
Baku City Circuit จากถนนธรรมดา สู่สนาม Formula 1 สุดหิน กับสถิติที่น่าสนใจ
Baku City Circuit หนึ่งในสนาม Formula 1 ที่เป็น Street Circuit ในปฎิทินการแข่งขัน Formula 1 ปี 2025 นี้ เป็นสนามที่ 17 ของการแข่งขัน แล้ว Baku City Circuit ที่จะใช้ในการแข่ง Azerbaijan Grand Prix นั้นมีที่มาอย่างไร ลักษณะสนามมีความพิเศษขนาดไหน สถิติที่น่าสนใจใครทำไว้บ้าง TrueID Sport จะพาคุณไปทำความรู้จักกัน
shutterstock / Michael Potts F1
Baku City Circuit จากถนนธรรมดา
สู่สนาม Formula 1 สุดหิน กับสถิติที่น่าสนใจ
ประวัติศาสตร์และการก่อตั้งสนาม Baku City Circuit (บากู ซิตี้ เซอร์กิต)
สนามบากู ซิตี้ เซอร์กิต (Baku City Circuit) ถูกใช้ในการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2016 จุดเริ่มต้นเกิดจากเบอร์นี เอ็คเคิลสโตน (Bernie Ecclestone) ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานบริหารของ F1 ได้เลือกสถานที่นี้ใน ประเทศอาเซอร์ไบจาน ด้วยเหตุผลในด้านกลยุทธ์ขยายฐานแฟนและเพิ่มรายได้ให้กับวงการ Formula 1 อีกทั้งประเทศอาเซอร์ไบจานเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากอุตสาหกรรมน้ำมัน จึงมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน อีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดให้สนามนี้มีความน่าสนใจคือ เมืองบากูมีทั้งตึกระฟ้าอันทันสมัยและ เมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ของบากู ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO จึงทำให้เกิดฉากหลังที่ไม่เหมือนใคร และสร้างความแตกต่างจากสนาม Street Circuit อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน
แนวคิดการออกแบบสนาม Baku City Circuit
ผู้รับหน้าที่ออกแบบสนามนี้คือ เฮอร์มานน์ ทิลเคอ (Hermann Tilke) วิศวกร และนักแข่งรถชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียงจากการออกแบบสนามแข่งรถฟอร์มูลาวันมากมายเป็นผู้ออกแบบ โดยได้รับโจทย์ที่ท้าทายอย่างยิ่งให้สร้างสนามแข่งที่สมบูรณ์แบบ และน่าตื่นเต้นบนถนนในใจกลางเมืองบากู โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอการผสมผสานอันงดงามระหว่างสถาปัตยกรรมเก่าแก่และทันสมัยของเมืองผ่านสนามแข่งที่ทอดยาวผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ
ลักษณะของสนาม Baku City Circuit
สนามแห่งนี้ได้รับการออกแบบให้มีความยาวรวม 6.003 กิโลเมตร มีจุดเด่นคือ ทางตรงยาว 2.2 กิโลเมตร บนถนนบากู บูเลอวาร์ด ซึ่งเป็นช่วงที่รถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เป็นหนึ่งในสนามแข่งบนถนนที่เร็วที่สุดในโลก
หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วยเส้นทางที่แคบและคดเคี้ยวผ่าน "เมืองเก่า" ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ทำให้สนามแห่งนี้มีความท้าทายทั้งในด้านความเร็วและเทคนิคไปพร้อมๆ กัน
การแข่งขันช่วงปีแรก
สนามบากู ซิตี้ เซอร์กิต เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มิถุนายน 2016 และจัด Formula 1 ครั้งแรกในอีกสองวันถัดมาภายใต้ชื่อ European Grand Prix ซึ่งเป็นชื่อที่เคยใช้จัดการแข่งขันในยุโรปมาหลายครั้งแล้ว หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดครั้งแรก ในปี 2017 การแข่งขันนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Azerbaijan Grand Prix
ความโดดเด่นของ Layout สนาม Baku City Circuit
- ทางตรงที่ยาวที่สุด
สนามแห่งนี้โดดเด่นด้วย ทางตรงที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่ง ในการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งทอดยาวกว่า 2.2 กิโลเมตรไปตามแนวชายฝั่งของเมืองบากู ทำให้รถแข่งสามารถทำความเร็วได้เกิน 350 กม./ชม. และเป็นจุดที่นักแข่งนิยมใช้เทคนิค Slipstreaming เพื่ออาศัยแรงลมจากรถคันหน้าและหาจังหวะ แซงคู่แข่ง ที่โค้งแรก - ช่วงโค้งปราสาท (The "Castle Section")
นี่คือจุดที่โดดเด่นและท้าทายที่สุด ของสนาม ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ตัวสนามจะแคบลงเหลือเพียง 7.6 เมตร ขณะที่วิ่งขึ้นเขาผ่านกำแพงของปราสาทซึ่งเป็นมรดกโลกของ UNESCO ช่วงโค้งที่ 8 ถึง 11 นี้ ต้องใช้ความแม่นยำสูงสุด เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของนักแข่ง ก็อาจทำให้ต้อง DNF ได้เลยทันที - ส่วนผสมของความต่าง
สนามบากู ซิตี้ เซอร์กิต มีความโดดเด่นจากการผสมผสานที่ลงตัว ระหว่างทางตรงยาวที่ใช้ความเร็วสูงกับโค้งหักศอก 90 องศา และช่วง "โค้งปราสาท" ที่คับแคบ ทำให้ทีมแข่งต้องปรับแต่งรถอย่างหนัก เพื่อหาจุดสมดุลระหว่างความเร็วสูงสุด และแรงกด (Downforce) ที่เหมาะสม - จุดแซงสำคัญ
นอกเหนือจากทางตรงหลักแล้ว สนามแห่งนี้ยังมีจุดแซงสำคัญอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุดเบรกหนัก หลังจากช่วงความเร็วสูงก่อนเข้าโค้งที่ 1 และช่วงท้ายรอบ ซึ่งเป็นโอกาสทองให้นักแข่งสามารถชิงตำแหน่งได้เพิ่มเติม
เหตุการณ์ที่น่าสนใจของ F1 ในสนาม Baku City Circuit
สนามบากู ซิตี้ เซอร์กิต ในอาเซอร์ไบจาน เป็นหนึ่งในสนามแข่ง F1 ที่โดดเด่นและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้การแข่งขันที่นี่ไม่เหมือนใคร
- โพลโพซิชั่นไม่ใช่หลักประกันชัยชนะ: ที่สนามแห่งนี้การออกตัวจากตำแหน่งที่ดีที่สุด การได้โพลโพซิชั่น ไม่ได้การันตีว่าจะชนะเสมอไปมีเพียงนักแข่งไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้สำเร็จ
- เซร์คิโอ เปเรซ (Sergio Pérez) คือเจ้าแห่งสนามสตรีทเซอร์กิต: เซร์คิโอ เปเรซ เป็นนักแข่งคนเดียวที่สามารถคว้าชัยชนะที่นี่ได้ถึงสองครั้ง (ปี 2021 และ 2023) ซึ่งตอกย้ำฉายา "ราชาแห่งสนามสตรีทเซอร์กิต" ของเขา
- สนามที่ Safety Car รับหน้าที่หนัก : สนามบากูเป็นที่รู้จักกันดีว่าต้องใช้รถ Safety Car บ่อยครั้ง เนื่องจากมีส่วนที่เร็วมากและส่วนที่แคบมากอย่าง "โค้งปราสาท" ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย และบางครั้งก็ถึงขั้นต้องใช้ธงแดงเพื่อหยุดการแข่งขัน และออกตัวใหม่ในช่วงท้าย
- สถิติความเร็วสูงสุด : ในปี 2016 รถของ วาลต์เทรี บอตทาส (Valtteri Bottas) เคยทำสถิติความเร็วสูงสุดที่ไม่เป็นทางการของ F1 ไว้ที่ 378 กม./ชม. (235 ไมล์/ชม.) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเร็วที่สูงของสนามนี้
- โพเดียมที่คาดเดาไม่ได้: ที่สนามแห่งนี้มีผู้ชนะที่หลากหลาย โดยมีเพียงเซร์คิโอ เปเรซคนเดียวเท่านั้นที่ชนะได้มากกว่าหนึ่งครั้ง และยังเคยสร้างความประหลาดใจด้วยการมีนักแข่งหน้าใหม่อย่าง แลนซ์ สโตรล ขึ้นโพเดียมได้เป็นครั้งแรกในอาชีพในปี 2017
- การแข่งขันสุดวุ่นวายในปี 2017: การแข่งขันในปี 2017 ถูกยกให้เป็นการแข่งขันที่บ้าคลั่งที่สุดเพราะมีเหตุการณ์มากมาย ทั้งการชนกันเองของเพื่อนร่วมทีม และการแซงอย่างน่าทึ่งของ
แดเนียล ริคคิอาร์โด (Daniel Ricciardo) ที่ออกตัวจากอันดับ 10 และคว้าชัยชนะได้ในที่สุด
สถิติที่น่าสนใจของ F1 ในสนาม Baku City Circuit
นักแข่งที่ชนะการแข่งขันที่สนามบากู ซิตี้ เซอร์กิต ตั้งแต่ปี 2016 (รวมรายการ European Grand Prix ในปีแรก)
- นิโค รอสเบิร์ก (Nico Rosberg) ปี 2016
- แดเนียล ริคคิอาร์โด (Daniel Ricciardo) ปี 2017
- ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) ปี 2018
- วาลต์เทรี บอตทาส (Valtteri Bottas) ปี 2019
- เซร์คิโอ เปเรซ (Sergio Pérez) ปี 2021 และ 2023
- แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน (Max Verstappen) ปี 2022 และ 2025
- ออสการ์ ปิแอสตรี (Oscar Piastri) ปี 2024
ทีมที่ชนะมากที่สุด
ทีมที่คว้าชัยชนะมากที่สุดในสนามบากู ซิตี้ เซอร์กิต คือ เรดบูลล์ เรซซิ่ง ด้วยชัยชนะ 5 ครั้ง โดยได้มาจากแดเนียล ริคคิอาร์โด ปี 2017เซร์คิโอ เปเรซ ปี 2021 และ 2023 แม็กซ์ เวอร์สแตปเพน ปี 2022 และ 2025
ระยะทาง และจำนวนโค้งของสนาม Baku City Circuit
ความยาวสนาม 6.003 กม. โค้ง 20 มี DRS โซน 2 โซน จำนวนรอบในการแข่งขัน 51 รอบ รวมระยะทางในการแข่งขัน 306.049 km กม. รวมจำนวนการเข้าโค้งตลอดการแข่งขั้นทั้งหมด 1,020 ครั้ง
รายละเอียดโค้งต่างๆ ของสนาม Baku City Circuit
- เซกเตอร์ 1: ความเร็วสูงและโค้งหักศอก
ส่วนนี้เริ่มต้นด้วยชุดโค้ง 90 องศา ทั้งซ้ายและขวาที่ตามมาจากทางตรงหลักที่ยาวที่สุดและทางตรงสั้นๆ อีกช่วงหนึ่ง การเบรกอย่างหนักในโซนนี้เปิดโอกาสให้เกิดการแซงได้อย่างมาก โดยเฉพาะที่โค้ง 1 ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะที่สุดหลังจากช่วงสลิปสตรีมบนทางตรงหลัก - เซกเตอร์ 2: ช่วงโค้งปราสาท
หลังจากผ่านโค้งหักศอก รถแข่งจะเข้าสู่ชุดโค้งต่อเนื่องกันที่ต้องใช้เทคนิค โค้ง 5 และ 6 เป็นชิเคนที่ต้องใช้ความแม่นยำเพื่อหลบกำแพง ส่วน โค้ง 7 เป็นโค้งขวาที่นำไปสู่ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของสนาม - ช่วงโค้งปราสาท (โค้ง 8-11) คือหัวใจสำคัญของสนามนี้ รถจะขับขึ้นเนินอย่างช้าๆ ในโค้งที่แคบที่สุด ของสนาม F1 โดยกว้างเพียง 7.6 เมตร การขับผ่านกำแพงเมืองโบราณนี้ต้องใช้ ความแม่นยำสูงสุด เพราะไม่มีพื้นที่ให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย การผ่านโค้งเหล่านี้ในเกียร์ต่ำต้องใช้สมาธิอย่างมาก และมักจะขับผ่านได้ทีละคันเท่านั้น
- เซกเตอร์ 3: ทางสุดท้ายสู่เส้นชัย
เมื่อออกจากช่วงโค้งปราสาท สนามจะกลับมากว้างขึ้น โค้ง 13 และ 14 เป็นโค้งซ้ายที่สามารถขับผ่านได้ด้วยความเร็วสูง ก่อนจะเข้าสู่โซนเบรกสำหรับโค้ง 15 และ โค้ง 16 ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายที่ต้องใช้ความเร็วปานกลาง การออกจากโค้งนี้ได้ดีถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะส่งผลต่อความเร็วในช่วงสุดท้ายของรอบ
โค้ง 17-20 ไม่ได้เป็นโค้งจริงๆ แต่เป็นชุดทางโค้งความเร็วสูงที่รถสามารถวิ่งได้เต็มที่ (Full Throttle) ซึ่งเชื่อมต่อกันเป็นทางตรงยาวกว่า 2.2 กิโลเมตรกลับสู่เส้นสตาร์ท-ฟินิช นี่คือจุดที่รถทำความเร็วสูงสุดและเป็น โซน DRS ที่สอง ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้สลิปสตรีมเพื่อแซงก่อนเข้าเส้นชัย
บทความที่คุณอาจสนใจ
- สนามแข่ง Formula 1 มีกี่สนามอยู่ประเทศอะไร ระยะทางเท่าไหร่ มีโค้งกี่จุด
- แรง G คืออะไร ทำไมสำคัญกับการแข่ง F1 นักขับต้องฝึกฝนร่างกายอย่างไร
- โปรแกรมฟอร์มูล่าวัน 2025 ลิ้งก์ดูสด เอฟวัน 2025 ถ่ายทอดสด F1 ผลเอฟวัน
- ไขปริศนาผ้าห่มวอร์มยาง Formula 1 ทำไมต้องห่มผ้า มีผลกับการแข่งอย่างไร
- รู้จัก Circuit Zandvoort สนาม Formula 1 ริมทะเล ประวัติศาสตร์ที่ห้ามพลาดก่อนชม
- ยางรถ Formula1 มีกี่แบบ ยาง f1 ใช้งานต่างกันอย่างไร ขนาดต่างกับรถอื่นขนาดไหน
- ประวัติทีม Scuderia Ferrari ม้าลำพองแห่ง Formula1 เคยได้แชมป์กี่สมัยนักขับระดับตำนานมีใครบ้าง
- ประวัติทีม Williams ทีมเก่าแก่ใน Formula1 จากยุครุ่งเรืองจนถึงยุคนักขับสายเลือดไทย
- ประวัติ Monaco Grand Prix ทำไมสนามแข่ง Circuit de Monaco แฟน Formula 1 ถึงตั้งตารอ
- เปิดค่าตัวนักแข่ง Formula1 ฤดูกาล 2025 แรงขนาดไหนใครยืนหนึ่ง
