ในโลกของกีฬาอาชีพ มีนักกีฬาบางคนที่ไม่ได้เพียงแค่เล่นเก่ง แต่ยังเปลี่ยนความคิดของคนทั้งประเทศ และ “กุลวุฒิ วิทิตศานต์” หรือ “วิว” คือหนึ่งในนั้น จากเด็กชายตัวเล็กที่เริ่มตีแบดเพื่อรักษาโรคภูมิแพ้ เขาเติบโตมาเป็นนักแบดมินตันระดับโลกผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่น วินัย และใจที่ไม่ยอมแพ้ เส้นทางของ “วิว” วิวเริ่มฉายแววตั้งแต่ในระดับเยาวชน โดยคว้าแชมป์เยาวชนโลกถึง 3 สมัยติดต่อกันในปี 2017–2019 ซึ่งไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะนักแบดมินตันส่วนมากทำได้ดีในระดับเยาวชน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อยอดสู่ความสำเร็จในระดับอาชีพได้อย่างเต็มตัว ที่น่าทึ่งคือ วิวไม่เพียงแต่รักษามาตรฐานได้ แต่ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 เขากลายเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลกจากการแข่งขัน BWF World Championships ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในสายอาชีพที่ไม่ใช่โอลิมปิก เป็นก้าวที่เปลี่ยนทั้งตัวเขาและวงการแบดมินตันไทย เมื่อเส้นทางไม่ง่าย แต่ไม่ยอมแพ้ สไตล์การเล่นของวิวถูกขนานนามว่า “เทพสามเกม” เพราะเขามักจะต้องต่อสู้อย่างหนักในสามเกม และมักเป็นฝ่ายพลิกกลับมาชนะในเกมสุดท้าย ความอดทน พละกำลัง และการอ่านเกมที่เฉียบคม คือสิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นกว่านักแบดมินตันหลายคนในรุ่นเดียวกัน แม้ในหลายรายการเขาจะต้องพ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศหรือก่อนหน้านั้น แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาคือ “ความสม่ำเสมอ” ไม่ใช่เพียงการคว้าแชมป์เพียงไม่กี่ครั้งแล้วหายไป วิวกลับพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถอยู่ในระดับสูงสุดของโลกได้อย่างต่อเนื่อง และนั่นคือสิ่งที่นักกีฬาระดับโลกต้องมี ปีทองแห่งชีวิต: อันดับ 1 โลก และเหรียญโอลิมปิก ปี 2025 ถือเป็นปีทองของวิวอย่างแท้จริง เขาสร้างผลงานระดับท็อปด้วยการคว้าแชมป์รายการใหญ่ เช่น Thailand Open, Indonesia Masters และ Singapore Open ทำให้เขาขยับขึ้นไปเป็น นักแบดมินตันชายเดี่ยวอันดับ 1 ของโลก เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2025 ในขณะเดียวกัน เขายังสามารถคว้า เหรียญเงินโอลิมปิก จากการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส กลายเป็นนักแบดมินตันชายไทยคนแรกที่ทำสำเร็จ เหรียญนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติส่วนตัวของเขา แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ มุมมองส่วนตัว ในโลกกีฬาอาชีพที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ความกดดัน และความไม่แน่นอน กุลวุฒิ วิทิตศานต์ กลับกลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ทำให้แฟนแบดมินตันรู้สึก “อุ่นใจ” เสมอเมื่อได้ดูเขาแข่ง เพราะเขาไม่ได้เพียงมีฝีมือระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีความสงบนิ่ง อ่อนน้อม และทัศนคติแบบ “นักกีฬาที่แท้จริง” ไม่ตะโกนใส่คู่แข่ง ไม่สบถหรือโวยวายในสนาม แพ้ก็ยิ้ม ชนะก็ยิ้ม ยกมือไหว้ ขอบคุณกองเชียร์เสมอ “เขาเป็นนักกีฬาที่เห็นแล้วรู้สึกดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ดูเขาแข่งแล้วรู้สึกเหมือนได้เรียนรู้วิธีแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี และชนะอย่างถ่อมตน” ในยุคที่นักกีฬาหลายคนมีภาพลักษณ์จัดจ้าน สร้างกระแสผ่านโซเชียล วิวกลับเลือกที่จะเป็นคนธรรมดา ๆ ที่ “ให้ผลงานพูดแทนตัวเอง” และเพราะความเงียบถ่อมตนนั้นแหละ ทำให้เขามีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้แฟน ๆ รู้สึกเชื่อมั่น รู้สึกเหมือนเขาคือคนของเรา ไม่ใช่แค่ฮีโร่บนหน้าจอ บทสรุป กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คือมากกว่านักกีฬา เขาคือต้นแบบของการฝ่าฟัน การเติบโต และการเป็นมืออาชีพในยุคที่การแข่งขันสูงสุดในโลกเกิดขึ้นทุกวินาที เขาไม่ใช่แค่คนที่ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงในระดับโลก แต่คือคนที่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณมีวินัยและใจที่ไม่ยอมแพ้ วิวอาจเป็น "เทพสามเกม" ในสนามแบดมินตัน แต่ในสายตาของแฟนกีฬาไทย เขาคือ ตำนานหนึ่งในใจ ที่จะยังคงอยู่ไปอีกนาน รูปหน้าปก : รูปที่1 รูปภาพที่1/2/3/4 : จากเฟสบุ๊ค Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !