ชอบทีมไหนกันบ้าง : เปิดแคทวอล์กชุดแข่ง ยูโร 2020 | Main Stand
ยูโร 2020 เปิดฉากการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อย นั่นหมายความว่า ชุดแข่งของทั้ง 24 ชาติในรอบสุดท้าย ปรากฏโฉมให้เห็นในการแข่งขันจริงแล้วเช่นกัน
แน่นอนว่า แต่ละชาติ ล้วนมีดีไซน์ เบื้องหลังในการทำชุดแข่งตามแบบฉบับของตัวเอง (บวกกับสปอนเซอร์ผู้ผลิต) และนั่นทำให้อาภรณ์ออกรบของทั้ง 24 ชาติ มีความแตกต่างกันไป
ชุดแข่งของแต่ละชาติเป็นอย่างไร ? Main Stand รวบรวมมาให้ดูแล้ว
ส่วนถ้าอยากหาซื้อไปใส่นั้น สนใจเข้าไปดูได้ในช็อปของผู้ผลิตแต่ละเจ้า อย่าง adidas, Nike หรือจะเป็นร้านขายสินค้ากีฬา ทั้งแบบทั่วไปอย่าง Supersports หรือสินค้าฟุตบอลโดยเฉพาะอย่าง Ari Football Concept Store ก็ได้ แต่บางชาตินั้น ก็อาจต้องสั่งจากเมืองนอก แล้วลุ้นกับภาษีเอาว่าจะเจ็บหนักขนาดไหน
กลุ่ม A
ตุรกี
ดูเหมือน Nike จะเล่นง่ายกับการดีไซน์ชุดแข่งทีมไก่งวง เพราะชุดแข่งของตุรกีทั้งเหย้าและเยือน เรียกได้ว่าเกือบจะเหมือนกันเป๊ะ ต่างกันเพียง ชุดเหย้าสีขาว ขุดเยือนสีแดง เท่านั้นเอง
อิตาลี
ขึ้นชื่อว่าดินแดนแฟชั่น แน่นอนว่าชุดเหย้าของพวกเขาย่อมไม่ธรรมดากับลวดลายบนผ้า ส่วนชุดเยือน แม้ทาง Puma จะใช้ดีไซน์ร่วมกันกับหลายชาติ แต่ด้วยความที่เป็นอิตาลี เลยทำให้ดูดีเป็นพิเศษกว่าชาติอื่น ๆ
เวลส์
adidas ดีไซน์ชุดเหย้าของเวลส์ให้ออกมามีกลิ่นอายย้อนยุค ขับตรามังกรแดงให้โดดเด่น ส่วนชุดเยือน เน้นลวดลายบนผ้า ซึ่งดูแล้วก็ดูดีไม่น้อย
สวิตเซอร์แลนด์
ชุดเหย้าของสวิตเซอร์แลนด์นั้น ดูเท่ไม่หยอกกับการเล่นเส้นสาย แต่สำหรับชุดเยือน ดีไซน์ร่วมจาก Puma อาจจะทำให้ชุดดูเรียบไปสักหน่อย
กลุ่ม B
เดนมาร์ก
เนื่องด้วย Hummel คือบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาสัญชาติเดนมาร์ก (แม้ต้นกำเนิดจะมาจากเยอรมนีก็ตาม) ชุดของ เดนิช ไดนาไมต์ จึงโดดเด่น แฝงกิมมิคด้วย "คลื่นเสียงจากแฟนบอล"
ฟินแลนด์
เข้ารอบสุดท้ายรายการเมเจอร์เป็นครั้งแรกทั้งที Nike เลยจัดชุดแข่งให้ฟินแลนด์แบบเท่ ๆ ทั้งชุดเหย้าที่อิงดีไซน์จากธงชาติ ส่วนชุดเยือน อาจจะเรียบง่าย แต่ด้วยสีกรมท่า ก็ดูดีเลยทีเดียว
เบลเยียม
adidas จัดเส้นสายลายผ้าให้ชุดแข่งของเบลเยียมอย่างโดดเด่นและแตกต่างทั้งชุดเหย้าและชุดเยือน พร้อมกับเปิดตัวตราสมาคมฟุตบอลเบลเยียมใหม่ ที่ถูกใช้ในทัวร์นาเมนต์นี้เป็นครั้งแรก
รัสเซีย
ยังคงเน้นที่ลายผ้าเช่นเดิมสำหรับ adidas กับทีมชาติรัสเซียในชุดเหย้า ส่วนชุดเยือน แม้จะเรียบ ๆ แต่ก็อิงมาจากธงชาติ ที่เห็นแล้วต้องจำได้ และชวนให้นึกถึงชุดแข่งตอน ยูโร 2008 อยู่เหมือนกัน
กลุ่ม C
เนเธอร์แลนด์
มาอย่างเท่สำหรับชุดเหย้าของเนเธอร์แลนด์ ที่ Nike ใส่ลายเส้นบนเนื้อผ้าสีส้มแสบตาที่ชวนให้เห็นเป็นหน้าสิงโต สัญลักษณ์ของทีมชาติ กำลังคำราม ส่วนชุดเยือน มาแบบเรียบ ๆ ดุ ๆ ด้วยสีดำ
ยูเครน
แม้จะดูเล่นง่าย เพราะทั้งชุดเหย้าและเยือนมีดีไซน์เหมือนกัน ต่างแค่สี แต่นี่แหละ หนึ่งในชุดแข่งที่อื้อฉาวที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้ เมื่อ Joma ทำลายผ้าเป็นแผนที่ประเทศยูเครน ที่ผนวกแคว้นไครเมีย พื้นที่พิพาทกับรัสเซียในตอนนี้ไว้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ถูกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า สั่งแก้ไข ถึงกระนั้น สิ่งที่ต้องแก้ไม่ใช่เรื่องแผนที่ แต่เป็นสโลแกนบนชุดที่แฝงความหมายทางการเมือง
ออสเตรีย
ชุดเหย้าสีแดงแขนขาวของออสเตรีย มากับลายบนเนื้อผ้าที่สะท้อนตัวตนของประเทศ ส่วนชุดเยือน แม้จะติดกับดักดีไซน์ร่วมของ Puma แต่ด้วยสีดำดุ และตราสหพันธ์ฟุตบอลที่ปั๊มเป็นลายในตัวเสื้อ ก็ทำให้แตกต่างและโดดเด่นขึ้นมาได้
มาซิโดเนียเหนือ
อันที่จริง Jako ผู้ผลิตชุดแข่งให้กับมาซิโดเนียเหนือ ได้ดีไซน์ชุดแข่งใหม่ให้กับพวกเขา ที่ลงสนามทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกไว้ ด้วยลายผ้าที่มีรูปสิงโต ฉายาของทีมชาติ แต่แฟน ๆ กลับต่อต้านอย่างหนัก เพราะสีแดงบนชุดเหย้านั้น "ไม่สด" จนพวกเขาต้องหยิบเอาชุดเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2016 กลับมาใช้ต่อ โดยถึงจะดีไซน์เดียวกันแค่ต่างสี แต่ลายบนชุดที่อิงจากธงชาติ ก็ทำให้แฟนบอลจำได้แต่ไกลเลยทีเดียว
กลุ่ม D
อังกฤษ
Nike ดีไซน์ชุดเหย้าของอังกฤษ ด้วยการนำโลโก้ของพวกเขาและทีมสิงโตคำรามไว้ตรงกลาง ชวนให้นึกถึงชุดแข่งในศึก ยูโร 1996 และ ฟุตบอลโลก 1998 ส่วนชุดเยือน มาพร้อมกับสีน้ำเงิน สีที่พวกเขาใช้ไม่บ่อยนัก
โครเอเชีย
ในเมื่อ "ตราหมากรุก" คือเอกลักษณ์ของทีมชาติโครเอเชีย Nike จึงยังคงยึดถือดีไซน์ที่คุ้นตานี้ไว้เช่นเดิม ขณะที่ชุดเยือน ดูเหมือนการปรับสีชุดแข่งให้เข้มขึ้นจากตอน ฟุตบอลโลก 2018 จะมีกระแสตอบรับที่ดี ยูโร 2020 ครั้งนี้ ชุดเยือนเลยเปลี่ยนจากสีน้ำเงินที่คุ้นเคยในอดีตเป็นสีดำ
สกอตแลนด์
ชุดเหย้าของสกอตแลนด์ที่ดีไซน์โดย adidas ยังเน้นสีกรมท่าตามเอกลักษณ์ของชาติเช่นเคย สร้างความแตกต่างด้วยลายบนเนื้อผ้า ส่วนชุดเยือน ใช้สีฟ้าอ่อน เล่นลวดลายบนเนื้อผ้าเช่นกัน
สาธารณรัฐเช็ก
ชุดเหย้าของสาธารณรัฐเช็ก ถึงจะเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยสีแดงเหมือนเช่นเคย แต่สำหรับชุดเยือน ดีไซน์ร่วมของ Puma ดูจะทำให้ชุดแข่งเรียบเกินไปอยู่เหมือนกัน
กลุ่ม E
สเปน
adidas เล่นเส้นสายอย่างเต็มที่กับชุดแข่งของสเปน ชุดเหย้า เน้นดีไซน์ที่ไม่สมมาตร ส่วนชุดเยือน ก็มีลายผ้าที่แตกต่าง ดูแล้วชวนให้จำง่าย และนี่จะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายที่พวกเขาใช้ตราทีมชาติแบบเก่า ก่อนใช้งานตราทีมชาติแบบใหม่สไตล์มินิมอลในฟุตบอลโลก 2022
สวีเดน
ดูแล้วชวนให้นึกถึงเสื้อทีมชาติที่เคยใช้ในอดีตอยู่เหมือนกัน สำหรับสวีเดน เมื่อ adidas ใช้สิ่งนี้มาเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุดแข่งของทัพไวกิ้งทั้งเหย้าและเยือน
โปแลนด์
เป็นอีกทีมที่ Nike ดูจะเล่นง่ายในการดีไซน์ชุด เพราะสิ่งที่แยกความแตกต่างของชุดแข่งโปแลนด์ได้ง่ายที่สุด คือชุดเหย้า สีขาว คอปก ชุดเยือน สีแดง คอกลม นอกนั้นก็แทบจะยกมาใช้เหมือน ๆ กันหมดเลย
สโลวาเกีย
คราวนี้ Nike เน้นความโดดเด่นให้ชุดเหย้าสีน้ำเงินของสโลวาเกียด้วยลายบนเนื้อผ้าที่ชวนให้จดจำ ตรงข้ามกับชุดเยือนสีขาว ที่มาแบบเรียบ ๆ
กลุ่ม F
ฮังการี
ชุดเหย้าสีแดง ชุดเยือนสีขาว ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ adidas ยึดถือในการดีไซน์ชุดแข่งของฮังการีเช่นเดิม โดยองค์ประกอบสีธงชาตินั้นก็ยังมีอยู่ครบ แม้จะดูแล้วจำง่าย แต่อาจต้องเพ่งนานหน่อยเพื่อหาความแตกต่างจากชุดก่อน ๆ
โปรตุเกส
แม้ชุดเหย้าของโปรตุเกสจะดูเรียบง่าย แต่ Nike ก็ดีไซน์ได้โดดเด่นสมกับเป็นแชมป์เก่าด้วยคอปก ส่วนทีมเยือน ก็เน้นลายทางยาวสลับสี โดดเด่นไม่แพ้กัน
ฝรั่งเศส
ด้วยความเป็นดินแดนแห่งแฟชั่น Nike จึงมักจัดเต็มกับชุดแข่งของฝรั่งเศสเสมอ ยูโร 2020 ก็เช่นกัน ชุดเหย้า ลวดลายบนผ้าทำให้ชวนนึกถึงชุดแข่งใน ฟุตบอลโลก 1998 ที่ทัพตราไก่คว้าแชมป์ แต่ชุดเยือนสีขาว อาจจะดูเรียบไปเสียหน่อย
เยอรมนี
ด้วยความผูกพันกันทั้งความเป็นแบรนด์สัญชาติเดียวกัน และผ่านอะไรร่วมกันมานานทั้งที adidas จึงจัดเต็มให้กับเยอรมนีเช่นเคย ชุดเหย้าครั้งนี้มาในรูปลักษณ์ที่แปลกตา กับเส้นทางยาวที่พาดผ่านเป็นระยะ ๆ ตลอดตัวเสื้อ ส่วนชุดเยือน พวกเขานำสีดำกลับมาใช้อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก
