เป็นอีกครั้งที่ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มีปัญหาอีกครั้ง โดยครั้งแรกที่ผ่านมาเกิดขึ้นหลังจากที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ย้ายออกจากทีม ซีเนอดีน ซีดานลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม การเดินเกมผิดพลาดของฟลอเรนติโน่ เปเรซ ทั้งในเรื่องของการเลือกผู้จัดการทีมคนใหม่มารับงาน การเสริมทัพนักเตะ การตัดสินใจในเรื่องของการซื้อ-ขายนักเตะที่ผิดพลาด จนเกิดปัญหาคาราคาซังอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งการกลับมาของซีดานในรอบที่สอง ที่ทำให้เหล่าแฟนคลับโลสบลังโกส กลับมาใจชื้นอีกครั้งหนึ่ง ในยามที่พวกเขากลับมาคืนฟอร์มและคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปนได้ในฤดูกาล 2019/2020จนกระทั่งจบฤดูกาล 2020/2021 ซีดานก็ประกาศลาออกจากสโมสรที่เขารักอีกครั้ง และเป็น คาร์โล อันเชล็อตติที่ถูกทาบทามให้กลับมาคุมทีมอีกครั้ง และเขาก็ทำได้ดีเกินคาดอีกครั้ง หลังจากที่เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา สเปนสมัยที่ 35 ไปครองได้สำเร็จในฤดูกาล 2021/2022 รวมไปถึงสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ให้กับสโมสรได้อีกครั้ง หลังจากเขาพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกสมัยที่ 14 ทำให้เรอัล มาดริด เป็นทีมที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลhttps://www.facebook.com/watch/?v=964663714209643จนกระทั่งมาถึงฤดูกาลนี้ แม้พวกเขาจะสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพมาได้ แต่ด้วยฟอร์มในลีกที่กระท่อนกระแท่นและเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้กับบาร์เซโลน่าไปเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ และสถานการณ์ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ในช่วงหลังจากจบยุคคว้าแชมป์ UCL 3 สมัยซ้อน เกิดอะไรขึ้นบ้างในตอนนั้น นี่คือทัศนคติจากผมนะครับ 1. การปล่อยนักเตะตัวหลักออกจากทีมไปง่ายเกินเหตุปัญหาดังกล่าวเกิดหลังจากที่ทางทีมเริ่มปล่อยนักเตะตัวหลักๆออกจากทีมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เซร์คิโอ รามอส แม้กระทั่ง เคย์ลอร์ นาบาส และอีกหลายๆคนที่ควรรั้งไว้แต่ไม่ยอมทำ ทำให้พวกเขาเสียนักเตะคุณภาพดีๆออกไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดสูญญากาศพอสมควร รวมไปถึงนักเตะดาวรุ่งที่ถูกดันมาจากกาสติยา หรือทีมเยาวชนก็ยังไม่พร้อมที่จะสอดแทรกเข้ามาเป็นตัวจริงได้เสียที ทำให้การเสริมทัพจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเสริมทัพ ก็เป็นที่มาของปัญหาที่ตามมาอีกเช่นกัน2. การเสริมทัพที่แย่มากกว่าดีเอเด็น อาซาร์ มาเรียโน่ ดิอาซ ลูก้า โยวิช นี่คือดีลที่โคตรอภิมหาผิดพลาดอย่างยิ่งที่ผ่านมา โดยเฉพาะอาซาร์ ที่หลายๆคนคาดหวังอย่างสูงหลังจากที่เขาสร้างความประทับใจและฟอร์มการเล่นที่สุดยอดในพรีเมียร์ลีกกับเชลซี แต่สุดท้าย เขากลับสร้างความผิดหวังอย่างแรงให้กับแฟนคลับ ทั้งการไม่ดูแลร่างกายตัวเอง อาการบาดเจ็บรบกวน การได้โอกาสในการลงเล่นแต่กลับเล่นแบบทิ้งๆขว้างๆมากกว่าจะตั้งใจเล่น ทำให้ตอนนี้ ดีลหลายๆดีลที่ผ่านมากลายเป็นรอยด่างพร้อยของฟลอเรนติโน่ เปเรซ ไปเรียบร้อยแล้ว3. การรั้งนักเตะไม่มีใจให้เป็นมะเร็งร้ายในทีมแกเร็ธ เบล อิสโก้ คือสองนักเตะที่เป็นเหมือนมะเร็งร้ายในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกเร็ธ เบล ที่ทัศนคติที่มีต่อทีมนั้นเริ่มมีปัญหา ตั้งแต่ช่วงที่เขาถูกดรอปเป็นตัวสำรองในยุคของซีเนอดีน ซีดานในช่วงแรก ถึงแม้เขาจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ในหลายรายการ แต่บทบาทในการที่จะเป็นซุปเปอร์สตาร์แทนที่ของโรนัลโด้ในยุคหลังนั้น กลับไม่เฉิดฉายอย่างที่ใครหลายคนคิด รวมไปถึงแฟนบอลที่ผิดหวังในชุดความคิดของเขา แถมยังมีภาพที่เขาออกไปเล่นกอล์ฟ ในวันที่เขาไม่ได้อยู๋ในแผนทำทีม จนถูกแซวว่าเป็นโปรเบลในช่วงหลังๆ ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับสเปอร์ส และสุดท้ายทีมก็เลือกที่จะปล่อยให้สัญญาของเบลหมดลง จนสุดท้ายเขาได้ย้ายออกจากทีมสมใจ และมาถึงอิสโก้ ที่เริ่มมีปัญหาในทีมมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เริ่มเป็นตัวเลือกรองๆจากคนอื่นในตำแหน่งเดียวกัน ทำให้เจ้าตัวเกิดอาการงอแงอยากย้ายทีม สุดท้ายก็มีปัญหาอีกครั้งหลังจากย้ายไปอยู่เซบีย่า โดยมีปัญหากับผู้จัดการทีมจนถูกยกเลิกสัญญา ซึ่งกลายเป็นว่าจากดาวรุ่งพุ่งแรง จุดจบกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด นี่คือสิ่งที่ทีมดันก่อให้เกิด แล้วไม่ยอมตัดให้ขาด ทำให้มีปัญหาคาราคาซังจนถึงปัจจุบันนี้4. ปัญหาการรับมือกับนักเตะบาดเจ็บและหาคนทดแทนไม่ได้ปัญหานักเตะบาดเจ็บที่ทีมกำลังเผชิญอยู่ เห็นได้ชัดว่าสร้างผลกระทบร้ายแรงอย่างมากในหลายๆเกม เกมที่ควรชนะพวกเขากลับแพ้ หรือเสมอ เกมที่ควรเน้นกลับประมาท อาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักในก่อนหน้านี้และช่วงนี้ ทั้งคาริม เบนเซม่า ทีโบต์ กูร์ตัวส์ เอแดร์ มิลิเตา แฟร์ลอง เมนดี้ เป็นต้น และเมื่อมามองตัวสำรองที่ทดแทนตำแหน่งที่ขาดไปนั้น ก็พบว่าหลายๆตำแหน่งไม่สามารถทดแทนได้ 100% มีเพียงอันเดร ลูนิน มือ 2 ของทีม ที่พอทดแทนกูร์ตัวส์ได้เท่านั้น ส่วนตำแหน่งอื่นๆต้องใช้วิธีการโยกตำแหน่ง ซึ่งปัญหานี้อันเชล็อตติรับมือได้ดีแต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้เขายังแก้ไขได้ไม่หายเสียที 5. การเสริมทัพที่ไม่ได้ดั่งใจของทีมแม้อันเชล็อตติจะสามารถเสกแชมป์ให้กับทีมได้ แต่ว่าเขากลับไม่สามารถเสกนักเตะที่เขาต้องการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับทีมได้ โดยเฉพาะในช่วงตลาดหน้าหนาวที่เขาต้องการซื้อนักเตะมาช่วยซัพพอร์ตนักเตะที่กำลังมีอาการบาดเจ็บ แต่เขากลับไม่ได้รับการสนับสนุนในแนวคิดของเขา กลับให้เลือกใช้นักเตะดาวรุ่งจากทีมเยาวชนแทน หรือใช้นักเตะที่มีอยู่ในทีมให้คุ้มค่า ซึ่งผิดไปจากทัศนคติของอันเชล็อตติที่เขามักจะมีนักเตะสเปกในใจของเขา แต่เขามีทางเลือกจำกัด จึงจำเป็นต้องปรับแผนการรับมือเรื่องนี้ให้เป็นไปตามที่หลายๆคนในสโมสรต้องการ นี่คือปัญหาอีกอย่างที่ทีมกำลังถูกตั้งข้อสงสัยจากหลายๆกูรูว่า เรอัล มาดริดคิดอะไรอยู่กันแน่ เพราะความไม่แน่นอนในอนาคตของอันเชล็อตติหลังจากนี้ก็แล้ว จะยังเจอปัญหาที่พวกเขาไม่สามารถดึงนักเตะซุปเปอร์สตาร์เข้าสู่ทีมได้ในฤดูกาลนี้ หลังจากหลายๆเป้าหมายที่พวกเขาไม่สามารถเสริมได้ ทั้งเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และคิลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่สุดท้าย ปัญหานี้น่าจะได้รับการแก้ไขในช่วงก่อนฤดูกาลหน้าเริ่มเตะแน่นอน หวังว่าอะไรต่อมิอะไรที่เจออยู่ตอนนี้ ทางทีมจะสามารถแก้ไขได้ เพื่อทิศทางของทีมหลังจากนี้ที่ยังพอมีลุ้นทั้งโคปา เดอ เรย์ และยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก หรือแม้กระทั่งลาลีกา สเปนที่ต้องพยายามทำคะแนนไล่บี้บาร์เซโลน่าเพื่อแซงไปเป็นจ่าฝูงในช่วงท้ายของการแข่งขันให้ได้ พรุ่งนี้ เรอัล มาดริดจะมีคิวเตะนัดชิงชนะเลิศ ฟีฟ่า คลับเวิร์ลคัพ กับอัล ฮิลาล หวังว่าพรุ่งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนให้กับทีมในช่วง 4 เดือนสุดท้ายที่เหลือนี้ ขอขอบคุณภาพประกอบบทความ จากภาพปกประกอบบทความ จาก Facebook Real Madrid C.F.ภาพที่ 1 จาก Facebook Real Madrid C.F.ภาพที่ 2 จาก Facebook Real Madrid C.F.ภาพที่ 3 จาก Facebook Real Madrid C.F.ภาพที่ 4 จาก Facebook Real Madrid C.F.ภาพที่ 5 จาก Facebook Real Madrid C.F.คลิปที่ 1 จาก Facebook Real Madrid C.F.อัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'