ภาพหน้าปกโดย : sport.trueid.net ย้อนกลับไปตอนต้นฤดูกาล 2019/2020 ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นทีมที่ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งแทบจะทุกรายการที่พวกเขาลงแข่งขัน สถิติหลาย ๆ ด้านจากผลงานสุดแข็งแกร่งในฤดูกาลก่อนระบุชัดว่าทีมของ เป็ป กวาดิโอล่า จะขับเคี่ยวตำแหน่งแชมป์ลีกฟุตบอลอังกฤษกับลิเวอร์พูลอย่างสูสี ทว่าเมื่อผ่านไปเพียงครึ่งฤดูกาลแมนฯซิตี้กลับทำปากกาเซียนน้อยใหญ่หักกันถ้วนหน้า เพราะทีมแชมป์เก่ากลับโชว์ฟอร์มไม่ออก ถูกทีมหงส์แดงโกยแต้มทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้แมนฯซิตี้ฟอร์มหลุดจนหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ไก่โห่ก็เนื่องมาจากปัญหาทั้งห้าข้อดังต่อไปนี้ ขอบคุณภาพจาก : sport.trueid.net ผู้นำทีม การอำลาทีมของผู้เล่นระดับไอค่อนและกัปตันทีมอย่าง แว็งซองต์ กอมปานี ทำให้ภายในทีมขาดหายนักเตะที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำ แม้ทีมจะยังมีนักเตะระดับซีเนียร์อย่าง กุน อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา, แฟร์นันดินโญ่ หรือ เคลาดิโอ บราโว่ ก็ตาม แต่ความเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวที่สามารถปลุกความฮึกเหิมให้ทีมอย่างกอมปานีนั้นอาจไม่มีใครเลียนแบบได้ และนี่เองก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ฤดูกาลนี้เมื่อตามหลังคู่แข่งแล้วน้อยครั้งเหลือเกินที่ซิตี้จะกลับมาตีเสมอหรือแซงกลับมาชนะได้เช่นเดียวกับฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มา ลีรอย ซาเน่ ตัวรุกหัวฟูทีมชาติเยอรมนีเองก็ถูกอาการบาดเจ็บคอยราวีเช่นกัน แถมเป็นอาการบาดเจ็บใหญ่ที่ทำให้เขาต้องหายหน้าจากทีมไปหลายเดือนด้วย การไม่มีลีรอย ซาเน่ถือเป็นความเสียหายอันใหญ่หลวงของเป็ปเลยก็ว่าได้เพราะฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มาทีมมักต้องพึ่งความสามารถของเขาในยามลำบาก กล่าวคือซาเน่มักจะเป็นผู้สร้างความแตกต่างให้การแข่งขัน มักจะสังหารประตูชี้ขาดเกมได้เสมอไม่ว่าจะถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงหรือถูกเปลี่ยนตัวลงไปเพื่อแก้เกมก็ตาม ขอบคุณภาพจาก : sport.trueid.net การเสริมทัพ ช่วงซัมเมอร์แมนฯ ซิตี้ถือว่าเสริมทัพได้ค่อนข้างน่าพอใจทั้งการกระชากตัว โรดรี้ จากอ้อมอกของ แอตเลติโก้ มาดริด และดีลสลับขั้วกันระหว่าง ดานิโล่ กับ ชูเอา คานเซโล่ แต่ก็ยังมีจุดด่างพร้อยอยู่เล็กน้อยที่พวกเขาไม่สามารถหาปราการหลังตัวตายตัวแทน แว็งซองต์ กอมปานี ได้สำเร็จและพอพลาดหวังจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เลือกย้ายไปอีกฟากของเมืองเป็ปก็ไม่พยายามอุดบาดแผลนี้แต่อย่างใด บาดแผลเล็ก ๆ นี้จึงแหวกลึกกลายเป็นแผลใหญ่เมื่อบรรดากองหลังพากันเข้าโรงหมอไม่ขาดโดยเฉพาะ อายเมอร์ริค ลาปอร์กต์ เซ็นเตอร์แบ็คคนสำคัญที่ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดฤดูกาล ส่งผลให้กุนซือหัวเหม่งต้องแก้ปัญหาด้วยการให้กองกลางอย่าง แฟร์นันดินโญ่ กับ โรดรี้ ถอยลงไปเล่นเป็นกองหลัง ซึ่งพอจับนักเตะลงเล่นในตำแหน่งไม่ถนัดผลงานก็ออกมาอย่างที่เห็นนั่นแหละ นักเตะผิดฟอร์ม อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้แมนฯ ซิตี้มีฤดูกาลที่ไม่ค่อยโสภาเท่าไรก็คือนักเตะบางรายฟอร์มฝืดเอาในช่วงเวลาแสนสำคัญโดยเฉพาะ เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูมือสองทีมชาติบราซิลที่ฤดูกาลนี้ไม่เหนียวหนึบอย่างที่ควรจะเป็น ดาบิด ซิลบาที่ถูกเป็ปตั้งคำถามถึงภาวะความเป็นผู้นำ เคลาดิโอ บราโว่ เองก็แสดงความผิดพลาดให้เห็นอยู่เสมอ ซ้ำร้ายนักเตะหน้าใหม่อีกสองหน่อกลับไม่สามารถช่วยเหลือทีมได้เลยทั้ง ชูเอา คานเซโล่ ที่ปรับตัวกับสไตล์ฟุตบอลอังกฤษไม่ได้ อังเคลิโญ่ ที่สอบไม่ผ่านจนรายนี้ต้องถูกขายต่อให้ไลป์ซิกเพียงหกเดือนให้หลัง ขอบคุณภาพจาก : sport.trueid.net สภาพร่างกาย ดังที่กล่าวไปในตอนต้นฤดูกาล 2019/2020 นี้นักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บไม่ขาดสาย สองคีย์แมนหัวใจหลักของทีมอย่าง ลีรอย ซาเน่, เควิน เดอ บรอยน์ ก็ดันเจ็บเอาในช่วงเวลาสุดสำคัญ แถมยังโดนซ้ำดาบสองด้วยอาการบาดเจ็บของผู้เล่นแนวรับยกแผงไล่เรียงตั้งแต่ เบนฌาแม็ง เมนดี้, โอเล็กซานดร์ ซินเชนโก้, อายเมอร์ริค ลาปอร์กต์, จอห์น สโตน, นิโกลาส โอตาเมนดี้ อีกส่วนคือกลุ่มนักเตะอายุเลข 3 ที่เริ่มโรยราทั้ง ดาบิด ซิลบา, แฟร์นันดินโญ่, เคลาดิโอ บราโว่ นักเตะเกินครึ่งของซิตี้สภาพร่างกายไม่เคยสมบูรณ์เต็มร้อยเลยในฤดูกาลนี้ บางคนฟื้นฟูความฟิตไม่ถึง 80% ดีก็กลับไปบาดเจ็บซ้ำอีกเป็นอย่างนี้อยู่ร่ำไป ปัญหาเหล่านี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ปัจจุบันนี้พวกเขาต้องกลายเป็นทีมอันดับสองที่มีแต้มห่างจ่าฝูงลิเวอร์พูลมากเกินกว่ายี่สิบแต้ม ซ้ำร้ายยังมีข่าวว่าสองฤดูกาลข้างหน้าทีมสีฟ้าจากเมืองแมนเชสเตอร์อาจจะถูกแบนจากการแข่งขันระดับนานาชาติ แถมความหวังสูงสุดอย่าง UCL ก็อาจจะเอื้อมไม่ถึงถ้าในฤดูกาลนี้กิจกรรมกีฬาไม่สามารถกลับมาแข่งขันกันได้อีก แม้จะมีเรื่องดี ๆ อย่างการได้ถ้วยคาราบาวคัพมาชะโลมใจบ้างแต่โดยภาพรวมแล้วฤดูกาล 2019/2020 ก็ถือว่าไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไรนักสำหรับสโมสร เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้