
30 วันเปลี่ยนชีวิต โปรแกรม Functional Training ที่บ้าน สำหรับผู้ชาย

การฝึกแบบ Functional Training คือการออกกำลังกายที่เน้นการเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับกิจวัตรประจำวันที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง การฝึกแบบ Functional Training จะให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวที่ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนและข้อต่อต่างๆ ไปพร้อมกัน เพื่อสร้างความแข็งแรง ความมั่นคง และความคล่องตัวที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันแล้วการฝึก Functional Training นั้นทำได้อย่างไร วันนี้ TrueID Sport จัดโปรแกรมเด็ด 30 วันมาไว้ให้คุณแล้ว
30 วันเปลี่ยนชีวิต โปรแกรม Functional Training
ที่บ้าน สำหรับผู้ชาย
ประโยชน์ของการฝึก Functional Training
- ชีวิตประจำวันที่ง่ายขึ้น: การฝึกนี้ช่วยให้ร่างกายทำงานพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กิจวัตรประจำวันของคุณเหนื่อยน้อยลงและทำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายดายขึ้น
- ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ: เสริมสร้างกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่ช่วยพยุงและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันอาการปวดข้อต่อและลดโอกาสการบาดเจ็บจากกิจกรรมต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกาย
- เพิ่มศักยภาพทางการกีฬา: พัฒนาพละกำลัง ความคล่องตัว และการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกีฬาและกิจกรรมสันทนาการหลายประเภท
- พัฒนาการทรงตัวและการประสานงาน: ท่าทางการฝึกที่ต้องอาศัยการทรงตัว เช่น การยืนด้วยขาข้างเดียว จะช่วยพัฒนาความสามารถในการทรงตัวและควบคุมร่างกายของคุณให้ดีขึ้น
- เผาผลาญแคลอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ: เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อมกัน การฝึกแบบนี้จึงช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการฝึกที่เน้นกล้ามเนื้อเพียงส่วนเดียว
หลักการสำคัญโปรแกรม Functional Training เวลา 30 วัน
โปรแกรมจะแบ่งเป็น 4 ช่วงในแต่ละสัปดาห์ โดยเน้นหลักการ Progressive Overload หรือการเพิ่มความเข้มข้น จำนวนครั้ง หรือความยากของท่าให้ค่อยๆ มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรมีวันพักอย่างน้อย 1 วันระหว่างการออกกำลังกาย โปรแกรมนี้ใช้ดัมเบลเป็นหลัก แต่คุณสามารถใช้เคตเทิลเบลหรือยางยืดแรงต้านแทนได้ ให้ความสำคัญกับท่าที่ถูกต้องเสมอ หากคุณทำท่าได้ไม่ดีให้ใช้น้ำหนักที่เบาลง หรือเปลี่ยนไปใช้ท่าที่ออกกำลังกายด้วยน้ำหนักตัวแทน
ก่อนเริ่มออกกำลังกายทุกครั้ง ควรใช้เวลา 5-10 นาทีในการยืดเหยียดแบบเคลื่อนไหว (เช่น กระโดดตบ, หมุนแขน, แกว่งขา) เพื่อเตรียมความพร้อมให้กล้ามเนื้อและข้อต่อ หลังออกกำลังกายทุกครั้ง ควรใช้เวลา 5-10 นาทีในการยืดเหยียดค้างไว้ (ค้างท่าไว้ 20-30 วินาที) เพื่อช่วยฟื้นตัวและเพิ่มความยืดหยุ่น
สัปดาห์ที่ 1 : ความแข็งแรง และคล่องตัว
(Foundational Strength & Mobility)
สัปดาห์นี้จะเน้นไปที่การฝึกเคลื่อนไหวพื้นฐาน เพื่อสร้างความแข็งแรงและสร้างความเข้าใจในร่างกายอย่างมั่นคง โดยสามารถเลือกทำสลับกันได้ระหว่าง โปรแกรม A และ โปรแกรม B
- โปรแกรม A:
- Goblet Squats: 10-12 ครั้ง 3 เซ็ต
- Dumbbell Rows: 10-12 ครั้งต่อข้าง 3 เซ็ต
- Push-ups: ทำเท่าที่ไหว 3 เซ็ต
- Dumbbell Overhead Press: 10-12 ครั้ง 3 เซ็ต
- Plank: ค้างไว้ 30-45 วินาที 3 เซ็ต
- โปรแกรม B:
- Reverse Lunges: 10-12 ครั้งต่อข้าง 3 เซ็ต
- Dumbbell Floor Press: 10-12 ครั้ง 3 เซ็ต
- Renegade Rows: 8-10 ครั้งต่อข้าง 3 เซ็ต
- Single-Leg Romanian Deadlifts (RDLs): 8-10 ครั้งต่อข้าง 3 เซ็ต
- Dead Bugs: 10-12 ครั้งต่อข้าง 3 เซ็ต
สัปดาห์ที่ 2: เพิ่มความเข้มข้นและความทนทาน
(Increasing Intensity & Endurance)
ในสัปดาห์ที่สอง จะเพิ่มจำนวนเซ็ตและลดเวลาพักลง เพื่อท้าทายความทนทานของระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงความอึดของกล้ามเนื้อ โดยสามารถเลือกทำสลับกันได้ระหว่าง โปรแกรม A และ โปรแกรม B
- โปรแกรม A:
- Goblet Squats: 10-15 ครั้ง 4 เซ็ต
- Dumbbell Rows: 10-15 ครั้งต่อข้าง 4 เซ็ต
- Push-ups: ทำเท่าที่ไหว พักระหว่างเซ็ต 30 วินาที 4 เซ็ต
- Dumbbell Overhead Press: 10-15 ครั้ง 4 เซ็ต
- Plank: ค้างไว้ 45-60 วินาที 4 เซ็ต
- โปรแกรม B:
- Reverse Lunges: 10-15 ครั้งต่อข้าง 4 เซ็ต
- Dumbbell Floor Press: 10-15 ครั้ง 4 เซ็ต
- Renegade Rows: 10-12ครั้งต่อข้าง 4 เซ็ต
- Single-Leg RDLs: 10-12 ครั้งต่อข้าง 4 เซ็ต
- Dead Bugs: 12-15 ครั้งต่อข้าง 4 เซ็ต
สัปดาห์ที่ 3: ความแข็งแกร่งและพละกำลัง (Strength & Power)
สัปดาห์นี้จะใช้ท่าที่ท้าทายมากขึ้น และเน้นการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังแต่ยังคงควบคุมได้ เพื่อสร้างความแข็งแรงที่นำไปใช้ได้จริง โดยสามารถเลือกทำสลับกันได้ระหว่าง โปรแกรม A และ โปรแกรม B
- โปรแกรม A:
- Jump Squats (ใช้ดัมเบล หรือไม่ใช้ก็ได้): 10 ครั้ง 3 เซ็ต
- Dumbbell Squat to Press: 8-10 ครั้ง 3 เซ็ต
- Incline Push-ups (ยกเท้าสูง): ทำเท่าที่ไหว 3 เซ็ต
- Dumbbell Snatch (สลับแขน): 6-8 ครั้ง ต่อข้าง 3 เซ็ต
- Russian Twists (ใช้ดัมเบล หรือไม่ใช้ก็ได้)): 15-20 ครั้ง ต่อข้าง 3 เซ็ต
- โปรแกรม B:
- Dumbbell Step-ups: 10-12 ครั้งต่อข้าง 3 เซ็ต
- Dumbbell Clean and Press: 8 -10 ครั้ง 3 เซ็ต
- One-Arm Dumbbell Rows: 10-12 ครั้ง ต่อข้าง 3 เซ็ต
- Side Plank: ค้างไว้ 30-45 วินาทีต่อด้าน 3 เซ็ต
- Farmer's Walk: 20-30 ก้าว 3 เซ็ต
สัปดาห์ที่ 4: การทำงานประสานกันของร่างกายทั้งระบบ
และการเสริมสร้างความทนทาน (Full-Body Integration & Conditioning)
สัปดาห์สุดท้ายนี้จะนำท่าที่เคยฝึกมาในสัปดาห์ก่อนหน้ามารวมกัน เพื่อผลักดันศักยภาพ และพัฒนาความทนทานของร่างกายโดยรวม
ออกกำลังกายแบบเซอร์กิต ตามรายการ โดยพัก 30-60 วินาทีระหว่างรอบ และทำให้ครบ 3-4 รอบ
- Dumbbell Squat to Press: 10 ครั้ง
- Renegade Rows: 8 ครั้ง ต่อข้าง
- Reverse Lunges: 10 ครั้ง ต่อข้าง
- Push-ups: 10 ครั้ง
- Plank with Hip Dips: 12 ครั้ง ต่อข้าง
Functional Training | |
ชื่อท่า | วิธีทำ |
Dead Bugs | นอนหงาย ชูแขนและขาขึ้น หลังแนบพื้นค่อยๆ ลดแขน-ขาตรงข้าม สลับข้างทำสลับข้างตามจำนวนครั้งที่กำหนด |
Dumbbell Clean and Press | ยืนและจับดัมเบล ดึงดัมเบลขึ้นไหล่ ยกน้ำหนักเหนือศีรษะ กลับสู่ท่าเริ่มต้น |
Dumbbell Floor Press | นอนหงาย งอเข่า ถือดัมเบล หายใจออก ดันดัมเบลขึ้น หายใจเข้า ลดดัมเบลลง |
Dumbbell Overhead Press | ท่ายืนหรือนั่ง ถือดัมเบลระดับไหล่ หายใจออก ดันขึ้นเหนือหัวหายใจเข้า ลดลงอย่างช้าๆ |
Dumbbell Rows | วางมือและเข่า 1 ฝั่งบนม้านั่ง หายใจออกดึงดัมเบลโดยใช้การดึงศอกไปด้านหลัง หายใจเข้าลดดัมเบลลง ทำซ้ำอีกข้าง |
Dumbbell Snatch | ยืนคร่อมดัมเบล ย่อตัวหลังตรงจับดัมเบล ใช้แรงขา สะโพกระเบิดพลัง ยกดัมเบลชิดตัว ยักไหล่ส่งขึ้น ย่อตัวรับและล็อกแขนเหนือหัว ลดดัมเบลกลับ |
Dumbbell Squat to Press | ถือดัมเบลระดับไหล่ยืนเท้ากว้างเท่าหัวไหล่ จัดท่าหลังตรงย่อตัวแบบสควอท ใช้แรงขาดันตัวขึ้นพร้อมยกดัมเบลเหนือหัว ค่อยๆ ลดดัมเบลกลับที่ไหล่ |
Dumbbell Step-ups | ถือดัมเบลข้างลำตัว จัดท่าหลังตรง ก้าวเท้าขึ้นแท่น ใช้ส้นเท้าขาที่อยู่บนแท่นดันตัวขึ้น ก้าวเท้าลงช้าๆ กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำสลับข้างตามต้องการ |
Farmer's Walk | ยืนระหว่างดัมเบลย่อตัวหลังตรงจับดัมเบล ใช้แรงขายกขึ้น เดินตัวตรงก้าวสั้นๆ จากนั้นค่อยๆ วางดัมเบลลงพื้น |
Goblet Squats | ถือดัมเบลที่หน้าอก ยืนเท้ากว้างกว่าไหล่ ย่อตัวลงให้หลังตรง ดันเข่าออก ใช้ส้นเท้าดันตัวขึ้น เกร็งก้นเมื่อยืนสุด |
Incline Push-ups | หาม้านั่งหรือแท่นสูง วางมือบนขอบกว้างกว่าไหล่เล็กน้อย จัดท่าแพลงก์ให้ตัวตรง หายใจเข้า ค่อยๆ ลดหน้าอกลง ข้อศอกทำมุม 45 องศา หายใจออก ดันตัวขึ้นด้วยแรงจากอกและแขน |
Jump Squats | ยืนจัดท่าหลังตรง ย่อตัวลงแบบสควอท ระเบิดตัวกระโดดขึ้น ลงด้วยปลายเท้างอเข่าเพื่อซับแรงกระแทก |
Plank | คุกเข่าวางศอกใต้ไหล่ เหยียดขาไปด้านหลัง เกร็งหน้าท้องและบีบก้นให้ลำตัวเป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวถึงเท้า หายใจเข้าออกช้าๆ อย่ากลั้นหายใจ |
Plank with Hip Dips | เริ่มจากท่าแพลงก์บนปลายเท้าและปลายแขน เกร็งลำตัวให้เป็นเส้นตรงตั้งแต่หัวถึงเท้า ค่อยๆ ลดสะโพกขวาลงให้เกือบแตะพื้น ใช้แรงหน้าท้องดึงกลับขึ้น สลับลดสะโพกซ้าย ทำสลับข้างไปเรื่อยๆ โดยที่ลำตัวต้องเป็นเส้นตรงตลอดเวลา |
Push-ups | เริ่มจากท่าแพลงก์สูง วางมือบนพื้นให้กว้างกว่าไหล่เล็กน้อย จัดลำตัวให้ตรง หายใจเข้าพร้อมลดตัวลงช้าๆ โดยให้ข้อศอกทำมุมประมาณ 45 องศากับลำตัว หายใจออกและดันตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้น |
Renegade Rows | เริ่มจากท่าแพลงก์สูงโดยใช้ดัมเบลทั้งสองข้างวางบนพื้น ให้ลำตัวเป็นเส้นตรง ดึงดัมเบลขึ้นมาที่สะโพกทีละข้าง เกร็งลำตัวให้ตรง ไม่บิดสะโพก |
Reverse Lunges | ยืนตัวตรง ถือดัมเบลข้างลำตัว ก้าวเท้าไปด้านหลัง แล้วย่อตัวลง ย่อตัวจนเข่าทั้งสองข้างทำมุม 90 องศา เข่าหน้าอยู่เหนือข้อเท้า ใช้ส้นเท้าหน้าดันตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำสลับข้างตามจำนวนครั้งที่ต้องการ |
Russian Twists | นั่งชันเข่าเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย โดยให้หลังตรง เกร็งหน้าท้อง แล้วบิดลำตัวไปทางขวา พร้อมกับแตะมือหรือดัมเบลลงที่พื้น บิดกลับมาแล้วแตะมือหรือดัมเบลลงที่พื้นด้านซ้าย ทำสลับข้างไปเรื่อยๆ โดยใช้แรงจากลำตัวในการบิด ห้ามใช้แรงเหวี่ยง |
Side Plank | นอนตะแคง วางข้อศอกให้ตรงกับหัวไหล่ และเกร็งหน้าท้อง หายใจออกพร้อมกับยกสะโพกขึ้นจนลำตัวเป็นเส้นตรง ค้างท่าไว้ตามเวลาที่ต้องการ โดยรักษาแนวลำตัวให้ตรง ไม่บิดงอ ค่อยๆ ลดตัวลง แล้วสลับข้างทำซ้ำ |
Single-Leg Romanian Deadlifts RDLs | ยืนตัวตรง ถือดัมเบลไว้ แล้วทรงตัวบนขาข้างเดียวโดยงอเข่าเล็กน้อย ค่อยๆ งอสะโพกไปด้านหลังพร้อมกับเหยียดขาอีกข้างไปด้านหลังให้ลำตัวและขาเป็นเส้นตรง รักษาหลังให้ตรงตลอดเวลา ใช้แรงจากกล้ามเนื้อก้นและต้นขาด้านหลังดันตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้น เมื่อทำครบจำนวนครั้ง ให้เปลี่ยนไปทำอีกข้าง |
บทความที่คุณอาจสนใจ
- วิธี Hack ร่างกายผู้ชายสายสร้างกล้าม ดูแลตัวเองอย่างไรสร้างกล้ามได้ไว
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย
- รวมท่าปั้นหัวไหล่ผู้ชายเวลาน้อย ภายใน 15 นาที ไหล่สวยได้แม้ไม่มีเวลา
- วิธีกินตาม TDEE สำหรับผู้ชายอยากปั้นกล้าม กินอย่างไรให้ได้ผล
- Warm up กับ Cool down ต่างกันอย่างไรทำไมสำคัญต่อการสร้างกล้าม
- วิธีเลือกดัมเบลสำหรับผู้ชายให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
- รวมท่าออกกำลังกาย Dumbbell Complex เวลาน้อยได้ผลมาก
- รวมท่าฝึกแกนกลางลำตัว แบบไม่หนัก ได้กล้ามสวยแก้ปวดหลัง ทำตามง่าย
- สาเหตุที่ออกกำลังกายหนักแต่ไม่มีกล้าม เปลี่ยนวิธีนี้กล้ามขึ้นแน่