เกมอุ่นเครื่องแดงเดือดครั้งแรกที่ประเทศไทยระหว่าง แมนยู VS ลิเวอร์พูล จบลงไปด้วยสกอร์ที่ช็อคแฟนบอลเล็กน้อย 4-0 แม้ว่าสกอร์ดูแล้วลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายแพ้ขาดลอยแต่รายละเอียดในเกมกับไม่เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว ทั้งสองทีมยังคงสู้กันได้อย่างสนุกแต่ในจังหวะสุดท้ายก็ต้องยกให้แมนยูที่ทำได้ดีกว่า ส่วนลิเวอร์พูลนั้นนับว่าเป็นการลงอุ่นเครื่องเกมแรกที่ใช้นักเตะแทบทุกคนที่ติดทีมมาได้ลงสนาม ส่วนรายละเอียดในเกมจะเป็นยังไงบ้างนั้น วันนี้เราได้รวบรวม 5 สิ่งที่มองเห็นของลิเวอร์พูล หลังเกมนี้ลองมาติดตามกันได้เลยครับ1. การจัดนักเตะลงเล่นวันนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะให้นักเตะทุกคนได้ลงเล่นสัมผัสเกมในเวลาเท่าๆกันเราจึงได้เห็นลิเวอร์พูลแบ่งทีมออกเป็น 3 ชุด ลงเล่นชุดละประมาณ 30 นาที ชุดแรกใช้นักเตะตัวสำรองเป็นหลักผสมกับดาวรุ่งโดยมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, หลุยส์ ดิอาท และโรแบร์โต เฟอร์มิโน่ คอยประคองทีม หลังผ่านไป 32 นาทีนักเตะชุดที่สองก็ถูกเปลี่ยนลงสนามกันทั้งทีมเหลือไว้เพียง อลิสซอน เบ็คเกอร์ คนเดียวเท่านั้น โดยชุดนี้เป็นโอกาสของดาวรุ่งลงเล่นซะส่วนใหญ่มีเพียง โจเอล มาติป, คอสตาส ซิมิกาส และเจมส์ มิลเนอร์ มาประคองน้องๆเช่นเดิม จนในช่วง 30 นาทีสุดท้ายของเกมนักเตะตัวจริงชุดใหญ่จึงได้ถูกเปลี่ยนลงสนามมากันอย่างครบครัน มีเพียงผู้รักษาประตูที่ใช้ อาเดรียน และโทมัส ฮิลล์ เป็นดาวรุ่งคนเดียวที่ได้ลงเช่นกับชุดใหญ่นี้2. รูปแบบการเล่นลิเวอร์พูลยังคงเล่นด้วยรูปแบบเดิมวิ่งไล่บีบเพรสซิ่งในแดนกลาง แต่ด้วยการจัดทัมชุดผสมทั้งตัวสำรองและดาวรุ่งทำให้ความแม่นยำในการต่อบอลลดลงไปค่อนข้างมาก ประกอบกับแนวรับมีความผิดพลาดส่วนตัวอยู่บ่อยครั้งมากเกินไปจนนำไปสู่การเสียประตูทั้ง 3 ลูกในครึ่งแรก แดนกลางเองก็ไม่สามารถเก็บบอลเอาไว้กับทีมได้ทำให้เกมรุกคู่ต่อสู้ทะลุถึงกองหลังได้บ่อยครั้งแบ็คสองข้างที่เป็นดาวรุ่งก็ไม่สามารถเติมเกมรุกให้กับทีมได้เลย จนในครึ่งหลังรูปเกมค่อยดีขึ้นมาสามารถครองบอลทำเกมรุกเข้าใส่คู่แข่งได้มากขึ้นกว่าเดิมแต่ในจังหวะสุดท้ายก็ยังไม่เด็ดขาดกันเอง สุดท้ายก็มาโดนตัดบอลและสวนกลับจนเสียประตูที่ 4 จนได้3. โอกาสของดาวรุ่งเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เน้นให้โอกาสดาวรุ่งที่ติดทีมมาได้ลงสนามโชว์ผลงานกันอย่างเต็มที่ โดยเราจะเห็นได้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวเพื่อแก้เกมเลยซักครั้งเดียว นักเตะดาวรุ่งหลายคนแม้ว่าจะดูตื่นสนามและก่อความผิดพลาดจนทีมเสียประตูแต่ทุกคนก็ได้รับโอกาสโชว์ผลงานลงเล่นประมาณ 30 กว่านาทีกันทุกคน เกมนี้จึงถือว่าเป็นของขวัญสำคัญสำหรับดาวรุ่งในทีมอย่างแท้จริง4. นักเตะฟอร์มดีของทีมครึ่งแรก หลุยส์ ดิอาท ดูจะเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในทีม แม้ว่าจะยังดูไม่ฟิตมากนักแต่ก็สามารถใช้ความเร็วความคล่องตัวเข้าโจมตีคู่แข่งจนหลุดเข้าไปยิง 2-3 ครั้งแม้ว่าจะไม่เป็นประตูแต่ก็ดูอันตรายไม่น้อยเลย ส่วน ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ก็ดูมีจังหวะการเล่นที่น่าสนใจมากเหมือนกันครึ่งหลัง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดูจะเป็นคนที่ทำได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานของตัวเองมากที่สุด เมื่อลงมาแล้วสามารถช่วยสร้างเกมรุกทางฝั่งขวาให้กับทีมได้หวาดเสียวหลายครั้ง การเปิดบอลเข้าพื้นที่อันตรายยังคงทำได้ดีแต่อาจยังขาดความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมไปบ้างทำให้จังหวะยังไม่ค่อยพอดีกันเท่าที่ควร5. นักเตะใหม่ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ผลงานโดยรวมช่วง 30 นาทีนั้นอาจจะยังไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่ก็มีจังหวะการเล่นที่น่าสนใจมีเทคนิคดีเอาตัวรอดได้ จ่ายบอลฉลาดแม่นยำสามารถเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นเกมรุกให้กับทีมได้ทันที ส่วนการช่วยบีบพื้นที่แย่งบอลยังต้องพัฒนาความเข้าใจกับเพื่อนให้มากขึ้นดาร์วิน นูเญซ ได้ลงเล่นกับชุดตัวจริงในช่วง 30 นาทีสุดท้าย ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเป็นกองหน้าตัวเป้าที่ทีมขาดมานาน นูเญซจะคอยยืนปักหลักแดนหน้าและอาศัยชิงจังหวะกับกองหลังเพื่อวิ่งไปเอาบอล ซึ่งในเกมนี้ก็ทำได้ดีหลายครั้งแต่ความเข้าใจกับเพื่อยังไม่มากพอจังหวะสุดท้ายเลยไม่แม่นยำนัก แต่ก็ได้มีโอกาสง้างท้าวยิงไป 2 ครั้ง ครั้งแรกหลุดไปทางขวาแม้ว่ามุมจะแคบมากๆแต่ก็ยิงบังคับลูกบอลเข้ากรอบให้ประตูต้องปัดออกมาได้ ส่วนจังหวะที่สองเป็นการซ้ำโล่งๆหน้าประตูแต่กองหลังสไลด์เข้ามาเร็วทำให้ยิงไม่เต็มที่บอลจึงหลุดออกไปอย่างน่าเสียดายเครดิตภาพภาพปก Liverpoolภาพ1 Liverpoolภาพ2 Liverpoolภาพ3 Liverpoolภาพ4 Liverpoolภาพ5 Liverpool*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/9aryirprอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 - วันที่ 22 มิถุนายน 2565