ระดับตำนานทั้งนั้น!! ว่ากันว่านี่คือ 5 เซ็นเตอร์ ที่เจ๋งที่สุดตลอดกาลของศึก NBA

ถ้าให้นึกถึงตำแหน่งผู้เล่นในศึกยัดห่วง NBA ผู้เล่นที่โดดเด่น คงหนีไม่พ้นตำแหน่ง Point Guard (การ์ดจ่าย) หรือ Shooting Guard (ตัวยิง) อย่างแน่นอน เพราะ 2 ตำแหน่งนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุก และทำแต้มให้กับทีม แต่รู้หรือไม่ มีอีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญกับทีมไม่แพ้ใคร นั่นก็คือ ผู้เล่นในตำแหน่ง #Center นั่นเอง

วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 5 ผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ ที่ว่ากันว่าดีที่สุด เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกบาสเกตบอล NBA ซึ่งขอบอกว่าแต่ละคนขึ้นหิ้งระดับตำนานไปแล้ว

คารีม อับดุล แจ๊บบาร์

เซนเตอร์ตัวพ่อเจ้าของความสูง 2.18 เมตร ชายผู้ที่ว่ากันว่าเป็นนักบาสที่ทำคะแนนสม่ำเสมอให้กับทีมมากที่สุด เขาโดดเด่นด้วยท่าไม้ตายที่ใครๆ ก็ยากจะเลียนแบบ และยากที่จะป้องกัน นั่นคือการทำ “สกายฮุค” นั่นเอง

แจ๊บบาร์ ถูกดราฟท์เข้า NBA มาเป็นอันดับ 1 ในปี 1969 กับทีม มิลวอกี บักส์ และเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น เจ้าตัวก็เปล่งประกายฟอร์มการเล่น โชว์ความเทพ พาทีมแชมป์ NBA ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรก

จากนั้นเจ้าตัว ยังเดินหน้าโกยแหวนแชมป์ไม่หยุด เมื่อย้ายมาเล่นให้กับ ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ ก่อนหน้านี้เขาอาจจะยังช่วยทีมให้คว้าแชมป์ไม่ได้ แต่เมื่อทีมได้ตัว เมจิก จอห์นสัน ที่ตอนหลังกลายเป็นตำนานของ NBA อีกคน มาผนึกกำลังกัน ทั้งคู่กันช่วยกันพาทีมคว้าแชมป์ถึง 5 สมัยเลยทีเดียว

การคว้าแชมป์ NBA ได้ถึง 6 สมัย และเป็นผู้เล่น MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่า) อีก 6 สมัย เป็นแค่เหตุผลครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดเซนเตอร์ระดับตำนาน แต่ความสุดยอดอีกครึ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณต้องอึ้ง ก็คือ แจ๊บบาร์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ ที่ทำแต้มไปได้รวมทั้งหมด 38,387 คะแนน กลายเป็นนักบาสที่ทำแต้มได้สูงสุดตลลอดกาลของ NBA ซึ่งสถิตินี้ มีระยเวลายาวนานกว่า 30 ปี เลยทีเดียว

วิลท์ แชมเบอร์เลน

นี่คือสุดยอดเซนเตอร์อย่างแท้จริง ชายผู้นี่มีทั้งความเก่ง ความอึด แข็งแรง การเล่นที่สวยงาม พร้อมทั้งความมหัศจรรย์ นิยามคำจำกัดความของเขาคือ “น่าเหลือเชื่อ” เขาสร้างสถิติที่น้อยมากที่จะเกิดขึ้นได้คือ รีบาวด์ได้ถึง 55 ครั้งในเกมเดียว จากนัดที่ ฟิลาเดลเฟีย วอร์ริเออร์ส (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ในปัจจุบัน) พบ บอสตัน เซลติกส์ เมื่อปี 1960 ซึ่งก็ยังเป็นสถิติที่ไม่มีใครทำลายได้เลย

แต่ความพีคมาเกิดขึ้นเมื่อปี 1962 เมื่อ แชมเบอร์เลน เป็นนักบาสเพียงคนเดียวในยุคนั้นที่ทำแต้มได้ถึง 100 คะแนน ในเกมส์เดียว ซึ่งถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของ NBA โดยแมตช์นั้นเจ้าตัวพา ฟิลาเดลเฟีย วอร์ริเออร์ส ชนะ นิวยอร์ก นิกส์ 169-147 ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นเซนเตอร์ที่จ่ายบอลดีมากๆ อาจจะเก่งกว่าพอยน์การ์ดหลายๆ คนด้วยซ้ำไป โดยในปี 1968 เจ้าตัวมีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำแต้มอยู่ที่ 9 ครั้งต่อเกมส์กันเลย

แชมเบอร์เลน ยังโชว์ความเทพของเขาออกมาแบบไม่มีหยุด ในปี 1972 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ NBA เขาสร้างสถิติอันน่าตื่นตะลึงขึ้นอีกครั้ง คือการทำ 24 แต้ม และอีก 29 รีบาวน์ จนเจ้าตัวคว้ารางวัลตัวเล่น Final MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่ารอบชิงชนะเลิศ) ไปครอง และสถิติดังกล่าวก็ยังไม่เคยมีใครทำได้อีกเลย

ฮาคีม โอลาจูวอน

เซนเตอร์เจ้าของฉายา “เดอะ ดรีม” ที่มีความสูงถึง 2.13 เมตร เขาคือเป็นผู้เล่นที่แทบไม่มีใครหยุดเขาได้เลย ไม่ว่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะแกร่งแค่ไหน เขาก็สามารถตะลุยฝ่า แย่งรีบาวน์ หรือดังก์ใส่ได้แบบเด็ดขาด

โอลาจูวอน ถือว่าเป็นเซนเตอร์ที่มีความเร็ว ความว่องไว และจ่ายบอลแม่นอย่างมาก จนหลายๆ ยกให้เขาเป็น การ์ดจ่ายที่อยูในร่างของเซนเตอร์ เขาเป็นผู้เล่นที่สร้างสถิติไว้อย่างมากมาาย และหนึงในสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้ ก็คือผู้เล่นที่บล็อกได้มากที่สุดตลอดกาล จำนวนถึง 3,830 ครั้ง กันเลยทีเดียว

ความพีคของเขายังไม่หมดแค่นี้ เพราะก่อนหน้านี้ ในปีค.ศ. 1993-1994 เขาสร้างประวัติศาสตร์ จัดการซิว 3 สุดยอดรางวัลในปีเดียวกัน คือ นักบาสที่ทรงคุณค่าที่สุดของ NBA , แนวรับยอดเยี่ยมแห่งปี และรางวัล Final MVP ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

จนกระทั่ง ในปีค.ศ. 1994-1995 เซนเตอร์เจ้าของท่าไม้ตาย “ดรีมเชค” ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ เมื่อพา ฮิวส์ตัน ร็อกเก็ต ผงาดคว้าแชมป์ NBA ได้ ซึ่งเขามีส่วนสำคัญอย่างที่สุดในการคว้าแชมป์หนนี้

แชคิล โอนีล

ไม่มีใครไม่รู้จัก ตำนานผู้ทำสแลมดังก์จนแป้นบาสแตกกระจาย (หาคลิปดูได้ตาม Youtube) เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า “แชค” สุดยอดเซนเตอร์ร่างยักษ์ เจ้าของความสูง 2.16 เมตร หนักถึง 154 กิโลกรัม ทำให้เขากลายเป็นนักยัดห่วงที่ตัวใหญ่ที่สุดของวงการ NBA เลยทีเดียว

แม้ว่า แชค ที่รุปร่างสูงใหญ่ จะไม่ได้โดดเด่นเรื่องความเร็ว หรือเรื่องการชู้ตวงนอก แต่เขาก็ทดแทนด้วยความหนักหน่วง และดุดัน ยากที่จะหาคนเอาชนะเขาได้ในเวลาที่ต้องต่อสู้กันใต้แป้น เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดให้กับ ออร์แลนโด แมจิก ต้นสังกัดแรกที่ดราฟท์เขาเข้ามาสู่วงการ NBA จนพาทีมทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม ได้สำเต็จ แต่ในรอบชิงเขาก็พ่ายแพ้ให้กับ ฮิวส์ตัน ร็อกเก็ตส์ ที่มี ฮาคีม โอลาจูวอน ไปอย่างขาดลอย

ความสุดยอดของ แชค ที่แท้ทรูมาเจิดจ้าเมื่อเจ้าตัว ย้ายมาเล่นให้กับ ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ โดยเข้ามาจับคู่กับ โคบี ไบรอันต์ สุดยอดการ์ดระดับเทพ ทั้งคู่ช่วยกันระเบิดฟอร์ม พาทีมคว้าแชมป์ 3 ปีติดต่อกัน (1999-2000, 2001-02 และ 2002-03) จนทั้งคู่กลายเป็นคู่การ์ด และเซ็นเตอร์ ที่เล่นที่ดีที่สุดคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์

ด้วยความสุดยอดของฟอร์มการเล่น ทำให้ แชค ได้รับการเลือกเป็น MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่า) ในรอบสุดท้ายทั้ง 3 ครั้ง ที่เข้าชิง, เป็นผู้เล่นที่ทำแต้มเฉลี่ยสูงสุดในตำแหน่งเซ็นเตอร์ในประวัติศาสตร์การแข่งรอบสุดท้าย และเขายังได้รับการลงคะแนนให้เป็น MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่า) ในฤดูกาลปกติของปี 1999-2000 อีกด้วย

โมเสส มาโลน

ชายผู้ถูกขนานนามว่า Chairman of the boards ถูกยกให้เป็นเครื่องจักรการทำสถิติ Double-Double เพราะแทบจะทุกเกมที่เขาลงแข่ง ภาพที่เราจะได้เห็นซ้ำๆ คือการที่ มาโลน กระโดดคว้าลูกรีบาวน์เอง แล้วขึ้นซ้ำทำแต้มได้เอง จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือตำแหน่งผู้เล่นเซนเตอร์

ความสามารถในตำแหน่งเซนเตอร์ของเขาไม่เคยมีใครตั้งขอสงสัยได้เลย เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่คว้าแชมป์รีบาวน์ได้ถึง 5 สมัย ติดต่อกัน จากที่เขาได้ไปทั้ง 6 สมัย เขาเป็นผู้เล่นที่หาจังหวะกระโดดแย่งบอลได้อย่างยอดเยี่ยม และมีพลังในการสปริงขึ้นไปคว้าบอลได้แบบต่อเนื่อง

มาโลน ยังสร้างสุดยอดสถิติ ด้วยเป็นเป็นผู้เล่นที่ยิงลูกจุดโทษได้แต้มมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ NBA ทำไปถึง 9,018 คะแนน เป็นรอง คาร์ล มาโลน ตำนานของ NBA อีกคน เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากในผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ ที่มักจะไม่ค่อยถนัดการชู้ตลูกจุดโทษเท่าไหร่

และสถิติที่เป็นเครื่องการันตีชั้นดี ว่าเขาคือสุดยอดเซนเตอร์แห่ง NBA คือตลอดอาชีพนักบาส เขาทำแต้มไปได้ถึง 25,980 แต้ม และทำรีบาวน์ไปได้ถึง 16,012 ครั้ง จนทำให้เขาถูกเลือกเป็นผู้เล่น MVP (ผู้เล่นทรงคุณค่า) ภึง 3 สมัย เลยทีเดียว

แม้ว่า มาโลน จะเป็นครองความเป็นสุดยอดเซนเตอร์แห่งยุค แต่เขากลับได้แชมป์ NBA เพียงแค่สมัยเดียวกับ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ในปี 1983 นั่นเพราะเจ้าตัวเป็นผู้เล่นที่มักจะย้ายทีมบ่อยๆ นั่นเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ตัวท็อปทั้งนั้น!! รวมสถิติอันเป็นที่สุดของ “พรีเมียร์ลีก” ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา

เลอบรอน เจมส์ – ฤดูกาลใหม่ในวัย 35 ใครว่าแก่?

– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่