รีเซต
สวัสดีบอลโลก 2018 : "อาร์เจนติน่า" แชมป์เวิลด์คัพ จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่รอเติมเต็มความยิ่งใหญ่ของ "เมสซี่" ... by "บก.เก้น"

สวัสดีบอลโลก 2018 : "อาร์เจนติน่า" แชมป์เวิลด์คัพ จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่รอเติมเต็มความยิ่งใหญ่ของ "เมสซี่" ... by "บก.เก้น"

สวัสดีบอลโลก 2018 : "อาร์เจนติน่า" แชมป์เวิลด์คัพ จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่รอเติมเต็มความยิ่งใหญ่ของ "เมสซี่" ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
22 พฤษภาคม 2561 ( 17:09 )
4.4K

 

อาร์เจนติน่า
(โซนอเมริกาใต้ : อันดับ 5 ของโลก)
(FIFA Ranking Update :07 June 2018)

 

 

PROFILE

ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย : 16 ครั้ง

แชมป์ : 2 สมัย
– 1978 ชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-1
– 1986 ชนะ เยอรมันตะวันตก 3-2

ทัพ “ฟ้าขาว” ชุดนี้ถูกแฟนบอลค่อนโลกปรามาสว่า ถ้าไม่มี ลิโอเนล เมสซี่ ป่านนี้ อาร์เจนติน่า ก็อาจจะช็อคโลกด้วยการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 48 ปี นับตั้งแต่ เม็กซิโก’70 แต่โชคดีที่พระเจ้ายังคงเห็นใจด้วยการประทานนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกมาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวอาร์เจนไตน์

การที่ต้องออกแรงเหนื่อยถึงนัดสุดท้ายในรอบคัดเลือกนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ แต่ขึ้นชื่อว่า อดีตแชมป์โลกสองสมัย และรองแชมป์โลกทีมล่าสุด รวมถึงนักเตะระดับเวิลด์คลาสทั้ง เมสซี่, อเกวโร่, ดีบาล่า, อิกวาอิน, ดิ มาเรีย สุดท้ายแล้วก็คงไม่มีใครกล้าที่จะกาชื่อยี่ห้อ อาร์เจนติน่า ออกจากสารบบของการลุ้นแชมป์อยู่ดี

มาลุ้นกันว่าความมหัศจรรย์ที่ ลิโอเนล เมสซี่ มอบเอาไว้ให้กับโลกลูกหนังนั้นจะเพียงพอที่จะนำทัพ “ฟ้าขาว” สมหวังในรายการนี้เป็นหนที่สามหรือไม่ นับตั้งแต่ที่ ดิเอโก้ มาราโดน่า ฝากผลงานกระฉ่อนโลกไว้ใน เม็กซิโก’86 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่แข้งอาร์เจนไตน์ได้ชูถ้วยแชมป์โลก

….

…..

รายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า
ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย

ผู้รักษาประตู : เซร์คิโอ โรเมโร่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), วิลลี่ กาบาเยโร่ (เชลซี), ฟรังโก้ อาร์มานี่ (ริเวอร์เพลท)

กองหลัง : กาเบรียล เมร์คาโด้ (เซบีย่า), คริสเตียน อันซัลดี้ (โตริโน่), นิโกลัส โอตาเมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), เฟเดริโก้ ฟาซิโอ้ (โรม่า), มาร์กอส โรโฮ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), นิโคลัส ทาเกลียฟิโก้ (อาแจ็กซ์), มาร์กอส อากุนญ่า (สปอร์ติ้ง)

กองกลาง : ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (เหอเป่ย ไชน่า ฟอร์จูน), เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ้ (เบนฟิก้า), ลูคัส บิเกลีย (เอซี มิลาน), โจวานี่ โล เซลโซ่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), เอแวร์ บาเนก้า (เซบีย่า), เอ็นโซ่ เปเรซ (ริเวอร์เพลต), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (อินดิเพนเดนเต้), อังเคล ดิ มาเรีย (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), คริสเตียน ปาวอน (โบค่า จูเนียร์ส)

กองหน้า : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า), เปาโล ดีบาล่า (ยูเวนตุส), กอนซาโล อิกวาอิน (ยูเวนตุส), เซร์คิโอ้ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

….

…..

รู้จักเฮดโค้ช : ฮอร์เก้ ซามเปาลี

 

AP Photo/Gustavo Garello

 

ฝันร้ายจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ ฮอร์เก้ ซามเปาลี ต้องยุติเส้นทางการค้าแข้งไว้ที่ 19 ปีเท่านั้น แต่นั้นไม่ได้ทำให้เจ้าตัวหันหลังจากวงการลูกหนังแต่อย่างใด หนำซ้ำกลับเป็นแรงผลักดันให้เขามุ่งมั่นสู่การเป็นกุนซืออย่างเต็มตัวในอีก 23 ต่อมา

และด้วยความรักในฟุตบอล ซามเปาลี จึงเริ่มออกเดินทางในฐานะมือปืนรับจ้างไปทั่วอเมริกาใต้ เจ้าตัวใช้ชีวิตการเป็นเฮดโค้ชใน เปรู ถึง 6 ปี ก่อนจะเปลี่ยนไปรับงานที่ ชิลี รวมถึง เอกวาดอร์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่

แต่การตัดสินใจย้อนกลับไปที่ ชิลี อีกครั้งในปี 2011 กับ ยูนิเวอร์ซิดัด เดอ ชิลี ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต ซามเปาลี พาสโมสรผงาดคว้าแชมป์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ทั้ง อเปอร์ตูร่า และเคลาซูร่า แถมเท่นั้นยังไม่พอ เจ้าตัวยังพาทีมไปคว้าโทรฟี่ โคปา ซูดาเมริคาน่า (เทียบเท่ากับ ยูโรป้า ลีก ในยุโรป) มาประดับตู้โชว์เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ส่งผลให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รักของแฟนบอลทันที พร้อมกับได้รับการยกย่องอย่างสูงไปทั่วทั้งอเมริกาใต้

ด้วยผลงานระดับมาตเตอร์พีซแบบนี้ สมาคมฟุตบอลชิลี (ANFP) จึงไม่รีรอที่จะหยิบยื่นสัญญาให้ ซามเปาลี ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือของทีมชาติชิลีอย่างสง่าผ่าเผย

ชัยชนะ 27 จาก 43 นัดที่เจ้าตัวกุมบังเหียนทัพ “ลา โรฆา” ซามเปาลี ได้เนรมิตช่วงเวลาดังกล่าวให้กลายเป็นช่วงเวลาสุดมหัศจรรย์ของทีมชาติชิลี การเอาชนะชาติบ้านเกิดอย่าง อาร์เจนติน่า พร้อมกับพา ชิลี ผงาดคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ในปี 2015 คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานของกุนซือรายนี้

และด้วยท่ามกลางเสียงเรียกร้องของแฟนบอลอาร์เจนไตน์ที่ต้องการเห็น ซามเปาลี เข้ามากอบกู้สถานการณ์ของทัพ “ฟ้าขาว” ทำให้สุดท้าย ฮอร์เก้ ซามเปาลี กลายเป็นกุนซือคนที่ 9 ในรอบ 18 ปีของมาตุภูมิ

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ หลัง อาร์เจนติน่า ต้องลุ้นเข้ารอบจนถึงนัดสุดท้าย ยังดีที่ ลิโอเนล เมสซี่ ระเบิดฟอร์มเทพได้ทันหลังกดแฮตทริกในนัดสุดท้ายใส่ เอกวาดอร์ พร้อมกับเข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติในฐานะทีมอันดับสามจากโซนคอนเมลโบ

แม้ฟอร์มในเกมอุ่นเครื่องของพวกเขาอาจจะดูน่าผิดหวังสุดๆ หลังพ่ายต่อ ไนจีเรีย ถึง 4-2 ทั้งๆ ที่นำไปก่อนสองเม็ด ตลอดจนบุกไปโดน สเปน ถลุงยับ 6-1 ทำให้ อาร์เจนติน่า และ ซามเปาลี กลายเป็นตัวตลกในวงการลูกหนังไปพักใหญ่

แต่ขึ้นชื่อว่าการเป็นชาติที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้วสองครั้ง อาร์เจนติน่า ยังคงเป็น อาร์เจนติน่า อยู่วันยังค่ำ ต้องดูว่าแทคติกของ ซามเปาลี เองจะเคี่ยว และดีพอที่จะนำทัพ “ฟ้าขาว” ประสบความสำเร็จที่รัสเซียได้หรือไม่ ไอซ์แลนด์, โครเอเชีย และไนจีเรีย จะเป็นผู้ให้คำตอบในรอบแบ่งกลุ่ม

….

…..

สตาร์เด่น : ลิโอเนล เมสซี่

 

 

หากอดีตแชมป์โลกสองสมัยไม่มี 7 ประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ ในเวิลด์ คัพ รอบคัดเลือก อาร์เจนติน่า จะทำแต้มหลุดมือเพิ่มไปอีก 7 คะแนน นั่นเท่ากับว่า พวกเขาจะตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 48 ปี ฉะนั้นคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า เมสซี่ คือทุกสิ่งทุกอย่างของ อาร์เจนติน่า ในยุคนี้อย่างแท้จริง

61 ประตู จาก 123 นัด คือเครื่องพิสูจน์ที่ทำให้กัปตันทีมรายนี้ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของชาติ นำหน้าแข้งระดับตำนานทั้ง กาเบรียล บาติสตูต้า, เอร์นาน เครสโป รวมถึงนักเตะที่เขาถูกนำไปเปรียบเทียบมากที่สุดอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า

ทั้งคู่สวมใส่เสื้อหมายเลข 10 ในถิ่นคัมป์ นู เหมือนๆ กัน มีสไตล์การเล่นที่สวยงาม และยังทรงประสิทธิภาพ และสามารถวัดผลได้จากความสำเร็จ ทั้งสองถูกยกย่องดุจเทพเจ้าจากแฟนบอลทั้งโลกเหมือนกันในฐานะ “นักเตะที่เก่งที่สุดในโลก”

หากวัดในแง่ของโทรฟี่ความสำเร็จ แน่นอน เมสซี่ ย่อมดูเหนือกว่า หลังพา บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นเพียงสโมสรเดียวที่เขาเคยค้าแข้ง (และยังเล่นอยู่) กวาดถ้วยรางวัลไปถึง 32 ใบ พร้อมกับพาทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าเหรียญทองใน โอลิมปิก ที่ ปักกิ่ง รวมถึงแชมป์เยาวชนโลกในปี 2005 นี่ยังไม่รับรางวัลส่วนตัวอีกมากมายที่จะรู้จะพิมพ์ชื่อลงไปอย่างไร เพราะมันมากมายเกินพรรณนา

แต่ในแง่ความรู้สึกของแฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอลอาร์เจนไตน์ ความยิ่งใหญ่ของ เมสซี่ นั้นยังไม่สามารถเทียบกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่ “เสือเตี้ย” ได้มอบให้กับแฟนบอลทั้งชาตินั้นก็คือ “แชมป์ฟุตบอลโลก”

“แชมป์ฟุตบอลโลก” คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของ เมสซี่ นั้นสมบูรณ์แบบ และก้าวขึ้นมาแซง ดีเอโก้ มาราโดน่า พร้อมกับเทียบชั้น เปเล่ ในฐานะ นักเตะที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคใหม่ ความผิดหวังจากเวิลด์คัพ ไฟน่อล เมื่อสี่ปีที่แล้ว จะกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ เมสซี่ พร้อมทำทุกอย่าง ดั่งที่เคยกล่าวไว้เมื่อสี่ปีที่แล้วหรือไม่

“ผมพร้อมแลกรางวัลส่วนตัวทุกอย่างของผมกับแชมป์ฟุตบอลโลก ในฐานะนักเตะคนหนึ่ง การได้แชมป์บอลโลกเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว มันเป็นสิ่งที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็ก และความฝันนี้ก็ไม่เคยจางหายไป”

“เราจะพยายามทำทุกอย่างที่พวกเราสามารถทำได้เพื่อทำให้ความฝันนี้เป็นจริงสักทีสำหรับ อาร์เจนติน่า”

แรงผลักดันของกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่ารายนี้ จะสามารถสร้างความมหัศจรรย์ และความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย ได้หรือไม่ คือสิ่งที่แฟนบอลทั้งโลกรอคอยคำตอบอยู่

….

“บก.เก้น”

 

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้