
TAG Heuer เปิดตัวเรือนเวลาสองรุ่นพิเศษ นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกแห่งนาฬิกาไปอีกขั้น

ในงาน Geneva Watch Days ปีนี้ วงการนาฬิกาหรูได้ตื่นตาตื่นใจกับการเปิดตัวครั้งสำคัญจาก TAG Heuer กับสองรุ่นพิเศษ Monaco Flyback Chronograph TH-Carbonspring และ Carrera Chronograph Tourbillon Extreme Sport TH-Carbonspring สัญลักษณ์ของการก้าวข้ามขีดจำกัดทางวิศวกรรม ด้วยการนำวัสดุคาร์บอนมาใช้ทั้งตัวเรือนและหัวใจกลไก ผลิตเพียง 50 เรือนต่อรุ่นทั่วโลกเท่านั้น
เสน่ห์ของ Monaco Flyback Chronograph ตำนานที่ถูกตีความใหม่
นับตั้งแต่ปี 1969 Monaco คือตัวแทนแห่งดีไซน์สี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ และครั้งนี้ TAG Heuer ได้มอบชีวิตใหม่ให้นาฬิกาไอคอน ด้วยวัสดุ forged carbon ที่ห่อหุ้มทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ตัวเรือน เม็ดมะยม จนถึงปุ่มกด ด้านหน้าปัดประดับลวดลาย “spiral” ที่อ้างอิงจากสปริงคาร์บอน เสมือนบอกเล่าเรื่องราวการเคลื่อนไหวของเวลาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หัวใจของเรือนนี้คือกลไก Calibre TH20-60 ที่ผ่านการรับรอง COSC พร้อมฟังก์ชัน Flyback Chronograph ซึ่งช่วยให้ผู้สวมสามารถจับเวลาใหม่ได้ทันทีเพียงการกดครั้งเดียว เหมาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงและรวดเร็ว นอกจากนี้ สปริงคาร์บอนที่พัฒนาโดยห้องวิจัยของ TAG Heuer ยังช่วยเพิ่มความเสถียร ทนต่อสนามแม่เหล็ก และรับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ว่าการเดินเวลาจะคงความแม่นยำแม้ในสภาพแวดล้อมสุดโหด
Monaco Flyback มาพร้อมขนาด 39 มิลลิเมตร ความหนา 14.1 มม. กันน้ำได้ 100 เมตร และมีกำลังลานสำรองถึง 80 ชั่วโมง เข็มและหลักชั่วโมงเคลือบสาร Super-LumiNova® สีขาว ตัดกับพื้นหน้าปัดโทนดำทองได้อย่างคมชัด ยามกลางวันดูสง่างาม ยามค่ำคืนก็ยังคงอ่านค่าเวลาได้ชัดเจน สนนราคาประมาณ 17,900 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างงานออกแบบคลาสสิกและนวัตกรรมที่ลงตัว
Carrera Tourbillon Extreme Sport หลอมรวมพลังกลไกและงานศิลป์ในเรือนเดียว
หาก Monaco สะท้อนความสปอร์ตแบบเรโทร Carrera Chronograph Tourbillon Extreme Sport ก็คือเรือนเวลาที่บ่งบอกถึงความทะเยอทะยานและความล้ำสมัยอย่างแท้จริง ตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตรทำจากคาร์บอนเช่นกัน ตั้งแต่ bezel แบบทาชีมิเตอร์ ไปจนถึงฝาหลัง DLC เคลือบดำทุกส่วน ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบให้แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา เหมาะกับการสวมใส่ในทุกกิจกรรม
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ กลไก Calibre TH20-61 ที่มาพร้อม Tourbillon แบบ Flying ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา กลไกซับซ้อนระดับสูงนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความแม่นยำระดับเรือธง เพราะยังผ่านการรับรองจาก COSC เช่นเดียวกัน สปริงคาร์บอนยังทำหน้าที่เหมือนรุ่น Monaco คือคงความเที่ยงตรงไม่ว่าผู้สวมจะอยู่ในสถานการณ์แบบใด
Carrera Tourbillon มีความหนา 15.4 มม. สำรองพลังงานได้ 65 ชั่วโมง กันน้ำ 100 เมตร แม้จะมีฟังก์ชันซับซ้อน แต่ก็ยังคงความทนทานในเชิงสปอร์ต หน้าปัดดีไซน์แบบ spiral ให้มิติที่ลึกและทันสมัย ขณะที่กลไกทูร์บิญงเปิดเผยให้เห็นการทำงานอย่างเด่นชัด ราวกับเป็นศิลปะที่เคลื่อนไหวบนข้อมือ ราคาวางจำหน่ายประมาณ 42,100 ดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนความเป็นเรือนเวลาที่ออกแบบมาสำหรับนักสะสมตัวจริง
ความเหมือนและความต่าง
แม้ทั้งสองรุ่นจะมีบุคลิกต่างกัน แต่สิ่งที่ผูกโยงให้เป็นหนึ่งเดียวคือ TH-Carbonspring นวัตกรรมที่พลิกโฉมโลกแห่งกลไกเวลา คาร์บอนที่ทั้งเบาและทนทาน ทำให้นาฬิกามีเสถียรภาพเหนือกว่ากลไกทั่วไป หากคุณชื่นชอบความคลาสสิกแต่ไม่ทิ้งความทันสมัย Monaco Flyback คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่ถ้าหัวใจคุณเรียกร้องความซับซ้อนและการแสดงออกที่โดดเด่นล่ะก็ Carrera Tourbillon ก็คือผลงานที่รอคอย
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph CBL218B.FT6236 ราคาเท่าไหร่
- ยลโฉม TAG HEUER X SENNA รุ่นนักขับระดับตำนาน ผลิตกี่เรือน ราคาเท่าไหร่
- ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green ราคาเท่าไหร่ผลิตกี่เรือน
- เปิดโฉม TAG Heuer Connected Calibre E4 x Oracle Red Bull Racing Edition ราคาเท่าไหร่
- เปิดราคาส่องสเปค The TAG Heuer x Kith Formula 1 โดนใจขนาดไหนราคาเปิดตัวเท่าไหร่