เกมการแข่งขันระหว่างทีมชาติไทยและมาเลเซีย ในศึกถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งที่ 48 จัดขึ้นที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ผลการแข่งขันทีมชาติไทยเสมอทีมชาติ มาเลเซีย 1-1 แพ้การดวลจุดโทษตัดสิน ด้วยสกอร์ 3-5 ประตู มาเลเซียผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศถ้วยพระราชทานคิงส์คัพกับประเทศ ทาจิกิสถาน ที่เอาชนะทีมชาติ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก โดยจะแข่งขันพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 โดยเริ่มการแข่งขันในการชิงอันดับที่สาม เวลา 17.30 น. เกมการแข่งขันกับทีมชาติมาเลเซีย ภายใต้การนำทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง ผู้จัดการทีมทีมชาติไทยชาวบราซิลเรียกตัวผู้เล่นชุดใหญ่และดาวดังเข้าทีม ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ธีราทร บุญมาทัน สุภโชค สารชาติ เข้าแคมป์เก็บตัวในครั้งนี้โดยหมายมั่นจะคว้าแชมป์ให้ได้ สถานเดียวเท่านั้นในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ มาที่เรื่องนอกสนามด้วยการแข่งขันที่จัดขึ้นในต่างจังหวัดอย่างเชียงใหม่ที่ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร ทำให้ปลุกกระแสแฟนบอลอย่างคับคั่งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้รับความสนใจอย่างมาก ดูได้จากการลงทะเบียนจองตั๋วการแข่งขันเพื่อเข้าชมเกมส์การแข่งที่ส่งผลให้ เว็ปไซต์เกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค จนวันแข่งขันจึงมีแฟนบอลจำนวนมากมาต่อแถวเข้าคิว เพื่อซื้อบัตรเข้าชมเกมส์ตั้งแต่เช้า ซึ่งตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ก่อนเริ่มเกมบรรยากาศรอบสนาม อบอวลไปด้วยกองเชียร์ แก่นนำเชียร์ทีมชาติ ต่างทดสอบพลังเสียงก่อนเข้าไปให้กำลังใจทัพนักเตะทีมชาติไทยในช่วงเวลา 20.30 ที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อเกมส์เริ่มครึ่งเวลาแรก กับเป็นฝั่งผู้มาเยือนครองเกมและพยายามบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอยู่เป็นระยะ และมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 32 จาก คอร์บิน อ็อก ผู้เล่นหลายเลขที่ 22 ทำให้บรรยากาศในสนามเงียบไประยะชั่วขณะหนึ่งและจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ตามหลังฝั่งผู้มาเยือนอย่าง มาเลเซีย ช่วงครึ่งเวลาหลัง กุนซือช้างศึกปรับเปลี่ยนแท็คติกและครองเกมบุกอย่างรวดเร็ว พยายามเข้าทำเพื่อทำประตูตีเสมอให้จงได้ แม้จะมีช็อตที่แฟนๆได้เฮเก้อไป จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ ศุภณัฐ เหมือนตา ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งเวลาหลัง ยิงไปติดผู้รักษาประตูของมาเลเซียอย่างน่าเสียดาย แฟนๆในสนามยังตะโกนเชียร์อย่างสุดกำลังตลอดครึ่งเวลาหลัง และถึงเวลาที่สนามสมโภชเชียงใหม่700 ปี ต้องดังกระหึ่มอีกครั้งจากประตูตีเสมอของ พรรษา เหมวิบูลย์ พาทีมชาติไทยเข้าสู่การดวลจุดโทษตัดสินเพื่อลุ้นเข้าชิงอีกครั้ง แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าทีมชาติไทยแพ้ในการดวลจุดโทษต่อมาเลเซียและต้องไปชิงอันดับที่สามแทน สร้างความผิดหวังให้กับคนไทยทั้งประเทศ และตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างทั้งในโลกโซเชียลมีเดีย และนักวิเคราะห์ คนในวงการฟุตบอลไทยอย่างเผ็ดร้อน และกระแสข่าว แฟนบอลเริ่มทยอยนำตั๋วการแข่งขันมาเปิดขายและบางส่วนไม่ต้องการเข้าชมเกมในนัดชิงที่สามในวันที่ 25 กันยายน นี้ การไม่ประสบความสำเร็จทุกชุดของทีมชาติไทย รวมถึงแผนงานของทีมผู้บริหารบอลไทย ถือว่าสอบตกทุกกระบวนความ ทำให้มีการหยิบยกประเด็นวาทะในการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร มาถกเถียงกันในวงกว้าง เพราะหากไม่เร่งแก้ไขใดๆ ยังดื้อดึงหรือยึดติดกับอะไรบางอย่าง นอกจากแฟนบอลไทยจะเจ็บปวดแล้ว คำกล่าวที่ว่า ทีมชาติไทยจะไปโลดแล่นในฟุตบอลโลก คงเป็นได้เพียงแค่ความฝันหรือไม่ก็แค่ในโลกเสมือนจริงอย่างวิดิโอเกมส์เท่านั้น อ้างอิงภาพประกอบTwitter/ Changsuek / ภาพปก , ภาพที่ 1 , 2 , 5 , 6 , 7 , 8 ภาพโดยผู้เขียน ภาพที่ 3 , 4Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์