TRUE FOCUS : 5 โฟกัสหลังเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2017 ... by "Arm Phukrit"
5 เรื่องโฟกัสหลังเกม ฟุตบอลชิงแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2017 ระหว่าง อาร์เซน่อล แชมป์เอฟเอ คัพ พบ เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก ณ สนามเวมบลีย์
ฟุตบอลชิงแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2017 คู่ระหว่าง อาร์เซน่อล แชมป์เอฟเอ คัพ พบ เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก ณ สนามเวมบลีย์ ได้จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นเกมที่สนุกมาก ๆ อีกหนึ่งเกม ก่อนที่ฤดูกาล 2017/18 จะเปิดตัวขึ้น
จบเกมการแข่งขัน 90 นาที เสมอกันไป 1-1 ก่อน โดยต้องตัดสินกันด้วยลูกจุดโทษที่ยิงกันแบบใช้ระบบใหม่อย่าง ABBA ในการยิง และก็เป็น “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่ยิงจุดโทษได้เฉียบขาดกว่าเหนือ เชลซี 4-1 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้สำเร็จ
โดยวันนี้ทางทีมงาน TrueID Sport จะพาไปชม 5 สิ่งที่สำคัญๆ ได้เห็นจากเกมนี้
- นักเตะใหม่ของทั้งสองทีม
โดยในเกมนี้ผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ได้ลงสนามโชว์ฝีเท้ากันอย่างทั่วหน้า เริ่มจากทางด้านอาร์เซน่อล ที่ส่งศูนย์หน้าหมายเลข 9 คนใหม่ ลากาแซ็ตต์ ลงสนามเป็นตัวจริง และเปลี่ยนเอาทางด้าน โคลาซินัช มาแทน แมร์เตซัคเกอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บศรีษะแตกในช่วงครึ่งแรก ว่ากันด้วยทางด้าน ลากาแซ็ตต์ ก็ยังไม่สามารถจบสกอร์ให้กับทีมได้ มีก็แต่จังหวะที่ปั่นโค้งบอลชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่พอมองมาทางด้าน โคลาซินัช กลับเป็นอะไรที่น่าฝากความหวังได้ เนื่องจากกองหลังค่าตัวฟรีรายนี้ ความถึกทน ร่างกายบึกบึน วิ่งได้ไม่มีหมด จากเกมรับยันเกมรุก ดับเครื่องชนคู่ต่อสู้ตัดเกมจังหวะสำคัญ ถือเป็นสิ่งที่ควรมี เมื่อต้องเจอเกมสวนกลับเร็วโดยเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก แถมยังสามารถโหม่งตีเสมอให้ทีมกลับมาดีอีก เรียกได้ว่า อนาคตสดใสเลยทีเดียว
ส่วนทางด้าน เชลซี ผู้เล่นหน้าใหม่ก็ยังต้องนั่งรอโอกาสไปก่อนจะมีก็แต่ รูดิเกอร์ และ โมราต้า ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา แต่ทว่าศูนย์หน้าค่าตัว 70 ล้านปอนด์ กับไม่มีโอกาสได้ทำประตูซักเท่าไรนัก จะมีก็แต่จังหวะที่ขึ้นเบียดแย่งบอลกลางอากาศส่งให้เพื่อนเล่น แม้แต่การยิงจุดโทษตัดสิน เขาก็ยังยิงพลาดชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย ทางด้าน รูดิเกอร์ เท่าที่ดูก็สามารถโดนด่าได้เลยจากจังหวะที่ปล่อยให้ โคลาซินัช เข้าไปโหม่งสบายๆ จนทำให้ทีมเสียประตูในช่วงท้ายเกม
- ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของทั้งสองทีม
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิล์ดจอมอ่านขาดของเชลซี ก็ยังเป็นหัวใจสำคัญของทีมอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากเขารับผิดชอบหน้าที่ของเขาได้ดีเยี่ยม กับการทำลายเกมของคู่แข่ง รวมไปถึงการยึดพื้นที่ในแดนกลาง ในช่วงครึ่งแรก ก็องเต้ เป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในสนาม ตัดมาทางด้านอาร์เซน่อล ก็ต้องยกให้ผู้เล่นในแดนกลางเช่นกัน กรานิท ชาก้า ที่สามารถโชว์ฟอร์มโดดเด่นในช่วงครึ่งหลัง สามารถสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนทำประตู โดยเฉพาะการเปิดลูกฟรีคิกให้กับ โคลาซินัช โขกตีเสมอให้กับทีมได้สำเร็จ
- ผู้เล่นคนสำคัญของทั้งสองทีมหายไปไหน
ดิเอโก้ คอสต้า, เอเด็น อาซาร์, ติมู บากาโยโก ต่างก็ไม่ได้ลงสนามสำหรับทางด้าน คอสต้า ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่กระทั่งเงาของนักเตะ เนื่องจากมีปัญหาหนักกับ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือของทีมที่ออกมาเปิดเผยว่า เขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมตั้งแต่ช่วงหมดฤดูกาลที่แล้ว ทำเอานักเตะไม่แคร์สโมสรและตั้งใจมุ่งกลับ แอตเลติโก มาดริด อย่างเดียว ทางด้าน บากาโยโก นักเตะใหม่ก็ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วน อาซาร์ ที่มีข่าวกรณีย้ายทีมล่าสุดเจ้าตัวก็ยืนยันแล้วว่าจะอยู่ช่วยสิงห์บลูส์ต่อไป ที่ไม่ได้ลงสนามก็เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ
ส่วนทางด้านอาร์เซน่อล อเล็กซิส ซานเชซ และ เมซุต โอซิล 2 นักเตะคนสำคัญที่เหลือสัญญาเพียง 1 ปีกับสโมสรก็ไมได้ลงสนามในนัดนี้ โดยรายงานล่าสุด ทางด้าน โอซิล มีปัญหาอาการบาดเจ็บและอาจจะไม่ได้ลงสนามประเดิมพรีเมียร์ลีก ที่จะพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย ส่วนทางด้าน อเล็กซิส ที่มีข่าวลือหนาหูในเรื่องการย้ายทีมการมานั่งให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมในสนาม แต่ทว่าเรื่องอนาคตกับทีมก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้
- ความพร้อมในการรับพรีเมียร์ลีก 2017/18 ของทั้งสองทีม
ทางด้าน เชลซี ที่ปล่อยนักเตะออกจากทีมไปก็เยอะ โดยเฉพาะรายล่าสุด มาติช ปล่อยให้ไปอยู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเอาตำนานของทีมหลายคนถึงกับงงว่า ปล่อยให้คู่แข่งทำไม ในขณะเดียวกัน ทีมก็ทุ่มเงินซื้อผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในทีม 4 ราย ในตำแหน่งผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองหน้า และ กองกลาง ครบทุกตำแหน่ง แต่หลายฝ่ายต่างพากันสงสัยว่า เชลซี พร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่แล้วจริงหรือ? โมราต้า ซื้อมาสวมเบอร์ 9 เพื่อเป็นศูนย์หน้าตัวความหวังพร้อมแล้วจริงหรือ? แต่ล่าสุด คอนเต้ ออกมายืนยันเองเลยว่า หาก โมราต้า มั่นฝึกฝนไม่ออกนอกลู่นอกทางก็จะเป็นศูนย์หน้าที่เก่งกาจได้สบายๆ
สำหรับทางด้านอาร์เซน่อล หากรั่งตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โอซิล กับ อเล็กซิส ให้อยูกับทีมได้ เพื่อผนึกกำลังกับผู้เล่นคนใหม่อย่าง ลากาแซ็ตต์ อันดับก็น่าจะจบได้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้ว
- ระบบการยิงจุดโทษแบบใหม่ ABBA
เดิมทีการดวลจุดโทษตัดสินเกมแบบเดิมนั้น ทีม A และ ทีม B จะผลัดกันยิงทีมละ 5 คน ถ้ายังเสมอกันต้องตัดสินด้วยการดวลแบบซัดเดนเดธเพื่อหาผู้ชนะ
แต่การยิงจุดโทษรูปแบบใหม่นี้ สมมติทีม A เป็นฝ่ายได้ยิงลูกแรก ทีม B จะยิงลูกที่ 2 และ 3 ติดกัน จากนั้นทีม A จะยิงลูกที่ 4 และ 5 ติดกัน สลับไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบฝั่งละ 5 คน หากยังเสมอกันต้องตัดสินด้วยการดวลแบบซัดเดนเดธ โดยจะสลับกันยิงก่อนหลังเหมือน 5 คนแรก จึงเป็นที่มาของคำว่า ABBA
จากนัดเมื่อคืน เชลซีมีโอกาสได้ยิงก่อน โดย เคฮิลล์ ซัดเข้าไปไม่พลาด จากนั้นเป็นคิวของอาร์เซน่อลอีก 2 คน วัลคอตต์กับมอเรอัล ซัดเข้าไปไม่พลาด ปืนใหญ่นำ 2-1 จากนั้นเป็นคิวของ กูร์กตัวส์กับโมราต้า ซึ่งพลาดทั้งคู่ ทำให้อีก 2 คนของอาร์เซน่อล ถ้ายิงเข้าก็จะชนะไปเลยตัดสินผู้ชนะกันได้รวดเร็ว
โดยการยิงจุดโทษแบบใหม่นี้ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ กำลังเริ่มทดลองใช้ในการแข่งขันต่างๆ โดยจะใช้ใน คาราบาว คัพ อีกด้วย แต่ล่าสุดทางด้าน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงระบบจุดโทษใหม่นี้ว่า “สำหรับผมแล้ว ผมชอบการดวลจุดโทษแบบเดิมมากกว่านะ มันเร้าใจกว่า เพราะว่าถ้าหากทีมแรกยิงไม่เข้าก็จะโยนความกดดันไปให้อีกทีมในทันที แต่ในรูปแบบใหม่มันก็แปลกออกไป แต่ยังไงผมก็ยังชอบแบบดั้งเดิมากกว่านะ”
บอลไทยบอลนอก ไม่พลาดทุกบิ๊กแมตช์ รวม 7 ลีก 5 ถ้วย มันส์ ชัดระดับ HD พร้อมกีฬาฮิตอีกมากมาย และ คลิปไฮไลท์
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport.Trueid.net หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID