ท่ามกลางตลาดการซื้อ-ขายนักเตะที่ดุเดือดเลือดพล่านนี้ ที่แต่ละทีมในพรีเมียร์ลีกชอปปิงกันอย่างสนุกสนานมือ โดยเฉพาะ "เจ้าป่า" น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ น้องใหม่ที่กลับเลื่อนชั้นขึ้นมาบนพรีเมียร์ลีกได้ในรอบ 23 ปี ที่จนถึงตอนนี้ (21 สิงหาคม) เสริมทัพไป 14 คน ซึ่งเรียกได้ว่าตั้งทีมลงแข่งอีกทีมได้เลย ตัดภาพไปที่ทีมจากฟากอีสต์มิดแลนส์ของเกาะอังกฤษอย่าง "เลสเตอร์ ซิตี้" ที่ ณ ตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้พวกเขาพึ่งเสริมทีมด้วยการคว้าตัว "อเล็กซ์ สมิทธีส์" นายทวารจากคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งถือว่าเป็นทีมที่เสริมทัพได้ช้าที่สุดในฤดูกาลนี้ของทีมพรีเมียร์ลีกแล้วนอกจากจะพึ่งเสริมทัพไปได้เพียงคนเดียวแล้ว แถมยังไม่ใช่การเสริมทัพสำหรับตัวหลักแล้ว ทีมจิ้งจอกสยามนั้นยังปล่อยตัวผู้รักษาประตูระดับตำนานของทีมอย่าง "แคสเปอร์ ชไมเคิล" ไปอีก ซึ่งแคสเปอร์ย้ายไป นีซ ทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศสด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านปอนด์ รวมไปถึงปล่อย ฮัมซา เชาฮ์ดรี กองกลางของทีมไปให้วัตฟอร์ดยืมตัวอีก นี่ยังไม่รวมกับอีก 10 คนที่ปล่อยสัญญาบ้าง ปล่อยยืมตัวบ้าง ซึ่งเทียบสัดส่วนแล้วมันต่างกันเยอะเลย ปล่อยเป็นสิบแต่เสริมแค่หนึ่งซึ่งหนึ่งนั้นคือเสริมมาเป็นสำรองอีก ไม่ได้เสริมมาเป็นคนที่ใช้หมุนเวียน หรือสามารถเปลี่ยนเกมอะไรได้ จริงอยู่ที่นอกจากชไมเคิลที่ปล่อยไปแล้ว ตัวที่ปล่อยไปจะไม่ใช่ตัวหลักของทีม หรือตัวที่ใช้งานประจำ แต่เมื่อปล่อยออกไปแล้วก็ควรที่จะมีคนเข้ามาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป หรือเสริมเพื่อเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีมแถมตอนนี้ที่ตลาดยังไม่ปิดก็มีข่าวพร้อมที่จะเสีย 2 ตัวหลักไปอีก ทั้ง เวสลีย์ โฟฟานา กองหลังชาวฝรั่งเศสที่มีข่าวพัวพันกับเชลซีมาตลอดในช่วงหลัง แถมเกมกับเซาแธมป์ตันก็ขอไม่ลงสนามอีก และยูริ เตเลอมองส์ กองกลางคนสำคัญของทีมที่มีข่าวแว่วๆ มาว่าอยากย้ายไปร่วมทีม "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ไหนจะอาการบาดเจ็บของแบ็คซ้ายขวาตัวหลักของทีมอีก 2 คน อย่าง ริคาร์โด เปเรย์รา แบ็คขวาชาวโปรตุเกส และแบ็คซ้ายอย่างไรอัน เบอร์ทรานด์ที่เจ็บยาวทั้งคู่ซึ่งสำหรับสถานการณ์ของทีม เบรแดน ร็อดเจอร์สก็ให้สัมภาษณ์หลังเกมอุ่นเครื่องกับโอเอช ลูเวิร์น (ก่อนได้ตัวสมิธตีส์) เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมว่า เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดของทีม และความจริงแล้วก็อยากที่จะเสริมทัพเหมือนกัน แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อต้องมีการผ่องถ่ายขายออกไปก่อนถึงจะซื้อเข้ามาเสริมได้และสำหรับผลงาน 3 นัดแรกนับตั้งแต่เปิดซีซั่น 2022/2023 ร็อดเจอร์สพาลูกทีมแพ้ 2 เสมอ 1 ยิงได้ 5 เสีย 8 โดยนัดล่าสุดก็พึ่งแพ้คาบ้านให้กับเซาแธมป์ตันไป 1-2 แถมนัดต่อไปต้องบุกไปเยือนเชลซีอีก ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะพ่ายไปอีกเกมแต่ในเรื่องไม่ดีก็มักจะมีเรื่องดีอยู่เสมอ ในกรณีของเลสเตอร์นี้ก็เช่นกัน เพราะถ้าลองถึงเหตุผลที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้จริงๆ ก็พอที่จะเข้าใจได้ เพราะทางผู้บริหาร และตัวกุนซือเองนั้นต้องการที่จะไม่ทำให้ทีมไปเสี่ยงกับกฎ Financial Fair Play (สามารถเข้าไปอ่านบทความของคุณหงส์ดรุนที่สรุปไว้หมดแล้วได้ที่ สรุปปัญหา “เลสเตอร์ ซิตี้” Financial Fair Play น่ากังวลหรือไม่ #EPL2022) และพึ่งทำการต่อสัญญาศูนย์ตัวเก่ง "เจมี วาร์ดี" ออกไปจนถึงปี 2024 และย้อนไปเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนก็ต่อสัญญากับดิวส์บิวรี-ฮอลล์ไปจนถึงปี 2027สุดท้ายนี้แล้วต้องรอมาดูว่าฤดูกาลนี้ร็อดเจอร์สจะพาจิ้งจอกสยามตัวนี้ไปจบที่อันดับเท่าไหร่ และก่อนตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ปิดตัวลง เลสเตอร์จะได้ผู้เล่นเข้ามาเสริมทัพอีกหรือไม่ หรือจะต้องเสียผู้เล่นออกไปอีกกี่คน ต้องติดตามดูกันครับขอบคุณรูปภาพจาก Official Facebook ของเลสเตอร์ ซิตี้Official Facebook ของLeicester City FC Thailandภาพปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์