ปิดฉากกันไปอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาของชาวอาเชียน "ซีเกมส์ (SEA Games 31 Viet Nam 2021)" ซึ่งในปีนี้ทัพนักกีฬาชาวไทยทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าอันดับ 2 เหรียญทองรวม (92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง) เป็นรองแค่ประเทศเจ้าภาพอย่างเวียดนามเท่านั้น และที่สำคัญคือในปีนี้มีนักกีฬาไทย "จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน (Joshua Robert Atkinson)" หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 19 ปี มีผลงานติด 1 ใน 4 รางวัล "BEST ATHLETES" นักกีฬายอดเยี่ยมของการแข่งกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้ ด้วยผลงานคว้า 4 เหรียญทอง จากการแข่งขันกรีฑาทั้ง 4 รายการที่ลงทำการแข่งขัน ได้แก่ วิ่งผลัดผสม 4x400 m. Mix Relay, วิ่ง 400 m. ชาย, วิ่ง 800 m. ชาย และ วิ่งผลัด 4x400 m. ชาย และถือเป็นนักกีฬาไทยคนแรกในรอบ 21 ปีที่ทำสถิติคว้าเหรียญทองมากที่สุดในซีเกมส์ครั้งเดียว นับตั้งแต่ "สุภาวดี ขาวเผือก" ทำได้เมื่อ ปี 2001 ถือเป็นนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรง และเป็นกำลังสำคัญให้ทัพนักกีฬาลมกรดทีมชาติไทยที่อนาคตไกลมาก ๆ คนหนึ่ง คุณแม่อ้อม ชโลธร แอทคินสัน คุณแม่ของจอชชัว เล่าว่า จอชชัวมีแววนักกีฬาวิ่งมาตั้งแต่ยังเด็ก ตอนจอชชัวอายุประมาณ 5 ขวบ มีเทศกาลแข่งกีฬาสีของเด็ก "เห็นเจ้าจอชวิ่ง วิ่งโล่งทั้งสนาม" น่าจะเป็นวิ่ง 400 เมตร จอชชัวชนะเด็กที่โตกว่าเขา 2 ปี และปีต่อมาเขาก็ชนะอีก ตอนนั้นแม่มีความรู้สึกว่าจอชน่าจะชอบวิ่ง รู้สึกว่าต้องสนับสนุนลูก เพราะว่าตอนนั้นจอชชัวมีลักษณะเป็นเด็กไฮเปอร์ คือเขามีพลังงานเยอะ ไม่ค่อยอยู่นิ่ง เราต้องทำให้อาการของเขาหาย และแม่เชื่อในเรื่องของการออกกำลังกาย เลยพาเข้าสโมสรตอนอายุ 8 ขวบ ซึ่งตอนนั้นจอชชัวจะวิ่ง 800 เมตร และ 1,500 เมตร เป็นตัวเต็งของคลับ และเป็นตัวแทนของคลับไปแข่งในระดับรัฐที่ออสเตรเลีย ตอนจอชอายุ 11 ปี โค้ชเห็นแววก็เลยพาฝึกจนได้เป็นที่ 1 ของรัฐ และทำลายสถิติของประเทศออสเตรเลียตอนอายุ 13 ปี>>>>>ได้ยินแบบนี้คือไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนจอชชัววิ่ง 800 เมตร ถึงวิ่งได้ชิลมาก ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะจอชชัวฝึก 1,500 เมตร มาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยน่าจะจัดระเบียบการวิ่งระยะไกล ๆ ได้ดี เพราะเท่าที่เห็นจากคลิปการแข่งขัน จะเห็นว่าเขาเป็นคนที่วางแผนการวิ่งได้ฉลาดมาก คือช่วงแรก ๆ ที่ออกตัว จอชชัวจะไม่ใช้แรงจนสุด แต่จะวิ่งให้ได้ตัดลู่อยู่ชิดขอบสนามเพื่อให้ได้เปรียบเวลาตีโค้ง แล้วจะรักษาระยะห่างกับนักกีฬาคนอื่น ๆ ไม่ให้ทิ้งห่างมาก เขาจะอยู่ที่ 3-4 หลังนักฬาคนอื่น ซึ่งเป็นวิธีการที่ฉลาดมาก สำหรับการวิ่งระยะไกล เพราะจริง ๆ จอชชัวสามารถวิ่งไปที่ 1 เลยก็ได้ แต่การที่จอชวิ่งอยู่ด้านหลังคนอื่นจะช่วยลดแรงต้านจากอากาศ ทำให้ไม่ต้องเหนื่อยมาก แล้วเก็บแรงไปปล่อยจนสุดตอนระยะ 100 เมตร สุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยนั่นเอง ต่อมา ตอนอายุ 14 ปี จอชชัวเกิดอุบัติเหตุบริเวณแข้ง ทำให้เขารู้สึกว่าการวิ่ง 1,500 เมตร มันหนักเกินไปสำหรับเขา รู้สึกว่าความแกร่งไม่เหมือนเดิมแบบก่อนเกิดอุบัติเหตุ เลยเปลี่ยนมาวิ่ง 400 เมตร ซึ่งตอนนั้นแม่ก็ถามจอชว่าไหวมั้ย เพราะว่านักกีฬาวิ่ง 400 เมตร เก่ง ๆ มีหลายคนมากในรุ่นเดียวกัน ซึ่งจอชก็บอกกับแม่ว่าเขาเชื่อมั่นว่าเขาทำได้ หลังจากนั้นตอนอายุ 16 ปี จอชชัวลงแข่งวิ่งระหว่าง 400 เมตร และ 800 เมตร จอชก็ได้ที่ 1 ในปีนั้นเลย แล้วก็ได้ที่ 1 ของออสเตเลีย 3 ปีซ้อน ทั้งวิ่ง 400 เมตร และ 800 เมตร>>>>>อยากปรบมือให้จอชชัว จอชเก่งมาก การบาดเจ็บถือเป็นฝันร้ายมาก ๆ สำหรับนักกีฬา บางคนท้อแล้วล้มเลิกไปเลยก็มี ซึ่งจุดนี้ที่เห็นจอชชัวคือน้องเข้มแข็งมาก น้องรักในการวิ่ง และอยากจะไปในเส้นทางนี้จริง ๆ จึงเลือกที่จะยอมรับในศักยภาพของร่างกายตัวเอง ยอมลดระยะเพื่อที่จะรักษาสภาพร่างกายของตัวเองไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก แล้วจอชชัวเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก เขาไม่กลัวใครเลย คิดว่า ณ ตอนนั้นคงเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ๆ สำหรับการแข่งกับนักกีฬา 400 เมตร คนเก่ง ๆ ในรุ่นตัวเอง แต่เขาก็ทำได้อย่างที่บอกกับแม่จริง ๆ เมื่อปี 2020 ก่อนโควิดระบาดรุนแรง มีการแข่งขันเยาวชนโลกที่ประเทศเคนย่า จอชก็ติดทั้ง 400 เมตร และ 800 เมตร ทางออสเตรเลียอยากจะดึงตัวจอชชัวเข้าทีมชาติของออสเตรเลีย ซึ่งตอนนั้น คุณปีเตอร์ คุณพ่อของจอชชัว ก็เลยมาถามคุณแม่ว่า ลองติดต่อไปที่เมืองไทยมั้ย จอชชัวจะได้มีทางเลือกมากขึ้น จากนั้้นครอบครัวก็ได้มาเที่ยวเมืองไทย และมาพบโค้ช ซึ่งโค้ชก็บอกหุ่นแบบนี้โอเคเลยสำหรับลง 400 เมตร จากนั้นมาจอชชัวก็เริ่มฝึกซ้อม ซึ่งส่วนมากก็จะซ้อมที่ออสเตรเลีย ตอนนั้นจอชชัวทำสถิติ 400 เมตร ได้ดี ส่วน 800 เมตรยังไม่ 100% >>>>>อยากขอบคุณคุณพ่อปีเตอร์มาก 5555 พูดได้เลยว่าหากไม่มีคุณพ่อปีเตอร์หรือคุณแม่อ้อมที่ติดต่อมาที่ประเทศไทย ซีเกมส์ครั้งนี้ชาวไทยอาจจะไม่ได้รู้จัก ผู้ชายที่ชื่อ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน เลยก็ว่าได้ ต้องขอบคุณครอบครัวของจอชชัวจริง ๆ ที่สนับสนุนและมองหาโอกาสดี ๆ ให้กับจอชชัวเสมอมา ก่อนมาฝึกที่ไทย ทั้งคุณแม่และจอชชัวกังวลมาก คุณแม่บอกตามตรงว่าเป็นห่วงจอชชัวมาก กลัวเขาจะอยู่ไม่ได้ ตอนแรกก่อนมาถึงที่ไทยจอชชัวไม่อยากมา เขากลัวจะอยู่ไม่ได้ เพราะต้องอยู่ไทย 6 อาทิตย์ และไม่เคยเติบโตที่เมืองไทย พูดไทยก็ยังไม่ได้ "ก่อนเครื่องถึงไทย 2 ชั่วโมง เขาพูดเศร้า ๆ ว่าอยากกับออสเตรเลียแล้วอะ" แม่ก็บอกว่าให้ไปอยู่ก่อน ลองดูก่อน ซึ่งพอไปวันแรกความรู้สึกจอชชัวก็เปลี่ยนไปเลย เพราะจอชชัวได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นมากที่เมืองไทย และบอกกับแม่ว่าอยู่ได้ แต่ช่วงอาทิตย์แรก ๆ ร้อนมาก ช่วงเมษา แล้วก็มีปัญหาเรื่องการกินด้วยนิดหน่อย เพราะปกติเขาจะกินซีเรียลกับนม ซึ่งที่ไทยไม่ใช่แบบนั้น แม่ก็จะเป็นคนไปซื้อมาให้ทาน แต่ว่าตอนนี้ก็โอเคแล้ว>>>>>ตอนบอกว่าเมษาร้อนมาก คือเอ็นดู 55555 จริง ๆ ประเทศไทยก็ร้อนตลอดทั้งปี แต่จอชชัวดันได้มาฝึกซ้อมที่ไทยช่วงเดือนเมษา ที่ขนาดคนไทยเองยังบ่นร้อน อยู่แต่ห้องแอร์ แล้วน้องที่ต้องซ้อมวิ่งในสนาม ที่ลำพังวิ่งเฉย ๆ ก็ว่าเหนื่อยแล้ว เจอสภาพอากาศบ้านเราเข้าไปคงเป็นเรื่องยากอีกอย่างหนึ่งเลย สุดท้ายนี้ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้จอชชัวกันด้วยนะคะ คุณแม่อ้อมบอกว่าจอชชัวตั้งใจมาทำให้เพื่อไทยเลย เพราะจริง ๆ แล้วทางออสเตรเลียต้องการตัวจอชชัวมาก ซึ่งแม่ก็ถามจอชชัวทุกครั้งว่า "ยูทำให้ใคร แม่ไม่บังคับ" ซึ่งจอชชัวบอกกับแม่คำเดิมเลยว่า "THAILAND ONLY" ตลอดเลย ไม่เปลี่ยนเลย น้องตั้งใจมาทำเพื่อไทยมาก ๆ จริง ๆ "ฝากเจ้าจอชด้วยนะคะ ยังเด็กอยู่ แต่ว่าคิดว่าอนาคตเขาน่าจะอีกไกล" และแม่น้องจอชชัวบอกว่า จอชเพิ่งเลิกกับแฟนที่ออสเตรเลีย ซึ่งทางคุณแม่ก็บอกว่าดีมากลูก เป้าหมายของลูกคืออะไรตอนนี้ทำให้เต็มที่ เรื่องแฟนค่อยว่าทีหลัง พร้อมแนะนำว่า สนใจสาวไทยมั้ยลูก ซึ่งหนุ่มจอชชัวก็ตอบคุณแม่ว่า "Mom, Thai girl is very beautiful" ^^>>>>>บอกได้เลยว่าจอชชัวอนาคตไกล และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมนักกรีฑาไทยมาก ๆ จากผลงานในซีเกมส์ และผลงานที่ผ่านมา รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่จอชชัวเลือกมาทำผลงานในบ้านเกิดของคุณแม่ ฟังที่จอชชัวตอบว่า "Thailand Only" คือประทับใจมาก จอชชัวตั้งใจทำเพื่อประเทศไทยจริง ๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางทีมชาติไทยจะให้การสนับสนุนหนุ่มคนนี้อย่างเต็มที่นะคะ เพราะเราเชื่อว่าน้องไปได้ไกลมาก ๆ จริง ๆ ซึ่งตอนนี้จอชชัวอยู่ในโครงการกรีฑาดาวรุ่งมุ่งเอเชียนเกมส์ และกำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน กรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก รายการ "ยู 20 แชมเปี้ยนชิพ 2022" ซึ่งจะแข่งขันช่วง 1-7 สิงหาคมนี้ ที่โคลอมเบีย ร่วมกับ "บิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรมทีมชาติไทยวัย 16 ปี อีกคนหนึ่งที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นกันในซีเกมส์ครั้งนี้ ฝากทุกคนติดตาม และเป็นกำลังใจให้ทั้ง จอชชัว และ บิว ในเวทีระดับโลกครั้งนี้กันด้วยนะคะ อีกไม่นานเกินรอจะได้เห็นผลงานของทั้งคู่อย่างแน่นอนค่า ก่อนจะลากันไปสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจมาก ๆ จากสัมภาษณ์ของคุณแม่ของจอชชัวก็คือครอบครัวของจอชชัวน่ารักมาก แล้วก็ใส่ใจจอชชัวมาก เรากล้าพูดเลยว่าอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยของเรามีนักกีฬาที่เก่งได้ขนาดนี้ได้เป็นเพราะแรงสนับสนุน ความรัก ความใส่ใจของครอบครัวที่เห็นความสามารถของจอชชัวและสนับสนุนมาตั้งแต่เด็ก อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนเป็นแบบนี้มาก ๆ เชื่อว่าเด็กไทยเก่งแต่ยังขาดการสนับสนุนจากทางครอบครัว ไม่ว่าจะความสามารถอะไรก็ตาม ศิลปะ กีฬา วิชาการ งานฝีมือ หรืออื่น ๆ เชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้าเด็กได้ทำในสิ่งที่ชอบ และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทุกคนจะประสบความสำเร็จ และมีความสุขในเส้นทางชีวิตการทำงานของตัวเอง อย่าลืมใส่ใจความสามารถของเด็ก ๆ รอบตัวคุณกันนะคะ สำหรับใครที่พลาดชมการแข่งขันทั้ง 4 เหรียญของจอชชัวสามารถรับชมย้อนหลังได้จากคลิปด้านล่างนี้เลยนะคะ Enjoy ค่า^^ เหรียญทองแรก: วิ่งผลัด 4x400 เมตร Mix Relay รายการนี้สนุกและตื่นเต้นมาก ทีมไทยปาดรางวัลชนะเลิศจากเจ้าภาพเวียดนามไปแบบฉิวเฉียดมาก ๆ และจอชชัวในไม้ 3 ก็ทำผลงานได้ดีมาก ๆ ในรอบนี้เหรียญทองที่ 2: วิ่ง 400 เมตร ชาย https://youtu.be/sowTcpCSIJYเหรียญทองที่ 3: วิ่ง 800 เมตร ชายเหรียญทองที่ 4: วิ่งผลัด 4x400 เมตร ชายเครดิตFacebook SEA Games 31 Viet Nam 2021 : ภาพ1 Facebook กรีฑาไทย สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย : ภาพ2 ภาพ6Facebook กองประชาสัมพันธ์ กกท. : ภาพปก ภาพ3 ภาพ4 ภาพ5 กรีฑาไทย สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย : คลิปที่ 1TrueVisionsOfficial : คลิปที่ 2 , คลิปที่ 3ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง : คลิปที่ 4ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!