ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ฤดูกาล 2021-2022 เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศได้สี่ทีมเข้ารอบมาชิงชัยเรียบร้อย ประกอบไปด้วย เราอัลมาดริด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลิเวอร์พูล พบ บียาร์เรอัล โดยสามทีมแรกถือว่าคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับรายการนี้ แต่อย่าง บียาร์เรอัล ถือว่าเป็นน้องใหม่ก็ว่าได้ ที่เข้ามาถึงรอบนี้ได้แบบไม่มีใครคาดคิดแถมผู้จัดการทีมฉายาเจ้าพ่อแห่งยูโรปาลีก อูไน เอเมรี่ แต่ฤดูกาลนี้กลับต้องมาชิงชัยถ้วยที่ไม่คุ้นเคยก็น่าลุ้นและดูชมอย่างมาก ที่น่าสนใจกว่านั้นต้องมาเจอผู้จัดการทีมที่เก่งสุดยุคนี้ เจอร์เกน คล็อปป์ ยื่งทำให้น่าสนใจเข้าไปอีก บียาร์เรอัล ถูกวางเป็นม้ามืดสำหรับรายการนี้ไปเรียบร้อยด้วยความที่สามารถคว่ำทั้ง ยูเวนตุส , บาร์เยินมิวนิค นั่นทำให้ อูไน เอเมรี่ กลายเป็นผู้จัดการทีมที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเพียงเวลาเพียงแค่สองปีในการทำทีมเรือดำน้ำสีเหลืองกลับนำความสำเร็จมาสู่ทีมได้ตั้งแต่ปีแรก โดยการคว้าแชมป์ยูโรปาลีกที่คุ้นเคยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร มาฤดูกาลนี้กลับสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ แต่เมื่อต้องเจอกับ เจอร์เกน คล็อปป์ ไม่ใช่งานง่ายของเขาอีกต่อไปเพราะตลอดทุกครั้งที่เจอกันมาในทุกรายการ อูไน เอเมรี่ ไม่เคยเอาชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว ย้อนกลับไปตอนที่ อูไน เอเมรี่ เป็นผู้จัดารทีมของปืนใหญ่อาร์เซน่อล เมื่อปี 2018 ที่ได้รีบไม้ต่อจาก อาร์แซน แวงเกอร์ แน่นอนว่านี่คือผู้จัดการทีมที่เป็นความหวังใหม่ของปืนใหญ่ แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น ยิ่งการเจอกับลิเวอร์พูล 6 ครั้ง อูไน เอเมรี่ ไม่เคยเอาชนะได้แม้แค่ครั้งเดียว โดยเจอกันในพรีเมียร์ลีก 4 ครั้ง ชนะ 3 เสมอ 1 และในรายการ ลีกคัพเสมอไป 5 – 5 ในเกม จนต้องจบด้วยการด้วยจุดโทษและก็เป็นฝ่ายของ อูไน เอเมรี่ ที่แพ้ไป 4 – 5 และรายการ FA Community Shield เสมอกัน 1 – 1 บียาร์เรอัล เคยเจอกับลิเวอร์พูลในรายการยูโรปาลีกภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ เมื่อปี 2016 สองครั้งแพงไป 1 – 0 และ 3- 1 นั่นหมายความว่าไม่ว่าจะยุคไหนก็ตาม ชายผู้นี้ล้วนมีสถิติที่เหนือกว่าทั้ง อูไน เอเมรี่ และ บียาร์เรอัล ภายใต้การคุมทีมหงส์แดง แต่สิ่งที่จะทำไม่เหมือนกเดิมในการเจอกันครั้งนี้ก็คือ การที่ อูไน เอเมรี่ สร้างทีมมาจากนักเตะที่ล้วนแล้วแต่อกหักจากพรีเมียร์ลีกไม่ว่าจะเป็น เอเตียนน์ กาปู อดีตห้องเครื่องวัตฟอร์ด(2015-2022) ฟร็องซิส กอเกอแล็ง อดีตกองกลาง อาร์เซนอล(2008-2018) และ โยบานิ โลเซลโซ กองกลางจาก ท๊อตแนมฮอตสเปอร์ส (2019-2022) นี่ถือว่าเป็นหัวใจของเกมตรงกลางที่มีความแม่นยำการวางบอล คอนโทรลบอล คุมจังหวะรุกรับ แน่นอนว่าการเจอกับทีมจากพรีเมียร์ลีกที่เคยไม่เห็นค่าแบบนี้เป็นแรงฮึดที่เติมเชื้อไฟได้อย่าดีเลยทีเดียว อีกทั้ง อูไน เอเมรี่ ก็จะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าตัวเขานั้นคือผู้จัดการทีมที่ไม่ได้มีดีแค่ยูโรปาลีกอีกต่อไป จุดที่น่าสนใจของทั้งสองทีมก็คือทั้งสองทีมล้วนมีนักเตะคุณภาพในเรื่องของการจบสกอร์ด้วยกันทั้งสิ้น และเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก เชื่อว่าทั้งสองกเกมที่จะเจอกันต่อจากนี้จะเป็นเกมที่มีคุณภาพสำหรับรายการแห่งยุโรปรายการนี้ย่างแน่นอน โดยเกมแรกทั้งสองทีมจะเจอกันในวันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 02.00 น. และเกมที่สองในวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เวลา 02.00 น. คอลูกหนังห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงข่าวที่เกี่ยวข้องแผนสุดแยบยลของ FSG ปิดทางเลือก "โมฮาเหม็ด ซาล่าห์" จบปัญหาสัญญาที่วุ่นวาย3 ตัวแปรตัดสินสามแต้ม "แมนซิตี้" หรือ "ลิเวอร์พูล" เปิดทางแชมป์พรีเมียร์ลีก 2021-2022ทำความรู้จัก "เบน โด็ก (Ben Doak)" ดาวรุ่งมากพรสวรรค์คนใหม่ของ ลิเวอร์พูลจัดอันดับ 8 ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยุคพรีเมียร์ลีก ผลงานแย่ที่สุดถึงดีที่สุดส่อง 3 ปัจจัย ที่อาจปลี่ยนใจ "เจอร์เกน คล็อปป์" ต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูลเครดิตภาพปก twitter.com/lfc :: ภาพที่ 1 , twitter.com/VillarrealCF :: ภาพที่ 2เครดิตภาพประกอบ twitter.com/VillarrealCF :: ภาพที่ 1 - ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!