เหลือเวลาอีกเพียงสองสัปดาห์ฟุตบอลโลกก็จะเปิดฉากพร้อมกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเกมสุดท้ายที่จะปิดฉากในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ก่อนที่จะกับมาฟาดแข้งอีกครั้งในช่วงคริสมาตส์วันที่ 26 ธันวาคม เมื่อเหลียวมองไปยังตารางคะแนน ณ เวลานี้เหล่าบิ๊กทีมทั้งหลายก็ยังเกาะกลุ่มกันเหนี่ยวแน่นไม่ห่างกันมาก แต่เกมสุดท้ายก็จะเปิดทางให้กับฟุตบอลโกลน่าจะมีความหมายกับทั้งตำแหน่งจ่าฝูงและท็อปโฟร์ ว่าแล้วก็ไปส่องกับโปรแกรมและโอกาสของแต่ละทีมกันหน่อยว่าจะมีโอกาสจบลงแบบไหนกันบ้างตำแหน่งจ่าฝูง แมนซิตี้ และ อาร์เซน่อลเริ่มที่เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเปิดบ้านรับ เบรนฟอร์ด ที่ถือว่าเป็นงานไม่หนักเท่าไหร่ ด้วยผลงานในบ้านของเรือใบสีฟ้าโหดซะเหลือเกินในฤดูกาลนี้ เพราะตั้งแต่เปิดฤดูกาลมายังไม่แพ้ใครในทุกรายการที่สนามแห่งนี้ อีกทั้งค่าเฉลี่ยในการยิงประตูที่เอดิฮัดส์อยู่ที่ 2. 5 ประตูต่อเกม แม้ว่าเกมล่าสุด เจา คานเซโล จะโดนใบแดงและหมดสิทธิ์ช่วยทีมในเกมนี้ แต่ปราการหลังก็ยังมี รูเบน ดิอาส ที่พร้อมจะลงมาทำหน้าที่แทนแบบไม่เสียหายอะไร แถมความฟิตของ เออริ่ง ฮาร์แลนด์ น่าจะกลับมาได้แบบร้อยเปอร์เซ็น ฉะนั้นคงไม่มีอะไรมาขว้างกันสามแต้มนี้ได้แน่นอนทางฝั่งของอาร์เซน่อล เก็บสามแต้มสำคัญกับเกมใหญ่จากเชลซีได้ ไม่เพียงแค่รั้งจ่าฝูงเท่านั้นแต่ยังส่งผลถึงความมั่นใจของเหล่าปืนใหญ่ที่ตอนนี้ต้องใช้คำว่า ใครก็ได้ โดยเกมต่อไปจะต้องออกไปเยือนถิ่นหมาป่า วูล์ฟแฮมตัน ในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน หากย้อนไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วนี่คือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในช่วงเปิดฤดูกาล 2021-2022 ด้วยความเขี้ยวและเกมรับที่เหนียวแน่ เป็นการบากที่จะเก็บชัยจากทีมหมาป่า แต่ในฤดูกาลนี้หนังคนละม้วนเพราะผ่านไป 14 เกม เสียไป 22 ประตู รั้งอันกับ 19 หากย้อนสถิติเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มิเกล อาร์เตต้า เอาชะได้ทั้งไปและกลับ ดังนั้นเกมนี้ก็คงไม่พลาดสามแต้มเช่นเดิมเมื่อดูองค์รวมแล้วตำแหน่งจ่าฝูงก็ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลังจบเกมในสัปดาห์หน้า แต่สิ่งที่ปืนใหญ่จะต้องหาคือประตูได้เสีย ที่หากมองในระยะยาว จุดนี้ถือว่าสำคัญสำหรับการตัดสินแชมป์ เพราะตอนนี้แมนซิตี้ มีลูกได้เสียมากกว่า อาร์เซน่อล 7 ลูก นั่นหมายความว่าการยิงให้ได้แต่ละนัดและไม่เสียประตู เป็นสิ่งที่ดีต่อทีมปืนใหญ่ในระยาวด้วยเช่นกันตำแหน่งท็อปโฟร์กับสองทีมหากเหลียวมองคะแนนตอนนี้ในตำแหน่งการแย่งท็อปโฟร์คงไม่มีใครจะมาเบียดทั้ง นิวคาสเซิล และ ทอตนัมฮอตสเปอร์ได้ ถึงแม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจจะเก็บชัยได้ และคะแนนเท่ากับ สเปอร์ส แต่ลูกได้เสียก็ยังต่างกันพอสมควร ฉะนั้นไฮไลท์น่าจะอยู่ที่คู่ของ นิวคาสเซิล ที่จะต้องเปิดรังต้องรับ เชลซี ที่เพิ่งแพ้มาสองนัดติดต่อกัน หากเทียบฟอร์มช่วงหลังตอนนี้คงเทไปทางฝั่งสาลิกาดงที่กำลังคึกเต็มที่ โดยเฉพาะฟอร์มของ มิเกล อาร์มิลอน ที่ยิงไป 8 ประตู ซึ่งนี่คือการยิงประตูมากที่สุดตั้งแต่ฤดูกาล 2018-2019 นี่น่าจะเป็นคู่ไฮไลท์อีกคู่ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายนทางฝั่งของไก่เดือยทองที่แพ้ลิเวอร์พูลต้องเปิดบ้านรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้อุดมไปด้วยความมั่นใจหลังจากไล้เบียดเอาชนะ บอร์นมัท 4 – 3 ทั้งที่ตามอยู่ถึง 2 ประตู จากครึ่งแรก นี่เป็นเกมเดียวตั้งแต่เปิดฤดูกาลของเจ้านักยูงทองที่ยิงคู่แข่งได้มากที่สุด ณ สนามเอลแลนด์โรสแห่งนี้ และเป็นนัดที่สองที่ยิงคู่แข่งได้เกิน 2 ประตู โดยเกมแรกเอาชนะ เชลซี 3 – 0 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม จากการเอาชนะเกมล่าสุดทำให้ดีดตัวเองจากโซนแดงมาอยู่รั้งอันกับ 12 ของตารางและถึงแพ้เกมนี้ก็จะยังไม่อยู่ในสามอันกับสุดท้ายแน่นอน น่าจะคลายความกดดันได้พอสมควร แต่จะมาเก็บชัยที่สนามไก่เดือยทองก็ไม่ใช่งานง่าย เพราะตั้งแต่เปิดฤดูกาลนี้มาเพิ่งแพ้ในบ้านเพียงแค่เกม 2 เกมเท่านั้นเชื่อว่าหลังจากจบเกมในสัปดาห์หน้าอันดับที่ 3 และ 4 ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากสัปดาห์นี้แน่นอน เพราะนิวคาสเซิลน่าจะเก็บสามแต้มสำคัญได้ด้วยฟอร์มที่กำลังขาขึ้นและเต็มไปด้วยความมั่นใจแบบนี้ ทางฝั่ง สเปอร์ส ก็ไม่น่าจะแพ้สองเกมติดต่อกันเกมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกก่อนจะปิดตัวลงร่วมเดือนกว่า ๆ เพื่อเปิดทางให้กับฟุตบอลโลก จะเปิดฉากในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน ประเดิมคู่แรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ เบรนฟอร์ด ตั้งแต่เวลา 19. 30 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วนในวันอาทิตย์จะปิดม่านคู่สุดท้าย ระหว่าง ฟูแล่ม พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลา 23.30 น. ติดตามความมันส์ส่งท้ายที่ True Premier Football 1 เครดิตภาพปก twitter.com/chelseafc :: ภาพที่ 1 , twitter.com/mancity :: ภาพที่ 2 , twitter.com/nufc :: ภาพที่ 3 , twitter.com/arsenal :: ภาพที่ 4เครดิตภาพปก twitter.com/chelseafc :: ภาพที่ 1 , twitter.com/mancity :: ภาพที่ 1 , twitter.com/arsenal :: ภาพที่ 2 - 3 , twitter.com/nufc :: ภาพที่ 4 , twitter.com/SpursOfficial :: ภาพที่ 5 , twitter.com/chelseafc :: ภาพที่ 6 , premierleague.com/home :: ภาพที่ 7 Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์