
เคล็ดลับผู้ชายสายออมวิธีเก็บเงินแสนแรกของคนเงินเดือนเริ่มต้น 10,000 บาท ใช้เวลาเท่าไหร่

การออมเงินเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนควรทำไม่ว่าจะออมได้มากหรือออมได้น้อย แต่หากบางคนต้องการเพิ่มความท้าทายในการออมเงินมากขึ้นด้วยการเก็บเงินแสนแรก ควรวางแผนอย่างไรให้ได้ผลจริงถึงแม้จะมีเงินเดือนเริ่มต้น 10,000 บาท และระดับเงินเดือนอื่นๆ หากอยากเก็บเงินแสนแรกมีเทคนิคอย่างไร TrueID Sport มีแผนการเก็บเงินแสนแรกมาฝากคุณกัน
เคล็ดลับผู้ชายสายออมวิธีเก็บเงินแสนแรก
ของคนเงินเดือนเริ่มต้น 10,000 บาท ใช้เวลาเท่าไหร่
แนวทางการเก็บเงินแสนแรกตามช่วงเงินเดือน
เทคนิคเก็บเงินแสนแรกสำหรับคนเงินเดือน 10,000 บาท
ด้วยฐานเงินเดือนกลุ่มนี้อาจจะดูยากที่สุด แต่คุณสามารถทำได้ สิ่งสำคัญคือการจัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายและหารายได้เสริม
- หักออมทันที: ตั้งเป้าหักออมอย่างน้อย 5-10% ของเงินเดือน หรือประมาณ 500 - 1,000 บาท ทันทีที่เงินเดือนออก หรือวันละ 16-34 บาท
- ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด: เน้นการทำอาหารเองเพื่อลดค่าใช้จ่าย วางแผนการเดินทางเพื่อประหยัดค่าเดินทาง และลดกิจกรรมสังสรรค์ที่ไม่จำเป็นหากเลี่ยงไม่ได้อาจมีการแบ่งเงินส่วนนึงกันไว้เพื่อกรเข้าสังคม
- หารายได้เสริม: นี่คือทางรอดที่สำคัญมากสำหรับกลุ่มนี้ ลองหางานพิเศษที่ทำหลังเลิกงานหรือวันหยุด การทำ Affiliate ก็เป็นอีกทางในการหารายได้เสริมได้โดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า
ระยะเวลาโดยประมาณ: หากเก็บได้เดือนละ 1,000 บาท ต้องใช้เวลาประมาณ 8 ปี 4 เดือน แต่ถ้าหารายได้เสริมเพิ่มและเก็บได้เดือนละ 2,000 - 3,000 บาท ระยะเวลาจะสั้นลงเหลือประมาณ 2 ปี 9 เดือน - 4 ปี 2 เดือน
เทคนิคเก็บเงินแสนแรกสำหรับคนเงินเดือน 15,000 บาท
กลุ่มนี้มีโอกาสมากขึ้นในการเก็บเงิน เพราะมีรายได้ที่พอจะแบ่งมาใช้จ่ายและออมได้
- หักออมอย่างน้อย 10-15%: ตั้งเป้าหักออมอย่างน้อย 1,500 - 2,250 บาท ต่อเดือน ตกเฉลี่ยวันละ 50-75 บาท
- ใช้เทคนิค "ซองเงิน": แบ่งเงินเป็นซอง ๆ ตามหมวดหมู่ เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เมื่อเงินในซองหมดก็คือหมด วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าเหลือโควต้าในแต่ละสิ่งเท่าไหร่
- เก็บเงินตามรายจ่ายที่ลดได้: เช่นถ้าคุณลดค่ากาแฟได้ 500 บาทต่อเดือน ก็เอา 500 บาทนั้นไปเก็บทันที
ระยะเวลาโดยประมาณ: หากเก็บได้เดือนละ 2,000 บาท ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี 2 เดือน แต่ถ้าเก็บได้เดือนละ 3,000 - 4,000 บาท ระยะเวลาจะสั้นลงเหลือประมาณ 2 ปี 1 เดือน - 2 ปี 9 เดือน
เทคนิคเก็บเงินแสนแรกสำหรับคนเงินเดือน 20,000 บาท
กลุ่มนี้เริ่มมีเงินเหลือมากขึ้น สามารถวางแผนการออมได้หลากหลายกว่า
- หักออมอย่างน้อย 15-20%: ตั้งเป้าออมให้ได้ 3,000 - 4,000 บาท ต่อเดือน ตกเฉลี่ยวันละ 100-133 บาท
- ลงทุนในความรู้: แทนที่จะใช้จ่ายไปกับของฟุ่มเฟือย ลองนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนกับคอร์สเรียนหรือหนังสือที่ช่วยเพิ่มทักษะ เพื่อโอกาสในการอัปเงินเดือนในอนาคต
- เริ่มแบ่งเงินไปลงทุนเล็กน้อย: เมื่อมีเงินออมพอสมควรแล้ว ลองแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในกองทุนรวมที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้เงินทำงานแทนคุณ
ระยะเวลาโดยประมาณ: หากเก็บได้เดือนละ 4,000 บาท ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี 1 เดือน แต่ถ้าเก็บได้เดือนละ 5,000 บาท ระยะเวลาจะสั้นลงเหลือประมาณ 1 ปี 8 เดือน
เทคนิคเก็บเงินแสนแรกสำหรับคนเงินเดือน 25,000 บาท
กลุ่มนี้สามารถเก็บเงินแสนได้ค่อนข้างเร็วหากมีวินัย
- หักออมอย่างน้อย 20-25%: ตั้งเป้าออมให้ได้ 5,000 - 6,250 บาท ต่อเดือน ตกเฉลี่ยวันละ 166-208 บาท
- วางแผนการเงินในระยะยาว: ควรเริ่มต้นวางแผนการเงินสำหรับเป้าหมายในอนาคต เช่น ซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน หรือเพื่อการเกษียณ
- สร้างพอร์ตการลงทุน: เริ่มแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น กองทุนรวม หรือหุ้นที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้เงินเติบโตได้เร็วกว่าการฝากออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว
ระยะเวลาโดยประมาณ: หากเก็บได้เดือนละ 5,000 บาท ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี 8 เดือน แต่ถ้าเก็บได้เดือนละ 6,000 บาท ระยะเวลาจะสั้นลงเหลือเพียง 1 ปี 4 เดือน
เทคนิคเก็บเงินแสนแรกสำหรับคนเงินเดือน 30,000 บาท
กลุ่มนี้มีศักยภาพในการเก็บเงินสูงมากและใช้เวลาไม่นานก็ถึงเป้าหมายได้
- หักออมอย่างน้อย 25-30%: ตั้งเป้าออมให้ได้ 7,500 - 9,000 บาท ต่อเดือน ตกเฉลี่ยวันละ 250 - 300 บาท
- สร้างระบบการเงินอัตโนมัติ: ตั้งค่าให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินเดือนไปเข้าบัญชีเงินออมทันทีที่เงินเดือนออก เพื่อป้องกันการนำไปใช้จ่าย
- กระจายความเสี่ยงในการลงทุน: ศึกษาการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์ เช่น อสังหาริมทรัพย์เพื่อการปล่อยเช่า ทองคำ หรือกองทุนรวมในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
ระยะเวลาโดยประมาณ: หากเก็บได้เดือนละ 8,000 บาท ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี กับอีก 3 เดือน แต่ถ้าเก็บได้เดือนละ 9,000 บาท ระยะเวลาจะสั้นลงเหลือเพียง 1 ปี 1 เดือน
เพิ่มความยืดหยุ่นในการออมเงิน ปรับตามสไตล์ชีวิต ไม่ต้องตึงจนเกินไป
นอกเหนือจากหลักการสำคัญในการเก็บเงินแล้ว การเพิ่มความยืดหยุ่นให้เข้ากับชีวิตจริงจะช่วยให้คุณออมเงินได้อย่างยั่งยืนและไม่รู้สึกอึดอัดจนต้องเลิกไปเสียก่อน
- ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าจำนวน : ตั้งเป้าหมายการออมที่ทำได้จริงในทุกสถานการณ์ เช่นวันไหนที่คุณมีค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่นงานเลี้ยงเพื่อน หรือซ่อมรถฉุกเฉิน คุณอาจจะลดจำนวนเงินที่ออมลงชั่วคราวจาก 200 บาท เหลือ 50 บาท หรือเว้นไปหนึ่งวันก็ไม่เป็นไร แต่สำคัญคือต้องกลับมาออมให้ได้ในวันถัดไป การทำแบบนี้จะทำให้คุณยังรู้สึกว่าควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่รู้สึกผิดจนท้อแท้
- อย่ามองข้ามเงินก้อนเล็ก (และไม่จำเป็นต้องเก็บทุกวัน): บางครั้งการตั้งเป้าว่าจะเก็บเงินที่เหลือทุกวันอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า ลองเปลี่ยนมาเป็นการเก็บเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายของสัปดาห์แทน หรือจะกำหนด "วันเก็บเงิน" ในแต่ละสัปดาห์ เช่น ทุกคืนวันศุกร์ก็เป็นไอเดียที่ดี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นโดยไม่รู้สึกว่าโดนบังคับ
- ฉลองความสำเร็จเล็กๆ (ให้รางวัลที่เหมาะสม): การให้รางวัลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ควรเป็นรางวัลที่ไม่ทำลายเป้าหมายการออมของคุณ ลองกำหนดรางวัลที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล เช่น เมื่อเก็บเงินได้ครบ 1,000 บาท คุณจะซื้อกาแฟแก้วโปรดที่อยากดื่มมานาน หรือเมื่อทำได้ครบเดือน คุณจะดูหนังที่อยากดูสักเรื่อง การให้รางวัลแบบนี้จะช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจและรู้สึกว่าการออมเป็นเรื่องที่สนุกและคุ้มค่า
บทความที่คุณอาจสนใจ