TRUE TALK : 10 นักเตะค่าตัวแพงสถิติ " พรีเมียร์ลีก อังกฤษ " (ย้ายเข้า)
“ไม่มีสิ่งใดที่จะได้มาโดยที่เราไม่ต้องสูญเสีย” … วลีนี้ยังคงความอมตะไว้ได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการฟุตบอลในยุคปัจจุบันที่แต่ละทีมต่างยอมทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลกว้านซื้อนักเตะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งเพื่อแลกกับโทรฟี่ความสำเร็จ เกียรติยศ และรายได้ที่จะย้อนกลับเข้ามาสู่สโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึก พรีเมียร์ลีก ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เงินเท่านั้นที่จะนำความสำเร็จมาสู่ทีม
ท่ามกลางสงครามการแย่งชิงนักเตะอันดุเดือดในเวทีพรีเมียร์ลีก วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่าใครกันที่ติดอยู่ในโผ 10 นักเตะค่าตัวแพงสถิติ ” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ” (ย้ายเข้า) … ถ้าพร้อมแล้ว ลุยเลย
อันดับ 10 : อเลซองดร์ ลากาแซ็ตต์ (ฝรั่งเศส) 46.5 ล้านปอนด์ (2,046 ล้านบาท)
35 ประตู จากการลงสนาม 38 นัด ในทุกรายการเมื่อซีซั่นที่แล้ว บวกกับการกระซวกตาข่ายให้กับ “โอแอล” ในลีกเอิงครบ 100 ประตูพอดิบพอดี น่าจะมีน้ำหนักพอที่จะทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ยอมทุบคลังสโมสรเพื่อดึงดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส วัย 26 ปี รายนี้มาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม พร้อมกับการเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “ไอ้ปืนใหญ่”
ฤดูกาลใหม่ที่ใกล้จะเปิดฉากนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญว่า ยอดดาวยิงที่อย่าง ลากาแซ็ตต์ จะยังรักษาฟอร์มเก่งเหมือนสมัยค้าแข้งในลีกบ้านเกิดได้หรือไม่
อันดับ 9 : จอห์น สโตน (อังกฤษ) 47.5 ล้านปอนด์ (2,090 ล้านบาท)
จากแนวรับดาวรุ่งของ เอฟเวอร์ตัน สู่การเป็นหนึ่งในแนวรับที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก จอห์น สโตน ถือเป็นตัวเลือกแรกในสายตาของกุนซือมันสมองอย่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า เสมอ จนทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามค่อนข้างมากในซีซั่นแรกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ทว่าผลงานโดยรวมของทีมยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังจบด้วยเพียงอันดับที่สามของตาราง
จอห์น สโตน เป็นแนวรับสมัยใหม่ ตัวใหญ่ แต่เล่นลูกบนพื้นได้ดี และเชื่อว่าหาก เป็ป สามารถเจียระไนเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษวัย 23 ปีนี้ได้ ในอนาคต เราอาจเห็น สโตน ก้าวขึ้นมาทำสถิติการย้ายตัวอีกครั้งก็เป็นได้
อันดับ 8 : ไคล์ วอล์คเกอร์ (อังกฤษ) 50 ล้านปอนด์ (2,200 ล้านบาท)
อดีตเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเกาะอังกฤษ สู่การเป็นแบ็คขวาค่าตัวหลัก 50 ล้านปอนด์ (ไม่รวมเงื่อนไขพิเศษอีกราวๆ 4 ล้านปอนด์) หรือจริงๆ แล้วเราจะใช้คำว่า นักเตะในแนวรับที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกก็ยังได้… ไคล์ วอล์คเกอร์ ใช้เวลา 6 ปีกับการสั่งสมประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ของ “ไก่เดือยทอง” ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักทั้งใน สเปอร์ส และทีมชาติอังกฤษ จนตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในท้ายที่สุด
แน่นอนว่า ไคล์ วอร์คเกอร์ คงไม่ได้ย้ายมาเพื่อเป็นตัวสำรองของใครเป็นแน่ และการได้ลงเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับแมนฯ ซิตี้ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ฝีเท้าของเจ้าตัวว่าจะสามารถยกระดับการเล่นของตัวเองเพื่อก้าวไปสู่การเป็นฟูลแบ็กที่ดีที่สุดในโลกได้หรือไม่ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น
อันดับ 7 : เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน) 50 ล้านปอนด์ (2,200 ล้านบาท)
“เอล นินโญ่” และโกลเด้น บอย แห่งวงการฟุตบอลสเปน เฟร์นานโด ตอร์เรส คือศูนยหน้าพรสวรรค์อย่างแท้จริง เขาคือพระเจ้าที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน, เป็นเทพเจ้าที่ แอนฟิลด์ ก่อนที่เจ้าตัวจะเลือกทางสายดาร์ค และตอบแทนความไว้ใจของเหล่าเดอะ ค็อปทั้งโลกด้วยการเลือกย้ายไปเล่นให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัวถึง 50 ล้านปอนด์ในปี 2011
แม้หลังจากนั้น ตอร์เรส จะไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้เลย แต่ทว่า แอตเลติโก มาดริด ก็ยังเลือกที่จะอ้าแขนรับ ตอร์เรส พร้อมกับโอบกอด และกระซิบบอกเบาๆ ว่า “นี่คือบ้านของคุณ นี่คือบ้านของเรา”
ปัจจุบัน ตอร์เรส ยังคงค้าแข้งให้กับทีม “ตราหมี” ในลา ลีก้า และเป็นขวัญใจของแฟนบอลสเปนในฐานะหัวใจสำคัญในการพาทัพ “กระทิงดุ” คว้าแชมป์ยุโรป และแชมป์โลก
อันดับ 6 : เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยี่ยม) 55 ล้านปอนด์ (2,420 ล้านบาท)
นี่คือนักเตะที่ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดทั้งในบุนเดสลีกา และพรีเมียร์ลีก… เควิน เดอ บรอยน์ เป็นนักเตะพรสวรรค์ที่สามารถสร้างโอกาส และเปลี่ยนจังหวะของเกมได้ภายในพริบตา ด้วยสายตาอันเฉียบแหลม บวกกับมันสมองที่เกิดมาเพื่อเป็นจอมทัพ ทำให้แข้งทีมชาติเบลเยี่ยมรายนี้ โดดเด่นสุดๆ ในยามที่ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
หากถามเราว่าค่าตัว 55 ล้านปอนด์ ที่ทีม “เรือใบสีฟ้า” ต้องจ่ายให้กับ โวล์ฟสบวร์ก นั้นแพงไปหรือไม่ เราขอบอกคำเดียวเลยว่า “ไม่” เลยสักนิด
อันดับ 5 : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (อังกฤษ) 57 ล้านปอนด์ (2,508 ล้านบาท)
ปีกจรวดทีมชาติอังกฤษรายนี้ ถือเป็นนักเตะอังกฤษที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อขายในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี นับตั้งแต่ที่ เทรเวอร์ ฟรานซิส เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ค่าตัวทะลุหลัก 1 ล้านปอนด์
จุดเด่นของดาวเตะรายนี้คือความเร็ว และการไปกับบอลได้ดี บวกกับเทคนิคที่แพรวพราว ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ลังเลที่จะทุ่มเม็ดเงินกว่า 57 ล้านปอนด์กระชาก สเตอร์ลิ่ง มาวาดลวดลายในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม
อันดับ 4 : อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน) 58 ล้านปอนด์ (2,552 ล้านบาท)
หัวหอกใหม่ถอดด้ามของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ผู้พกดีกรีแชมป์กับเรอัล มาดริด และยูเวนตุส มาอย่างมากมาย อัลบาโร่ โมราต้า ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะเนื้อหอม และเป็นที่หมายปองของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปมากมาย รวมถึง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เชื่อว่าคงจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความกดดันของเจ้าตัว เนื่องจาก คนที่เขาเข้ามาแทนที่นั้นเป็นถึงดาวซัลโวของสโมสรชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นล่าสุดที่มีชื่อว่า “ดีเอโก้ คอสต้า” !!!
อันดับ 3 : อังเคล ดิ มาเรีย (อาร์เจนติน่า) 59.7 ล้านปอนด์ (2,626 ล้านบาท)
สุดยอดมิดฟิลด์ผู้นำทัพ “ราชันชุดขาว” กวาด 6 โทรฟี่แชมป์ ตลอด 5 ฤดูกาลที่ค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว อังเคล ดิ มาเรีย ตัดสินใจหอบข้าวของย้ายมาหาความท้าทายใหม่ๆ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสูงถึง 59.7 ล้านปอนด์ แต่ทว่าชีวิตการค้าแข้งในอังกฤษของเจ้าตัวกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้ ดิ มาเรีย ได้ใช้ชีวิตในอังกฤษเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปรียบเสมือนสถานที่ที่เรียกความมั่นใจให้กับจอมทัพอาร์เจนไตน์อีกครั้ง หลังเจ้าตัวพาทีมระเบิดเพลงแข้งสุดยอดด้วยการกวาดทุกแชมป์ในฝรั่งเศสมาครองได้ในฤดูกาลแรกที่มาค้าแข้ง ทำให้แฟนๆ “ปีศาจแดง” หลายๆ คนถึงกับอดพูดไม่ได้ว่า ถ้าบางที ทีมให้เวลากับโอกาส ดิ มาเรีย มากกว่านี้สักนิด เราคงได้เห็นผลตอบแทนจากเม็ดเงินเกือบ 60 ล้านปอนด์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายไป
อันดับ 2 : โรเมลู ลูกากู (เบลเยี่ยม) 75 ล้านปอนด์ (3,300 ล้านบาท)
หัวหอกร่างยักษ์ผู้เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ทักษะ และความแข็งแกร่ง บวกกับการจบสกอร์อันคมกริบ ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ถึงกับเอ่ยปากว่านี่คือหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลก
71 ประตูตลอดการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 5 ฤดูกาลหลังสุด (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และเอฟเวอร์ตัน) คือเหตุผลว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงยอมควักเงินเป็นสถิติการซื้อขายที่แพงที่สุดในปี 2017 และแพงสุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลกให้กับแข้งรายนี้
อันดับ 1 : ปอล ป็อกบา (ฝรั่งเศส) 89.3 ล้านปอนด์ (3,929 ล้านบาท)
นี่คือนักเตะที่แพงที่สุดในเกาะอังกฤษ และแพงที่สุดในโลก จากเด็กปั้นที่แทบจะไร้อนาคตในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ปอล ป็อกบา ถูกชุบชีวิตอีกครั้ง ก่อนจะมาฉายแววโดดเด่นสุดๆ กับการยืนบัญชาการเกมในแดนกลางของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส จนอดีตต้นสังกัดที่ปลุกปั้นเขามาถึงกับต้องยอมควักเงินเป็นสถิติโลก เพื่อนำดาวเตะจอมแฟชั่นรายนี้กลับมาอีกครั้ง
4 แชมป์สคูเด็ตโต้, รองแชมป์ยูโร 2016, แชมป์ยูโรป้า ลีก และอีเอฟแอล คัพ ในฤดูกาลแรกที่กลับมาเล่นในอังกฤษ รวมถึงการพาทีมชาติฝรั่งเศสชุดยู 20 คว้าแชมป์โลกในปี 2013 น่าจะเป็นเครื่องหมายการันตีได้ว่า หากคุณอยากจะประสบความสำเร็จ คุณต้องมี “ป็อกบา” อยู่ในทีม
ติดตามข่าวตลาดซื้อขายนักเตะ 2017/18 ได้ที่นี่
ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก 2017/18
ตลาดซื้อขายนักเตะ ลา ลีกา,กัลโช่,ลีกเอิง,บุนเดสลีกา 2017/18
บอลไทยบอลนอก ไม่พลาดทุกบิ๊กแมตช์ รวม 7 ลีก 5 ถ้วย มันส์ ชัดระดับ HD พร้อมกีฬาฮิตอีกมากมาย และ คลิปไฮไลท์
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ TrueID App และ เว็บไซต์ Sport.Trueid.net หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID