รีเซต
สุดคึกคัก! น่องเหล็กกว่า 1.5 หมื่นคนร่วมวิ่ง สสส. จอมบึงมาราธอน 2018 ปีที่ 33

สุดคึกคัก! น่องเหล็กกว่า 1.5 หมื่นคนร่วมวิ่ง สสส. จอมบึงมาราธอน 2018 ปีที่ 33

สุดคึกคัก! น่องเหล็กกว่า 1.5 หมื่นคนร่วมวิ่ง สสส. จอมบึงมาราธอน 2018 ปีที่ 33
armcasanova
21 มกราคม 2561 ( 16:30 )
518

จอมบึงมาราธอนสุดศึกคัก น่องเหล็กแห่ร่วมวิ่งกว่า 1.5 หมื่นคน “โชติ คุ้มครอง” ควง “นชยา หันดิศกุล” คว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครองในการแข่งขันวิ่งประเพณีระดับตำนาน “สสส. จอมบึงมาราธอน 2018 ปีที่ 33”

 

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2560 มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มูลนิธิวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึง และภาคีเครือข่าย ชุมชนในท้องถิ่น-นักวิ่งอาสาสมัคร ร่วมกับผู้สนับสนุนหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด จัดการแข่งขันวิ่งประเพณีระดับตำนานมาตรฐานสากล “สสส. จอมบึงมาราธอน 2018 ครั้งที่ 33” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “มาราธอนในตำนาน หรือ The Legend Marathon” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ. ราชบุรี โดยมี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย ศ.ดร. ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อ.ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. , คุณอัญชลี ถนัดกตัญญู ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์นม บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด และ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. ร่วมเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

ศ.ดร. ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กล่าวว่า “กิจกรรมวิ่งประเพณี สสส. จอมบึงมาราธอน งานประเพณีของชาวบ้านที่มีมาตรฐานสากล ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 33 จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นงานวิ่งในตำนานที่นักวิ่งทุกคนต้องมาวิ่งสักครั้งในชีวิต โดยปีนี้ยังคงมีนักวิ่งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมกันอย่างคึกคัก กว่า 15,428 คน อีกทั้งยังมีความพิเศษคือการมี School of Marathon ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.โยชิฮารุ นาเบกูระ และ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ทาเกฮิสะ ฮากิวาระ จากมหาวิทยาลัยทสึคูบะ (University of Tsukuba ) ประเทศญี่ปุ่น อันเป็นมหาวิทยาลัยที่จัดให้มีการแข่งขันมาราธอนเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ในชื่อทสึคูบะมาราธอน ได้เดินทางมาเป็นแขกรับเชิญและร่วมวิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์การวิ่งมาราธอนที่ถูกต้องให้กับนักวิ่งโครงการ First Marathon Camp ของจอมบึงมาราธอน 2018 นี้ ตลอดจนร่วมสัมมนาวิชาการเพื่อสร้างหลักสูตรการเรียนการสอน และการฝึกอบรมการวิ่งมาราธอนที่มีมาตรฐานอย่างมืออาชีพให้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง นอกจากนี้ก่อนการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 19-21 มกราคม ที่ผ่านมา ยังได้มีการจัดงานจอมบึงมาราธอน Expo เพื่อจำหน่ายสินค้าสำหรับคนรักการวิ่งตลอดจนสินค้าที่ระลึกจากชุมชนในท้องถิ่น รวมถึง การจัดแข่งขันวิ่งนักเรียนและเด็กที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,500 คน, นิทรรศการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ โดย สสส., การแสดงดนตรี และกิจกรรรมขี่จักรยานรณรงค์จอมบึงเมืองจักรยาน โดย ชุมชน อบต.จอมบึงและคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ด้วยเช่นกัน”

ผลการแข่งขันปรากฏว่า “แชมป์โอเวอร์ออลชาย” ประเภทมาราธอน เป็นของนักวิ่งชาวอังกฤษ โรเบิร์ต คร้อง เข้าเส้นชัยมาเป็นคนแรก ด้วยเวลา 2.48.32 ชม. แต่เนื่องจากกฎกติกาของการวิ่งจอมบึงมาราธอน ถ้วยพระราชทานฯ ต้องเป็นของคนไทยเท่านั้น ดังนั้นถ้วยพระราชทานจึงตกเป็นของ โชติ คุ้มครอง เข้าเส้นชัยเป็นคนที่สองของประเภทโอเวอร์ออลชายและเป็นคนไทยคนแรกในระยะนี้ที่เข้าเส้นชัยทำเวลาได้2.58.46 ชม. ส่วนแชมป์ “โอเวอร์ออลหญิง” ตกเป็นของ นชยา หันดิศกุล ด้วยเวลา 3.39.11 ชม.ได้รับถ้วยพระราชทานฯ ขณะที่ แชมป์ประเภทฮาล์ฟมาราธอน ฝ่ายชาย ได้แก่ ธนาทิพย์ ดีฉิม ด้วยสถิติเวลา 1.13.40 ชม. ส่วนแชมป์ฮาล์ฟมาราธอนหญิง ได้แก่ นนท์ ฤทัยภัทร นักวิ่งเชื้อสายมอญ ที่คว้าแชมป์มา 9 รายการติดต่อกัน และสนามนี้ก็สามารถคว้าแชมป์ด้วยสถิติเวลา 1.39.00 ชม.

ส่วนแชมป์ประเภทมินิมาราธอนชาย ได้แก่ อุ้มยศ กิจอุดม สถิติเวลา 34.58 นาที และแชมป์มินิมาราธอนหญิง ได้แก่ ขวัญฤทัย ใจทัน ด้วยสถิติเวลา 44.45 นาที
ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันทุกระยะทั้งชายและหญิงที่มีสัญชาติไทย ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล ส่วนนักวิ่งทุกคนที่เข้าเส้นชัยได้รับเหรียญรางวัลที่ออกแบบเป็นพิเศษด้วยการนำ “โอ่งมังกร” สัญลักษณ์คู่เมืองราชบุรีมาออกแบบให้เป็นเหรียญรางวัลผ่านการผลิตเป็นชิ้นงานเซรามิก

สำหรับ กิจกรรมวิ่งประเพณี “สสส. จอมบึงมาราธอน 2018 ครั้งที่ 33” จัดต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2528 ภายใต้กลิ่นไอ “งานวิ่งประเพณีของชาวบ้านที่มีมาตรฐานสากล” ด้วยความร่วมใจของ “บวร” คือชาวบ้าน วัด โรงเรียน รวมถึงความน่ารักที่ไม่ได้แต่งเติมของชาวจอมบึง ที่มาคอยให้การต้อนรับ บริการน้ำดื่ม ช่วยเหลือดูแลอำนวยความสะดวก และร่วมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจให้กับนักวิ่งทุกคน ตลอดเส้นทางการแข่งขัน ทำให้แต่ละปีจะมีนักวิ่งไทยจากแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องรับสมัครโดยการจับฉลาก (Lotto) เป็นปีที่ 2 โดยในการจัดครั้งนี้มีนักวิ่งรวม 12,700 คน แบ่งเป็น ระยะมาราธอน 4,300 คน ฮาล์ฟมาราธอน 4,800 คน และมินิมาราธอน 3,600 คน เส้นทางการวิ่งของระยะมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอนใช้เส้นทางซึ่งได้รับการวัดอย่างเป็นทางการจากผู้เชี่ยวชาญจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ โดยการแข่งขันได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสมาคมมาราธอนและวิ่งถนนนานาชาติ (AIMS-Association of International Marathons and Road Races) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับรองมาตรฐานเส้นทางวิ่งมาราธอนระดับสากล รวมถึงเป็นสนามที่ได้รับอนุญาตจัดการแข่งขันตามกติกาของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) และสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเซีย (AAA) ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.chombuengmarathon.com

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports