ผมเชื่อว่าในทุกวงการย่อมมีชื่อเรียกเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในวงการนั้นๆ สำหรับวงการโลกลุกหนังก็มีเช่นกันกับ " คำศัพท์ดูฟุตบอล " ที่ถ้าหากใครไม่ใช้คอบอลตัวจริงจะไม่มีทางเข้าใจได้ โดยในบทความอ่านสบายประจำวันนี้ Taleman ได้รวบรวมสิบคำศัพท์ในวงการฟุตบอลที่คนดูฟุตบอลควรรับรู้เอาไว้เพื่อความมันส์ในเชียร์ทีมฟุตบอลที่เรารัก 1 : In his pocket : เก็บเข้ากระเป๋า วลีนี้ถือเป็นการจิกกัดที่เจ็บแสบไม้น้อยเลยทีเดียว โดยจะหมายถึงการที่นักฟุตบอลตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งสามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งโดยส่วนมากจะหมายถึงผู้เล่นตำแหน่ง " กองหลัง " ที่เล่นได้ดีจนแนวรุกของคู่แข่งไม่สามารถแผงฤทธิ์เดชได้เลยตลอดทั้งเกม เปรียบเสมือนการจับผู้เล่นแนวรุกโยนเข้ากระเป๋าจนหายไปไม่มีบทบาทใดๆ ต่อเกมเลย 2. The 12th man : ผู้เล่นรายที่ 12 วลีนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะพอเดาความหมายออก เพราะกติกาพื้นฐานฟุตบอลในสนามจะมีผู้เล่นทั้งหมด 11 คน ส่วนผู้เล่นรายที่ 12 ในที่นี้ก็จะหมายถึง " แฟนบอล " นั่นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งคำศัพท์ที่ผมชื่นชอบมากๆ เพราะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีแฟนบอลคอยเชียร์ที่จะมีส่วนทำให้ทีมเจ้าบ้านได้เปรียบคู่แข่งมากพอสมควร 3. Lost the dressing room : สูญเสียห้องแต่งตัว วลีนี้พุ่งเป้าไปที่ตัว " ผู้จัดการทีม " ที่ส่วนมากจะกำลังอยู่ในสถานการณ์เก้าอี้ร้อนสุ่มเสี่ยงจะโดนปลด หรือสถานการณ์โดยรวมของทีมกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแย่ติดกัน ทั้งเรื่องในสนาม ผลการแข่งขัน และความเคารพเชื่อมั่นของลูกทีมที่หมดใจกับผู้จัดการทีมนั่นเอง ส่งผลให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวนั่นเลวร้ายจัดผู้จัดการทีมไม่สามารถกู้คืนได้อีก ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือการ " โดนปลด" หรือ " ลาออก " 4. Mickey Mouse cup : ถ้วยมิกกี้เม้าส์ สำหรับผมวลีนี้ชื่อน่ารักที่สุดแล้ว ซึ่งความหมายของมันจะกล่าวถึงรายการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ดูไม่ค่อยสำคัญ เพราะมีรายการอื่นที่น่าดึงดูดมากกว่าจนทำให้ผู้จัดการทีมเลือกส่งผู้เล่นสำรองลงไปแข่งเพราะไม่ต้องการให้ตัวหลักเหนื่อยเกินไป โดยตัวอย่างที่คอบอลบ้านเราเห็นชัดเจนที่สุดคือประเทศอังกฤษที่มีฟุตบอลถ้วยมากถึง 2 รายการ ซึ่งถ้าให้พูดกันตามตรง " คาราบาวคัพ " คือรายการที่ชื่อชั้นเล็กที่สุดเป็นรองทั้ง " พรีเมียร์ลีก " และ " เอฟเอคัพ " ทั้งเกียรติยศและเงินรางวัลที่ไม่ดึงดูดมากเท่าสองรายการข้างต้น 5. Professional foul : ฟาวล์แบบมืออาชีพ เป็นวลีในหมวดของการลงโทษในสนามระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะหมายถึงการทำฟาวล์ในรูปแบบของ " การตัดเกม " ในจังหวะสำคัญที่ถ้าหากไม่ตัดฟาวล์มีโอกาสเสียประตูสูงมากๆ ตัวอย่างเช่นการหลุดเดี่ยวของแนวรุกคู่แข่งที่ทำให้กองหลังตัวสุดท้ายไม่มีทางเลือกต้องตัดเกมให้บอลตายแบบฉับพลัน หรือในจังหวะสวนกลับที่คู่แข่งมีโอกาสหลุดเข้าไปในเขตอันตรายสูง โดยบทลงโทษส่วนมากจะร้ายแรงจนถึงขั้นโดน " ใบแดง " เลยทีเดียวเพราะเป็นการจงใจทำฟาวล์แบบชัดเจน 6. Parking the bus : จอดรบบัส อีกหนึ่งวลียอดฮิตที่เห็นได้บ่อยในโลกโซเชียล โดยจะหมายถึงรูปแบบการเล่นของผู้จัดการทีมที่ต้องการจะเน้น " เกมรับ " แบบเต็มอัตราศึกโดยไม่เน้นเล่นเกมรุกแบบสิ้นเปลือก เรียกง่ายๆ ว่าเล่นเน้นผลการแข่งขันให้เสียประตูยากเอาไว้ก่อน โดยชายคนแรกที่นิยามวลีนี้คือ " โชเซ มูรินโย " ตอนสมัยคุมเชลซีภาคแรกออกมาวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของคู่แข่งที่เน้นรับว่าเหมือน " เอารถบัสมาจอดขวางประตู " ซึ่งในภายหลังเป็นสไตล์ที่ผู้คนมักจะเรียกแผนของน้าแกเสียเอง 7. Wardrobe : ตู้เสื้อผ้า เป็นอีกหนึ่งวลีที่มีความหมายคล้ายๆ กับ " In his pocket " ซึ่งจะหมายถึงการที่ผู้เล่นใน " แนวรับ " สามารถจับตายแนวรุกของคู่แข่งจนไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ เปรียบเสมือนการเก็บโอกาสทองของศัตรูเข้าใส่ตู้เสื้อผ้านั่นเอง 8. Put it on a plate : ตักใส่จาน ให้ลองนึกถึงสถานการณ์ว่ามีคนตักอาหารมาใส่จานให้เรา โดยที่เราสามารถกินได้เลยโดยไม่ต้องลำบากตักเอง ในโลกฟุตบอลก็จะหมายถึงผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมให้เพื่อนสามารถยิงประตูได้แบบสบายๆ จนชนิดที่ว่า " ยิงยังไงก็เข้า " โดยคำนี้ผมมองว่าคนไทยมักจะคุ้นเคยกับคำว่า " ถวายพาน " ซึ่งก็มีความหมายเดียวกัน 9. Second season syndrome : โรคซินโดรมปีที่สอง วลีนี้สามารถใช้ได้กับสโมสรและตัวนักฟุตบอล โดนส่วนมากจะหมายถึงอาการ " ฟอร์มร้อนแรง " จนเกินความคาดหมายในการลงเล่นในฤดูกาลแรกแต่พอฤดูกาลถัดมาฟอร์มเก่งก็หายไปจนไม่มีทรงเดิมเหลืออยู่นั่นเอง ส่วนมากจะหมายถึงบรรดา " ทีมน้องใหม่ " ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบนลีกสุงสุดแล้วโชว์ฟอร์มดีในปีแรก เหตุผลมาจากการคู่แข่งยังจับทางไม่ได้หรือติดประมาท แต่พอฤดูกาลต่อมาก็หนีตกชั้นจนถึงขั้นที่บางทีมเอาตัวไม่รอดก็มีมาแล้ว 10. Yo yo club : ชมรมโยโย่ วลีนี้มีความหายใกล้เคียงกับ " Second season syndrome " แต่จะหมายถึงสโมสรที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้ แต่ก็ไม่ดีพอจะอยู่ได้ตลอดรอดฝั่งจนต้องตกชั้นกลับไปบ้านเก่าอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างของทีมที่แฟนบอลบ้านเรารู้จักกันดีคือ " นอริช ซิตี้ " ที่เลื่อนชั้นตกชั้นเป็นประจำในช่วง 10 ปีหลังจนแฟนบอลรู้สึกชินชาไปแล้ว เปรียบเสมือนการเด้งไปมาขึ้นลงเหมือนกับ " โยโย่ " 11. EL Sackico : เอล ซาคิโก วลีนี้หากอ่านผ่านๆ จะให้อารมณ์คล้ายกับคำว่า " เอล กลาซิโก้ " ซึ่งเป็นชื่อเรียกของมหาศึกระหว่าง " บาร์เซโลนา VS เรอัล มาดริด " แต่ดัดแปลงให้กลายเป็นคำที่มีความหมายแฝงสื่อถึง " การโดนไล่ออก (Sack) " และล้อเลียนเรียกชื่อให้ดูมีระดับไปอีกขั้น โดยวลีนี้จะถูกนำมาใช้ในกรณีที่เกิดการพบกันของสองทีมที่กุนซือเก้าอี้ร้อนเตรียมโดนปลดพอๆ กัน โดยตัวอย่างล่าสุดที่เห็นได้ชัดคือ " เสปอร์ vs แมนยู " ที่ในท้ายที่สุดทีมผู้แพ้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ ส่วนฝ่ายผู้ชนะก็ได้รับโอกาสสู้ต่อไปก่อน เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 11 คำศัพท์ดูฟุตบอลที่ควรรู้เอาไว้ ผมเชื่อว่าสำหรับคุณผู้อ่านบางคนที่เป็นแฟนบอลตัวยงจะต้องเคยเห็นหรือเคยได้ยินผ่านตาผ่านหูกันมาบ้างอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนอาจจะยังไม่รู้ที่ไหนมาก่อน หลังจากอ่านบทความนี้จบเชื่อว่าจะสามารถนำความรู้ที่พวกเรา Taleman รวบรวมไปนั่งพูดคุยเสริมในวงหมู่เพื่อนระว่างเชียร์ทีมรักได้ก็คงจะเพิ่มความเมามันส์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว *** บทความน่าสนใจจาก Taleman 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้หงส์แดง " Liverpool " พลาดแชมป์ฤดูกาล 2021-2022 ส่องความโหด "โมฮาเหม็ด ซาลาห์ " เทพเจ้าลูกหนังแห่งอียิปต์ ความหวังของทัพลิเวอร์พูล ** Ref Picture แหล่งภาพอ้างอิง รูปภาพหน้าปก จาก Premier League รูปภาพประกอบที่ 1 , 2 , 3 , 4 , 5 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !