กรรมการไม่โอเค! ซาอุฯ 12 คนเฉือน อียิปต์ เดือด 2-1 ควงแขนร่วงรอบแรก ฟุตบอลโลก 2018

ซาอุดิอาระเบีย คว้าชัยในเวิลด์ คัพ ฉบับ รัสเซีย ได้สำเร็จ หลัง ซาเล็ม อัล ดอว์ซารี่ สมบทฮีโร่ซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเฉือนเอาชนะ อียิปต์ ไปแบบสุดเดือด 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2018 กลุ่ม A นัดสุดท้าย
เกมนี้มีสถิติสำคัญหนึ่งอย่างก็คือ เอสซัม เอล ฮาดารี่ นายทวารอียิปต์ สร้างสถิติกลายเป็นนักเตะที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ลงเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายด้วยวัย 45 ปี 161 วัน แซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง ฟาริด มอนดราก้อน อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติโคลอมเบีย
เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที แข้ง “สิงห์ทะเลทราย” มีโอกาสได้ลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ ฮุสเซน อัล โมกาวี ได้กดเน้นๆ แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้น เกมกลายเป็นของ ซาอุดิอาระเบีย อย่างสิ้นเชิง ถือว่าพลิกโผพอสมควรเนื่องจากสองนัดก่อนหน้านี้ พวกเขาโดนเจาะตาข่ายไปมากถึง 6 ประตู อีกทั้ง อียิปต์ ยังส่งนักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขาอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนาม แต่ยังหาโอกาสขึ้นเกมไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แม้จะโดนบุกหนัก แต่สุดท้ายกับเป็น อียิปต์ ที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้ จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปงัดบอลข้าม ยาสเซอร์ อัล โมไซลีม บอลค่อยๆ กระดอนเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น อียิปต์ 1-0 ซาอุดิอาระเบีย
นาทีที่ 26 แข้ง “มัมมี่” พลาดการได้ประตูอีก จากจังหวะที่ เทรเซเก้ต์ ไหลบอลทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวไปดวลกับนายด่านซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง แต่ดาวเตะจาก ลิเวอร์พูล เข้ายิงพลาดออกไปเอง
นาทีที่ 33 อียิปต์ พลาดโอกาสทองไปแบบไม่น่าเชื่อ หลัง เทรเซเก้ต์ ตามมาเก็บบอลทางกราบซ้าย ก่อนจ่ายตัดในให้ ซาลาห์ กระดกบอลหนีแนวรับซาอุฯ ได้ถึงสองคนบอลล้นมาถึง เทรเซเก้ต์ อีกครั้ง แต่ทว่าแนวรุกรายนี้กลับใจร้อนเร่งปั่นด้วยขวา บอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดายทั้งๆ ที่มีเวลามากโข
เจ็ดนาทีต่อมา ซาอุดิอาระเบีย มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง อาห์เมด ฟาธี ไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ แต่ทว่า ฟาฮัด อัล มูวัลลัด ดันซัดไปติดเซฟ เอสซัม เอล ฮาดารี่ ก่อนที่นายด่านวัย 45 ปีรายนี้จะมีอาการบาดเจ็บ แต่สุดท้ายยังกลับมาเฝ้าเสาต่อได้ ท่ามกลางเพื่อนทีมที่กรูเข้ามาดีใจกับเจ้าตัว
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซาอุดิอาระเบีย มาได้จุดโทษลูกที่สองหลัง ฟาฮัด อัล มูวัลลัด ไปโดน อาลี กาเบอร์ เหนี่ยวแขน ผู้ตัดสินชี้ไปเป็นลูกที่จุดโทษ แต่ ทีม VAR ส่งสัญญาณมาว่าลูกนี้ไม่เป็นลูกที่จุดโทษ จึงต้องมี Penalty Review ก่อนที่ผู้ตัดสินในสนามจะยืนยันในคำตัดสินตามเดิม สุดท้ายเป็น ซัลมาน อัล ฟาราจ รับหน้าที่สังหารไปมุมซ้ายมือ สวนทางกับ เอสซัม เอล ฮาดารี่ เข้าไปไม่มีพลาด ก่อนที่จบครึ่งแรก อียิปต์ เสมอ ซาอุดิอาระเบีย อยู่ 1-1
กลับมาสู้กันต่อในอีก 45 นาทีที่เหลือ ซาอุดิอาระเบีย ยังคงครองเกมได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน และมีโอกาสได้ลุ้นประตูที่สอง จากจังหวะที่แนวรับอียิปต์สกัดกันไม่ขาด ฮัตตาน บาฮิบรี วิ่งมาฮาล์ฟวอลเลย์เต็มข้อ บอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 57 โอกาสเป็นของ อียิปต์ หลัง เทรเซเก้ต์ ได้โฉบมาโขกเต็มศีรษะในกรอบ 18 หลา แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น
เกมผ่านมาถึงครึ่งทางในครึ่งเวลาหลัง ต้องยอมรับว่ารูปเกมโดยรวม ซาอุดิอาระเบีย ทำได้ดีกว่าแย่างชัดเจน ก่อนที่ คูเปร์ ต้องตัดสินใจแก้เกมด้วยการส่งดาวรุ่งอย่าง รามาดาน โซบี ลงมาแทน มาร์วัน โมห์เซน ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก เช่นเดียวกับ ซาอุดิอาระเบีย ที่ถอดดาวยิงอย่าง ฮัตตาน บาฮิบรี ก่อนเติม มูฮานนัด อาซิรี่ ลงมาแทนเช่นกัน
นาทีที่ 68 ซาอุดิอาระเบีย พลาดการได้ประตูขึ้นนำไปแบบไม่น่าเชื่อ หลัง ซัลมาน อัล ฟาราจ ครอสบอลเข้ามาให้ ฮุสเซน อัล อัล โมกาวี โขกสุดแรงเกิดแต่บอลพุ่งไปติดเซฟ เอสซัม เอล-ฮาดารี่ ที่พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ
สองนาทีถัดมา “สิงห์ทะเลทราย” ที่เดินเกมรุกบุกแหลก พลาดโอกาสทองอีกหน หลัง อัล ฟาราจ เปิดลูกเตะมุมลึกเข้ามาถึง โอซามา ฮาวซาวี ขึ้นโขกเต็มๆ แต่ เอสซัม เอล-ฮาดารี่
นาทีที่ 84 อียิปต์ พลาดโอกาสทองไปแบบน่าเขกกระโหลก หลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนล้ำหน้าอยู่ โชว์คิลเลอร์พาสมาถึง รามาดาน โซบี ลากบอลเข้าไปกดเต็มข้อแต่ ยาสเซอร์ อัล โมไซลีม ยืนปัดออกหลังดื้อๆ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เป็น ซาอุดิอาระเบีย ที่มาได้ประตูชัย หลัง ซาเล็ม อัล ดอว์ซารี่ สมบทฮีโร่ยิงหักข้อบอลผ่านนายทวารอียิปต์เข้าเสาไกลตุงตาข่าย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบเกม “สิงห์ทะเลทราย” เฉือนเอาชนะ อียิปต์ ไปแบบสุดเดือด 2-1 ซาอุฯ ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่สามของกลุ่ม พร้อมถีบ อียิปต์ รั้งบ๊วย แต่สุดท้ายควงแขนร่วงตกรอบแรกทั้งคู่อยู่ดี
รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม
ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย : ยาสเซอร์ อัล โมไซลีม (GK), โอซามา ฮาวซาวี, โมฮัมเหม็ด อัล-เบรอิก, ซัลมาน อัล ฟาราจ, ฮัตตาน บาฮิบรี, ยัสเซอร์ อัล ชาห์รานี่, อับดุลลาห์ โอตัยฟ์, ฮุสเซน อัล โมกาวี, ซาลีม อัล ดอวซารี, ฟาฮัด อัล มูวัลลัด, โมตัซ ฮาวซาวี
ทีมชาติอียิปต์ : เอสซัม เอล ฮาดารี่ (GK), อาลี กาเบอร์, อาห์เหม็ด เฮกาซี่, อาห์เมด ฟาธี, ทาเรค ฮาเมด, มาร์วัน โมห์เซน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โมฮาเหม็ด อับเดล-ชาฟี, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, อับดัลลาห์ ซาอิด, มาห์มูด เทรเซเก้ต์ ฮัสซัน
โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018
ดูฟุตบอลโลก 2018 ย้อนหลัง เต็มแมตช์ สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าทรู
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports