ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2022-23 รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก แม้สกอร์จะออกมายับเยิน ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์โดนแชมป์เก่ามาดริดถลุง 2-5 จากการทำประตูของวินิซิอุส และเบนเซม่าคนละ 2 ประตู ส่วนอีก 1 ตุงเป็นผลงานของเอแดร์ มิลิเตา แม้สกอร์จะดูห่าง แต่แฟนหงส์แดงยังเชื่อมั่นลึก ๆ ว่าทีมยังมีโอกาสเข้ารอบ หากจะกาชื่อลิเวอร์พูลออกจาก UCL ดูจะเร็วเกินไป เพราะยังมีเกมที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบวอีก 1 เกมให้ได้ลุ้น บทเรียนในอดีตซ้ำแล้วซ้ำเล่าย้ำเตือนว่าอย่าด่วนตัดสิน!ก่อนจะว่าหงส์ดรุณนี่เป็นแฟนหงส์ขี้โม้ ขี้คุย ไปดูเหตุผลกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง “ที่ลิเวอร์พูลจะกลับมาโกงตาย” พลิกแซงผ่านเข้ารอบ 8 ทีม UCL ครั้งนี้ได้สำเร็จ1. รูปเกมไม่ได้ห่างเหมือนสกอร์หงส์แดงมีช่วงเวลาที่เหนือกว่า ดาร์วิน นูนเญซ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ บวกสกอร์ออกนำไปก่อนถึง 2-0 สถิติครองบอลมากกว่า 52 ต่อ 48 เปอร์เซ็นต์ โอกาสยิงคนละ 9 ครั้งเท่ากัน คือถ้าเราตัดไอ้ 2-5 ออกไป ตัวเลขรายละเอียดของเกมหงส์แดงไม่ได้เป็นรองมาดริดแต่อย่างใด แถมการเสียประตูหนึ่งในนั้นเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลจากอลิสซอน เบ็คเกอร์ และลูกยิงแบบผีจับยัด โอกาสจะเกิดขึ้นอีกครั้งคงไม่บ่อย หากเรียกสมาธิเรียกสติกลับมาได้ เกมหน้าที่เบร์นาเบวไม่ใช่งานง่ายของเจ้าถิ่นแน่นอน2. แนวรุกกำลังท็อปฟอร์มสิ่งที่แฟนหงส์แดงปลาบปลื้ม เป็นสัญญาณคำเตือนส่งถึงคู่แข่งว่าแนวรุกค่าตัวแพงของพวกเค้าอย่างดาร์วิน นูนเญซ ฟอร์มกำลังน่ากลัว ลีลาการถล่มประตูขั้นเทพยิงไขว้ให้ทีมขึ้นนำมาดริด 1-0 ยังติดตาตรึงใจ แม้จะแพ้แต่เห็นลูกนี้ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว แถมยังเป็นการยิงประตูเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน หากนับแค่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เวลานี้นูนเญซซัดไป 4 ประตูเท่ากับเมสซี่ หากเกมหน้ายิงได้สักลูกสองลูกก็มีลุ้นดาวซัลโวรองเท้าทองคำแล้ว มิเพียงเท่านั้น! ซาลาห์ก็กำลังกลับมาเข้าที่เข้าทาง ประสานงานกับโคดี้ กัคโป ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ การเสียถึง 2 ลูกเป็นการเปิดแผลแนวรับมาดริด โอกาสที่แนวรุกหงส์แดงจะทำเจ้าถิ่นน้ำตาตกใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ 3. ไม่มีกฎอเวย์โกลฤดูกาลนี้ไม่มีไม่มีกฎอเวย์โกล ทำให้งานของลิเวอร์พูลง่ายขึ้นอีกนิด จากที่ต้องไปยิง 4 ประตูเกมเยือน สถานการณ์ตอนนี้บุกไปยิงแค่ 3 ลูกก็ได้ลุ้นต่อเวลาแล้ว สมมุติได้ประตูนำเร็ว ครึ่งหลังบวกอีกสัก 1 ลูก ช่วงท้ายเกมอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เผลอ ๆ ถึงขั้นแซงชนะหากมีเวลามากพอ แฟนลิเวอร์พูลเค้าคิดในเชิงบวก เรื่องยอมแพ้ตกรอบไม่มีอยู่ในหัว แค่ซาลาห์กับนูนเญซยิงกันคนละลูกก็ 0-2 แล้ว ที่เหลือมันก็น่าจะมีใครสักคนที่ยิงได้ เป็นเกมที่มาดริดจะประมาททีมตายยากอย่างลิเวอร์พูลไม่ได้เลย4. ปาฏิหาริย์ในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้วลิเวอร์พูลโกงความตายกลับมาได้เป็นประจำ เช่นในฤดูกาล 2018-19 รอบรองชนะเลิศแพ้บาร์เซโลนา 3-0 ก่อนจะกลับมาเอาคืนแอนฟิลด์ 4-0 และปีนั้นยังชนะสเปอร์สรอบชิงเป็นแชมป์สมัยที่ 6 มากสุดในเกาะอังกฤษอีกด้วย หรือในถ้วยยูโรป้าฤดูกาล 2015-16 โดนบียาร์เรอัลสอยไปก่อน 1-0 แต่ก็กลับมาเอาคืนได้ 3-0 ผ่านเข้าชิงได้สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมตายยาก! การจะกลับมายิงอีกนัด 3 ลูกเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเป็นแนวรุกระดับพระกาฬยุคปัจจุบัน โอกาสจะได้เห็นพลิกแซงกลับมาเข้ารอบเหมือนหนังที่ฉายซ้ำ มีสูงเลยทีเดียว5. เจอร์เกน คล็อปป์ มีโอกาสได้แก้เกมหลังเสียไป 5 ประตู คล็อปป์ปรับตัวผู้เล่น ส่งประสบการณ์สูงอย่างเจมส์ มิลเนอร์ และโจเอล มาติป ลงมาในนาที 73 หลังจากนั้นเกมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “มาดริดยิงเพิ่มไม่ได้เลย” และอย่าลืมว่าสภาพร่างกายของดิโอโก้ โชต้า กับโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ แมตช์หน้าจะเรียกว่าเป็นหงส์แดงของจริงก็ไม่ผิดนัก คล็อปป์จะมีโอกาสปรับแก้ปัญหาตัวผู้เล่น เปิดเกมรุกได้ตั้งแต่นาทีแรก ถ้าเครื่องติดแล้วใครหน้าไหนก็มาหยุดลิเวอร์พูลไม่ได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง มีปัจจัยว่าหงส์แดงจะกลับมาได้ อย่าด่วนตัดสิน! หากนกหวีดในสนามยังไม่เป่าหมดเวลา อย่าเพิ่งกาชื่อลิเวอร์พูลทิ้ง มาลุ้นและติดตามว่าบทสรุปฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2022-23 โฉมหน้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายจะเป็นใคร แต่รับประกันว่ารอบน็อกเอาต์ปีนี้สนุกแน่นอนครับบทความน่าสนใจ 👇👇https://intrend.trueid.net/post/347215ภาพประกอบโดย ภาพปก UEFA Champions League : พื้นหลัง , คาริม เบนเซม่า , กูตัวร์ , ดาร์วิน นูนเญซ / UEFA Champions League : ภาพที่ 1 , พื้นหลัง-ภาพที่ 2 , www.uefa.com : สถิติการแข่งขัน , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 อัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'