รีเซต
ผมผิดเอง!! 'ฟาน ไดจ์ค' ขอรับผิดผู้เดียว หลังเล่นพลาดทำให้ทีมเสียประตู

ผมผิดเอง!! 'ฟาน ไดจ์ค' ขอรับผิดผู้เดียว หลังเล่นพลาดทำให้ทีมเสียประตู

ผมผิดเอง!! 'ฟาน ไดจ์ค' ขอรับผิดผู้เดียว หลังเล่นพลาดทำให้ทีมเสียประตู
ทรู วิชั่นส์
5 กุมภาพันธ์ 2567 ( 13:10 )
110

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังกัปตันทีมลิเวอร์พูล ขอเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว หลังเป็นคนที่เล่นพลาดจนเป็นเหตุให้ทีมต้องเสียประตู ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทีมหงส์แดงบุกพ่าย อาร์เซน่อล 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับโปรแกรมยากในการออกมาเยือน อาร์เซน่อล ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยก่อนเกมพวกเขายังต้องเจอกับข่าวร้ายเมื่อ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่ฟิตพอลงเล่นเป็นตัวจริง, โดมินิก โซโบซไล มีอาการป่วย ส่วน คอเนอร์ แบรดลี่ย์ แบ็กขวาดาวรุ่งที่กำลังฟอร์มแรงก็มาเจอเรื่องคุณพ่อเสียชีวิตเลยไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีมวันนี้

รูปเกมที่ออกมาจึงเป็น อาร์เซน่อล ที่เล่นเหนือกว่าอย่างชัดเจน และเป็นฝ่ายนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกมจาก บูคาโย่ ซาก้า นาทีที่ 14 แต่ ลิเวอร์พูล ที่เล่นได้ไม่ดีนักกลับตีเสมอได้แบบมีโชคช่วย เมื่อ กาเบรียล มากัลเญส ทำเข้าประตูตัวเองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทำให้จบ 45 นาที ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1

อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ ฟาน ไดค์ กะจังหวะผิดพลาดไม่เข้าใจกันกับ อลิสซง เบคเกอร์ นายทวารของทีม จนทำให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้โอกาสยิงเข้าไปแบบโล่งๆ ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 92 เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง จะได้โอกาสกระชากบอลเข้าไปยิงลอดขา อลิสซง เป็นประตูปิดท้ายให้ อาร์เซน่อล ชนะ ลิเวอร์พูล ไปอย่างเด็ดขาด 3-1

ทั้งนี้ หลังจบเกม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความรับผิดชอบด้วยการระบุว่าประตูที่ 2 ที่ทีมเสียไปนั้น เป็นความผิดของเขาเพียงคนเดียว โดยกล่าวว่า "มันเป็นวันที่ยากลำบาก ผมคิดว่าประตู 2-1 ที่เราเสียไปนั้น เป็นความรับผิดชอบของผมเพียงคนเดียว มันเป็นจังหวะที่สำคัญในเกมนี้ และผมก็น่าจะตัดสินใจดีกว่านี้ ผมรู้สึกเจ็บปวดมากจริงๆ"

"มันเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในเกมนี้ เพราะตอนที่กลับมาจากพักครึ่ง เรากำลังทำได้ดี เราครองบอลและสร้างโอกาสได้ บรรยากาศของเกมกำลังเข้าที่ และจุดเปลี่ยนก็มาเกิดขึ้นเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผม ผมน่าจะเคลียร์บอลทิ้งไปในจังหวะนั้น"

จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล ยังไม่เสียตำแหน่งจ่าฝูงก็จริง แต่ก็ถูก อาร์เซน่อล ทำแต้มไล่จี้มาเหลือแค่ 2 คะแนนเท่านั้น จากการลงเล่น 23 เกมเท่ากัน และที่สำคัญก็คือเป็นการเปิดโอกาสให้ แมนฯ ซิตี้ ที่แข่งน้อยกว่า 2 นัด และตามหลังอยู่ 5 คะแนน มีโอกาสทำแต้มแซงได้ เพราะถ้าทีมเรือใบสีฟ้าเอาชนะในเกมตกค้างได้ทั้งหมด พวกเขาจะกลายเป็นจ่าฝูงแทนที่ ลิเวอร์พูล ทันที

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

541