เป๊ปคงบ่นเสียดายน่าดู เมื่อพวกเขาทำได้แค่เสมอกับเชลซีของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไปด้วยสกอร์ 1-1 โดยเชลซีขึ้นนำก่อนจากราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วนแมนซิตีได้ประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกม จากการยิงสุดสวยบวกเฮงของโรดรี้ ทำให้จบเกมแบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยแมนซิตีน่าจะเจ็บใจสุดเพราะไม่สามารถแซงขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงเพื่อกดดันจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูลส่งผลให้แมนซิตีจอดอยู่ที่อันดับที่ 3 มี 53 คะแนน ส่วนเชลซีมีเพิ่มเป็น 35 คะแนน แซงวูล์ฟแฮมป์ตันขึ้นไปอยู่อันดับที่ 10 ที่คุ้นเคย แม้จะคะแนนเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้เสียเชลซีดีกว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในเกมนี้ มาดูกันเหตุการณ์ที่ 1: โถมบุกเต็มเหนี่ยวแต่ทีมเยือนรับมือได้เกือบหมดอย่างที่หลายคนรู้ดีว่าเกมรุกของแมนซิตีนั้นยากที่จะต้านทานได้ ลูกทีมของเมาริซิโอ โปเช็ตติโนก็ทราบดีเช่นกัน ฉะนั้นแล้วจะเล่นอย่างไรดีล่ะ เชลซีเลยเลือกที่จะตั้งรับเหนียวๆที่แดนตัวเอง และหาโอกาสสวนกลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งในครึ่งแรกพวกเขาก็สามารถรับมือกับเกมรุกที่โถมมาอย่างต่อเนื่องของแมนซิตีได้ดีมาก แถมยังมีจังหวะที่ขึ้นเกมสวนกลับ คอยเก็บตกจากจังหวะความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของผู้เล่นแมนซิตี จนเป็นที่มาของการได้ประตูขึ้นนำ และในครึ่งหลังพวกเขาก็ใช้วิธีเดิมเช่นกัน เพียงแต่โอกาสการสวนกลับก็น้อยลง เพราะแมนซิตีก็พยายามพับสนามบุกเต็มที่หวังประตูตีเสมอ แต่พวกเขาก็ยังสามารถยันเกมรุกที่โถมบุกได้ดี และต้องบอกว่าโชคดีที่เกมบุกของซิตีก็ไม่ค่อยเข้าเป้า ยกเว้นลูกตีเสมอ ถือว่าวางแผนรับมือได้ดีมากอีกนัดหนึ่งเหตุการณ์ที่ 2: แนวรุกเชลซียังไม่นิ่งพอการฝากความหวังแนวรุกของเชลซียังคงยากเสมอสำหรับแฟนบอลเชลซี วันไหนนัดกันฟอร์มดีก็ดีไป วันไหนนัดกันฟอร์มฝืดก็ฝืดยาวๆ ด้วยอายุและประสบการณ์ตอนนี้เห็นจะมีแต่ราฮีม สเตอร์ลิ่งที่ยังพอฝากความหวังไว้ได้ ส่วนนิโคลัส แจ็คสัน ด้วยราคาและฟอร์มตอนนี้ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปอีก ทางมิไคโล มูดริก อันนี้ไม่ต้องคิดมาก เพราะแทบจะเรียกได้ว่าล้มเหลวอย่างที่สุด จากราคาที่จ่ายไปและฟอร์มในสนามที่ล้มเหลวอย่างมาก การที่แนวรุกยังไม่สามารถเค้นฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอก็อาจจะเป็นคำตอบที่แน่ชัดแล้วว่าบางเกมที่ควรชนะกลับไม่ชนะก็เป็นเพราะแนวรุกที่ไม่สามารถผลิตสกอร์ได้อย่างใจนึกในหลายๆจังหวะ หลังจากนี้คงต้องหาทางปลุกฟอร์มแนวรุกให้กลับมาขยันยิงได้อีกครั้งเหตุการณ์ที่ 3: บทบาทใหม่ของคอนนอร์ กัลลาเกอร์บทบาทที่หลายๆคนอยากเห็นในตัวของคอนนอร์ กัลลาเกอร์กับการเป็นกลางรุกหมายเลข 10 ที่สามารถสอดเข้ามาช่วยเกมรุกและลงไปช่วยเชื่อมเกมแดนกลางให้กับทีมได้ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับก่อนว่าน่าเสียดายในช่วงแรกๆที่เขามักจะถูกจับไปเล่นในแผน 4-3-3 ซะส่วนใหญ่ และบทบาทเขาจะอยู่ในแดนกลางมากกว่าแดนบน แต่หลังๆมานี้ พอเขาได้มีโอกาสขึ้นเกมรุกมากขึ้น ความขยัน ทักษะ ฝีเท้าของเขาช่วยเหลือทีมได้อย่างดีมาก หากทีมยังมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของเขา ยังไงก็ต้องพยายามต่อสัญญาเขาให้ได้เหตุการณ์ที่ 4: เจอทีมมหาอุด ก็เกือบหลับได้เป็นเกมที่โอกาสการยิงของแมนซิตีมีสูงถึง 31 ครั้ง แต่ยิงตรงกรอบไปเพียง 5 ครั้งเท่านั้น นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่บ่งบอกว่าเกมรุกแมนซิตีแม้จะมีความหลากหลายและน่ากลัวอย่างมากในบางเกม แต่พอเจอกับระดับทีมที่ใกล้เคียงกัน หรือรู้ทันเกมกันอยู่ ความน่ากลัวของฮาแลนด์ก็ลดลงไปเมื่อถูกประกบหายไปจากเกม แนวรุกของทีมที่เป็นจุดขายทั้งโดกู โฟเด้น ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ หรือเควิน เดอ บรอยก็เกือบหายไปทั้งเกม แต่สุดท้ายก็มีหลายจังหวะที่พอจะโชว์ฟอร์มระดับโลกให้เห็นได้ แต่หากเกิดขึ้นแบบนี้หลายๆเกม ความหวังในการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ก็จะยิ่งลดน้อยลงไปอีกเหตุการณ์ที่ 5: บทบาทของโรดรี้ที่แตกต่างจากเมื่อก่อนช่วงหลังๆมานี้ แม้ในบทบาทของโรดรี้จะยังคงเป็นกองกลางตัวรับที่คอยเบรคเกมและคุมจังหวะเกมจากรับเป็นรุก ก็มีเพิ่มมาในส่วนของการขึ้นเกมไปช่วยยิงหรือส่งบอลแบบคิลเลอร์พาสให้กับเพื่อนร่วมทีม และบทบาทนี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นในบางเกมที่ไม่สามารถขึ้นเกมบุกได้ตามใจปรารถนา โรดรี้ก็จะเป็นคนเข้ามาช่วยสร้างโอกาสการยิงหรือพยายามเพรสซิ่งเพื่อแย่งบอลจากคู่ต่อสู้ให้ทีมได้เปรียบ การขาดโรดรี้ไปในช่วงหนึ่งก็ตอกย้ำชัดแล้วว่าเขามีความสำคัญขนาดไหน และการที่ยังไม่สามารถหาตัวแทนของเขาได้ ก็ยิ่งต้องทะนุถนอมตัวเขาไว้ให้ดีด้วยเช่นกันเหตุการณ์ที่ 6: เกมตัดสินชะตาการลุ้นแชมป์ของแมนซิตีเส้นทางการลุ้นแชมป์ของแมนซิตียังไม่หมด เพราะว่าพวกเขายังคงเหลือเกมนัดตกค้างอีกนัดหนึ่ง รวมไปถึงเกมที่ต้องเจอกันเองระหว่างจ่าฝูง กับรองจ่าฝูงในเดือนมีนาคมทั้งสองเกม เป็นเกมเยือน 1 เกม (เจอลิเวอร์พูล) และเกมเหย้า 1 เกม (เจออาร์เซนอล) หากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งสองนัดและไม่สะดุดในเกมที่เหลือ หนทางการคว้าแชมป์ก็แทบจะสดใสไร้ผู้ใดต้าน แต่ถ้าหากสะดุดเกมในเกมหนึ่ง หรือแม้กระทั่งเสมอ ก็อาจจะไม่สามารถเบียดแซงลิเวอร์พูลได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงต้องเจอกับทีม Big 6 อีก ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและสเปอร์ส นี่ก็อาจจะเป็นอีกเกมที่จะหยุดยั้งไม่ให้ความฝันของแมนซิตีฤดูกาลนี้สำเร็จก็เป็นได้ขอขอบคุณภาพประกอบบทความ จากภาพที่ 1,5,6,7 และภาพปกบทความ จาก Facebook Manchester Cityภาพที่ 2,3 และ 4 จาก Facebook Chelsea Football Club เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !