เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปีก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้น จะมีเกมชิงโล่การกุศลศึกคอมมูนิตี้ชิลด์ ให้แฟนบอลได้เริ่มอุ่นเครื่องกันก่อน ซึ่งในปีนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (แชมป์พรีเมียร์ลีก) vs อาร์เซนอล (รองแชมป์พรีเมียร์ลีก) ถือว่าเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลอย่างจริงจังของทั้งสองทีม ก่อนที่จะต้องไปห้ำหั่นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกันอีกครั้ง วันนี้เราจึงจะพามาดูความพร้อมของทั้งคู่ เปรียเทียบ 5 ตำแหน่งสำคัญของทีม ก่อนลงเล่นศึกคอมมูนิตี้ชิลด์ ใครจะดีกว่ากัน ? มาดูกันเลยผู้รักษาประตูอาร์เซนอล > อารอน แรมส์เดล เป็นตัวหลักของ มิเกล อาร์เตต้า นับตั้งแต่ย้ายมาร่่วมทีม จัดว่าเป็นผู้รักษาประตูที่มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด จุดเด่นคือการป้องกันประตูที่เหนียวหนึบ มีจังหวะเซฟลูกยากๆช่วยทีมได้บ่อย รวมทั้งมีแพชชั่นกับเกมสูงมาก ส่วนจุดด้อยคงเป็นการออกบอลด้วยเท้า ยังไม่แม่นยำเท่าที่ควร มีจังหวะให้ต้องลุ้นบ่อยๆ หรือบางครั้งก็ผิดพลาดนำไปสู่การเสียประตูง่ายๆแมนซิตี้ > เอแดร์สัน เป็นปราการด่านสุดท้ายให้ทีมเรือใบมาแล้ว 7 ฤดูกาลเต็ม นับว่าเป็นผู้รักษาประตูคนแรกๆที่นำการเล่นบอลด้วยเท้ามาสู่พรีเมียร์ลีก สามารถต่อบอลช่วยแก้เพรสซิ่งได้อย่างชำนาญ มีความเร็วว่องวัย อ่านจังหวะออกมาตัดบอลนอกกรอบได้ดีมาก กลายเป็นเสมือนกองหลังตัวสุดท้ายเวลาทีมขึ้นเกมรุก ส่วนข้อด้อยคือไม่ค่อยมีจังหวะเซฟมหัศจรรย์ให้เห็น รวมถึงการดวลกับกองหน้าแบบตัวต่อตัว มักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบกองกลางตัวรับอาร์เซนอล > โธมัส ปาร์เตย์ แม้ว่าจะได้ตัว ดีแคลน ไรซ์ มาร่วมทีมแต่เชื่อว่าช่วงแรกของฤดูกาล โธมัส ปาร์เตย์ จะยังคงได้รับโอกาสก่อนถ้าร่างกายสมบูรณ์ เนื่องจากอยู่กับทีมมานานรู้จักระบบวิธีการเล่นดีกว่า จุดเด่นคือการอ่านเกมที่เฉียบขาด เข้าสกัดบอลดุดัน ตัดบอลแม่นยำ จ่ายบอลดีสามารถเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ ส่วนจุดที่ต้องระวังคือสภาพร่างกาย เพราะถ้าเกมไหนที่ความฟิตไม่เต็มที่ ฟอร์มการเล่นก็จะตกลงอย่างเห็นได้ชัด แมนซิตี้ > โรดริโก้ เฮอร์นานเดซ หรือเรียกสั้นๆว่า โรดรี้ ปัจจุบันถือว่าเป็นกลางรับเบอร์ต้นๆของโลก ทำให้แดนกลางของทีมเรือใบยังคงแข็งแกร่ง จุดเด่นคือออกบอลง่ายแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ช่วยให้การขึ้นเกมจากกลางสนามลื่นไหล ไม่มีสะดุด สามารถเอาบอลกลับมาทำเกมรุกได้รวดเร็ว นอกจากจะทำหน้าที่ปัดกวาดแดนกลางแล้ว ยังมีทีเด็ดจากลูกยิงไกลสวยๆให้เห็นกันประจำ รวมทั้งวางบอลยาวอย่างแม่นยำ ให้เพื่อนหลุดเข้าไปทำประตูได้อีกด้วยมิดฟิลด์ตัวปั้นเกมอาร์เซนอล > มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมปืนใหญ่ยุคใหม่ อดีตวันเดอร์คิดของโลกฟุตบอล ปัจจุบันในวัย 24 ปี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นดาวดังในอนาคต เมื่อฤดูกาลที่แล้วระเบิดฟอร์มขั้นสุด เป็นตัวกำหนดทิศทางของเกม ออกบอลสร้างเกมรุกสวยๆ หลายจังหวะโชว์วิสัยทัศน์จ่ายคิลเลอร์พาสเข้าพื้นที่อันตราย นอกจากจะทำแอสซิสต์ให้เพื่อนแล้ว ยังมีทีเด็ดในการสอดขึ้นมาจบสกอร์ด้วยตัวเอง รวมทั้งเท้าซ้ายที่เฉียบขาดส่องไกลตุงตาข่ายเป็นประจำ ส่วนจุดอ่อนคงเป็นเรื่องของประสบการณ์ หลายครั้งเจอความกดดันหนักๆแล้วมีหายไปจากเกมเหมือนกันแมนซิตี้ > เควิน เดอบรอยน์ เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในยุคนี้ แม้ว่าปัจจุบันอายุ 32 ปี แต่สภาพร่างกายยังดีเยี่ยม ฤดูกาลล่าสุดจัดให้เพื่อนไปอีก 16 แอสซิสต์ รวมตลอด 8 ฤดูกาลบนพรีเมียร์ลีกมีให้เห็นเกิน 100 แอสซิสต์เข้าไปแล้ว จุดแข็งนอกจากทักษะการครอบครองบอลดีแล้ว สายตายังยอดเยี่ยมมองเห็นช่องทางการจ่ายบอลที่ไม่เหมือนใคร เป็นเรื่องยากที่คู่แข่งจะจับทางได้ ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนของสนาม ก็สามารถจ่ายบอลแบบถวายพานสวยๆ ทำให้เพื่อนจบสกอร์กันแบบง่ายๆ จัดว่าเป็นมันสมองของทีมอย่างแท้จริงตัวรุกด้านข้างอาร์เซนอล > บูกาโย ซาก้า เด็กหนุ่มชาวอังกฤษวัย 21 ปี ตอนนี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จุดเ่ด่นอยู่ที่ความเร็วความคล่องตัว ไปกับลูกฟุตบอลได้ดี ความสามารเฉพาะตัวสูงหาพื้อนที่ว่างได้เก่ง มีเท้าซ้ายอันตราย ทีเด็ดคือการเลี้ยงตัดเข้าในฉีกแล้วรับคู่แข่ง ยิงประตูเองก็ได้ ส่งให้เพื่อนยิงก็ดี สร้างประโยชน์ให้ทีมได้มากในแต่ละเกม สถิติฤดูกาลที่แล้ว ยิง 14 แอสซิสต์ 11 เป็นนักเตะที่ดูเรียบง่ายสนุกกับลูกฟุตบอล ไม่มีพิษภัยหรือเล่ห์เหลี่ยมลูกหนังอะไรมากนัก ซึ่งประสบการณ์จะช่วยหล่อหลอมให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆแมนซิตี้ > แจ็ก กรีลิช นักเตะค่าตัวแพงวัย 27 ปี หลังจากที่เคยถูกสบประมาทว่าเป็นการซื้อตัวที่ผิดพลาดของเรือใบ ฤดูกาลที่ผ่านมา แจ็ก กรีลิช โชว์ฟอร์มได้สะเด่าเหลือเกิน กลายเป็นนักเตะตัวหลักในการพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ โดยเฉพาะการเล่นร่วมกับ เออริ่ง ฮาแลนด์ เข้าขารู้ใจขึ้นเรื่อยๆ จุดแข็งคือการครองบอลไว้กับตัว ด้วยสไตล์การเล่นที่ยียวนกวนบาทา ทำให้สามารถดึงคู่แข่งเข้าหาตัวเองได้หลายคน เป็นการเปิดพื้นที่ให้เพื่อนสอดขึ้นไปรับบอล นอกจากความสามรถเฉพาะตัวดีเยี่ยม ยังเอาตัวรอดในพื้นที่แคบได้เก่ง อาจจะไม่มีจำนวนประตูมาก แต่มักเป็นส่วนสำคัญนำไปสู่การได้ประตูของทีมศูนย์หน้าตัวเป้าอาร์เซนอล > กาเบรียล เฆซุส ฤดูกาลแรกกับทีมปืนใหญ่เจออาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ลงช่วยทีมไม่ได้เต็มที่มากนัก สรุปผลงานในพรีเมียร์ลีก ยิงไป 16 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ ถือว่าไม่แย่ยิงได้มากกว่าตอนอยู่เรือใบด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าถ้าจะเป็นกำลังหลักพาทีมลุ้นแชมป์ ต้องยกระดับตัวเองให้มากกว่านี้ จุดเด่นคือความคล่องตัว พลิ้วไหวตามสไตล์บราซิลอย่างแท้จริง ต่อบอลสร้างจังหวะร่วมกับเพื่อนได้ สามารถลงมาล้วงบอลและเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ข้อเสียคือจังหวะจบสกอร์ยังไม่เด็ดขาด และการที่ไม่ใช่ศูนหน้าตัวเป้าอาชีพ ทำให้บ้างครั้งก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่มีลุ้นยิงประตูแมนซิตี้ > เออริ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงชาวนอร์เวย์วัย 23 ปี เพียงแค่ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกก็สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ว คว้าตำแหน่งดาวซัลโวด้วยจำนวนมากถึง 36 ประตู ถือว่าเป็นนักเตะที่ตอบโจทย์ของแมนซิตี้ได้แบบตรงจุด รูปร่างสูงใหญ่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี แข็งแกร่งแรงปะทะดีเยี่ยม เบียดไม่เป็นรองกองหลังคนไหนในพรีเมียร์ลีก แถมยังมีความเร็วในการพุ่งขึ้นไปหาบอล ทีเด็ดคือการจบสกอร์เด็ดขาดตามแบบฉบับศูนย์หน้าตัวเป้า จัดระเบียบร่างกายยอดเยี่ยม พร้อมยิงประตูในทุกรูปแบบ แต่ข้อเสียคือเป็นนักเตะที่เก่งในพื้นที่อันตราย จำเป็นต้องมีคนเปิดบอลและทำทางให้ หากเกมไหนเพื่อนจ่ายบอลไปไม่ถึง บทบาทก็จะมีน้อยลงไปด้วยหลังจากที่ลองเปรียบเทียบขุมกำลังของทั้งสองทีมแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงแข็งแกร่งด้วยผู้เล่นชุดเดิมเป็นหลัก ที่ส่วนใหญ่เล่นด้วยกันมานานความรู้ใจจึงแทบไม่ต้องพูดถึง ในขณะที่ อาร์เซนอล ก็เริ่มพัฒนาขุมกำลังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งอัพเกรดคุณภาพนักเตะขยับเข้าใกล้เรือใบสีฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนเกมรับ เชื่อว่าใกล้เคลียงกันมาก เป็นสองทีมที่มีคุณภาพเสียประตูยาก แดนกลางจริงอยู่ว่าอาร์เซนอลเสริมทัพได้น่ากลัวมาก แต่อาจต้องใช้เวลาปรับจูนเข้าหากัน ในขณะที่แมนซิตี้ปรับนิดหน่อยส่วนใหญ่เล่นด้วยกันมานาน จุดนี้คงต้องไปรอวัดกันตอนลงสนาม สุดท้าย แดนหน้าทั้งสองทีมมีตัวรุกริมเส้นด้านข้างอันตรายไม่แพ้กัน แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนอยู่ตรง ศูนย์หน้าตัวเป้า เพราะถึงแม้ว่า กาเบรียล เฆซุส จะมีประโยชน์ต่อทีมมากมาย แต่เมื่อ เออริ่ง ฮาแลนด์ นั้นยิงประตูให้ทีมได้เป็นกอบเป็นกำ สุดท้ายโอกาสเก็บชัยชนะจึงตกเป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากกว่า บทความที่เกี่ยวข้อง และน่าสนใจอาร์เซนอล มีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแค่ไหน?4 เหตุผล ไค ฮาแวร์ตซ์ พาอาร์เซนอลลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนเล็กๆ จาก NPK Footballstyle เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือเหมารวมว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueID : NPK Footballstyleเพจ Facebook : NPK Footballstyleเครดิตภาพภาพปก : Arsenal/ManCityภาพปก : Arsenal/Chelseaภาพประกอบ : Arsenal/ManCityภาพประกอบ : Arsenalภาพประกอบ : ManCityภาพประกอบ : Arsenalภาพประกอบ : Arsenal/ManCityส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !