงมันก็จะเป็นประตู! เรียกได้ว่า All In One ครบหมดในคนเดียว ในช่วงที่ซาล่าห์ไม่อยู่ก็ได้ ดิอาโก้ โชวต้า นี่แหละที่แบ่งเบาภาระเอาไว้ให้ แล้ววันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่การโหม่งบอลแอสซิสต์ของเขาบ่งบอกถึงเคมีในสมอง เพราะนี่คือการโหม่งแบบโลกอนาคตชัดๆ โหม่งยังไงให้เผื่อได้พอดิบพอดีขนาดนั้น และดาร์วิน นูนเญช ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากรับบอลไปแล้วก็ยิงให้มันเข้า? ซึ่งตรงนี้ล่ะครับที่ลุ้นชิบเป๋ง! ผมนี่ถึงกับพนมมือลุ้นราวกับเตะจุดโทษในนัดชิงแชมป์เปี้ยนลีก นูนเญชดวลกับผู้รักษาประตูตัวต่อตัว เตะเฉียงไปทางซ้ายก็ได้ หรือจะแปไปทางขวาก็ดี แต่พี่แกดันเลือกที่จะใช้การชิบข้ามหัว! โอ้โห! ผมนี่ร้องลั่นบ้านเลยครับคุณผู้อ่าน! คือมันก็เป็นลูกที่เมสซี่ทำอยู่ประจำนั่นแหละ แต่นี่บอลมันออกจากหลังเท้าของนูนเญซไง! เปอร์เซ็นต์ข้ามคานเลยมากขึ้นตามเป็นเงาตามตัว ดีที่มันเข้า! โล่งใจก่อนจะดีใจครับบอกตรงๆ จนบัดนี้ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าอะไรดลใจให้บุรุษหนุ่มอุรุกกวัยเลือกที่จะยิงช็อตแบบนี้ออกมา วู้วววว..! 4. ลิเวอร์พูลเริ่มทยอยบาดเจ็บ!เกมการแข่งขันกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี นักเตะหลายคนกำลังเล่นด้วยความมั่นใจ โมเมนต์ตัมทุกอย่างกำลังมาและดูเหมือนว่าพลพรรควิหคเพลิงจะยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้ แต่จู่ๆ ฟ้าก็เล่นตลกซะอย่างงั้น! เคอร์ติส โจนส์ บาดเจ็บจากจังหวะม้วนตัวที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงอะไร ดิอาโก้ โชวต้า ที่เพิ่งชมว่าเป็นพระเอกเมื่อหัวขัอที่แล้วไป ก็ดันโดนล้มทับขาจนมีปัญหาที่หัวเข่า จนต้องหามออกจากสนาม ซ้ำร้ายช่วงพักครึ่ง ดาร์วิน นูนเญซ ที่ชิบบอลเข้าประตูอย่างเหนือ ก็ดันมาโดนเปลี่ยนออกเพราะอาการบาดเจ็บอีก ซึ่งถ้ารวมเทรนท์ อาโนลท์ ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้วเข้าไป 4 ประตูที่ลิเวอร์พูลทำได้ในแมทซ์นี้ เหมือนกับต้องเซ่นสังเวยด้วยนักเตะ 4 คนอย่างไงอย่างงั้นเลยครับคุณผู้อ่าน! นี่มันบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย?! ผมไม่ได้เช็คข่าวละเอียดนัก แต่ขณะที่ผมกำลังพิมพ์บทความนี้อยู่ก็มีข่าวออกมาอีกครับว่า โม ซาล่าห์ ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นมาอีกคน..เวรกรรม~! สรุปสุดท้าย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่นี่ล่ะครับคือโลกของฟุตบอล แม้ว่าเจอร์เก้น คล็อปป์จะหมดไฟไปแล้ว แต่เขาก็คงหนีไม่พ้นปัญหาปวดกบาลลักษณะนี้ เราในฐานะกองเชียร์ก็มีแต่จะต้องให้กำลังใจกันไป คิดซะว่าเรากำลังจะได้ดูช็อตแก้ไขสถานการณ์ครั้งสุดท้ายจากเจอร์เก้น คล็อปป์ พอคิดแบบนี้มันก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ผมกลับอยากจะให้แมทซ์ต่อไปมาถึงเร็วๆ อยากเห็นเหลือเกินครับว่าในการคุมทีมซีซั่นสุดท้าย คล็อปป์จะทิ้งความประทับใจอะไรไว้ให้พวกเราอีก! เครดิตรูปภาพภาพปก (1) จาก FB : Liverpool FCภาพปก (2) จาก FB : Liverpool FCรูปที่ 1 จาก FB : Liverpool FCรูปที่ 2 จาก FB : Liverpool FCรูปที่ 3 จาก FB : Liverpool FCรูปที่ 4 จาก FB : Liverpool FCรูปที่ 5 จาก FB : Liverpool FC ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !