ไทย VS มาเลเซีย วิเคราะห์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ของทีมชาติไทย วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 20.00 น. สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน, ประเทศไทย เกมนี้เป็น ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ของทีมชาติไทย เป็นการพบกันระหว่างเจ้าบ้าน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย และ "เสือเหลือง" มาเลเซีย ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน, ประเทศไทย ทางฝั่งทีมชาติชาติไทย นำมาโดย มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชคนชาวญี่ปุ่น ที่ทัวร์นาเม้นท์นี้มีข้อจำกัดในการเรียกตัวประมาณหนึ่ง เนื่องจากการแข่งขันนี้ไม่อยู่ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ถึงแม้จะมีการเลื่อนโปรแกรมลีกเพื่อหลีกทางให้แล้ว แต่มีโปรแกรมหลายนัดที่ถูกเลื่อนมาแข่งในช่วงนี้ โดยเฉพาะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เลื่อนโปรแกรมหลายนัดช่วงก่อนหน้านี้เพื่อ หลีกทางให้ไปแข่งฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และหลายสโมสรที่มีโปรแกรมแข่งกับปราสาทสายฟ้า ไม่สะดวกปล่อยตัวเต็มที่สักเท่าไร อีกปัจจัยหนึ่งคือ ลีกรองของไทย อย่าง เมืองไทยลีก ที่มีนักเตะหลายคนเข้าข่าย ก็ไม่ได้พักการแข่งขัน ยังมีการแข่งขันตามปกติด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวผู็เล่นที่เรียกมาในครั้งนี้ก็ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคว้าแชมป์เท่านั้น นัดแรกสามารถเอาชนะติมอร์ ได้ถึง 10 - 0 เรียกความมั่นใจได้เป็นอย่างดี ส่วนในฝั่ง ทีมชาติมาเลเซีย มีสถานการณ์การเรียกตัวผู้เล่นไม่ต่างกับทีมชาติไทย ทีมสโมสรใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย อย่าง ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ไม่ปล่อยผู้เล่นมาเช่นกัน ทำให้ขาดตัวหลักจำนวนมาก ผลงานในนัดที่ผ่านมาก็ไม่ดี เสมอกัมพูชา และเกืือบไม่สามารถเอาชนะ ติมอร์ เลสเต ได้ ก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขา โดย ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 ครั้งนี้จะแข่งในรูปแบบเดิม ในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งคู่อยู่สาย เอ ร่วมกับ ทีมชาติติมอร์ เลสเต, กัมพูชา และ สิงคโปร์ โดยจะเตะแบบเหย้า 2 นัด และเยือน 2 นัด พร้อมหาทีมแชมป์กับรองแชมป์กลุ่มผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โดยในรอบน็อคเอาท์ จะเตะแบบเหย้าเยือน ต่อไป ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม ไทย ชนะ : ติมอร์ เลสเต 0 - 10 ไทย (อาเซียนคัพ 2024) เสมอ : ไทย 1 - 1 ลาว (อุ่นเครื่อง) เสมอ : ไทย 0 - 0 เลบานอน (อุ่นเครื่อง) ชนะ : ซีเรีย 3 - 1 ไทย (คิงส์คัพ) ชนะ : ไทย 3 - 1 ฟิลิปปินส์ (คิงส์คัพ) มาเลเซีย ชนะ : มาเลเซีย 3 - 2 ติมอร์ เลสเต (อาเซียนคัพ 2024) เสมอ: กัมพูชา 2 - 2 มาเลเซีย (อาเซียนคัพ 2024) เสมอ: อินเดีย 1 - 1 มาเลเซีย (อุ่นเครื่อง) ชนะ : ลาว 1 - 3 มาเลเซีย (อุ่นเครื่อง) แพ้ : นิวซีแลนด์ 4 - 0 มาเลเซีย (อุ่นเครื่อง) การพบกันของ 2 ทีม 2023 : ไทย 3 - 0 มาเลเซีย (AFF Suzuki cup) 2023 : มาเลเซีย 1 - 0 ไทย (AFF Suzuki cup) 2022 : ไทย 0 - 0 มาเลเซีย (คิงส์คัพ) 2021 : ไทย 0 - 1 มาเลเซีย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) 2019 : มาเลเซีย 2 - 1 ไทย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก) ความพร้อมก่อนเกม ทีมชาติไทย ทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ในการเรียกตัวมาในรอบนี้ ไม่เต็มที่นักเน้นตัวที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากหลายสโมสรที่มีโปรแกรมแข่งขันก็ไม่ปล่อยตัวนักเตะ ทำให้ อิชิอิ ต้องเรียกผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะขอตัวได้ โดยมีสายเลือดใหม่ที่น่าสนใจหลายคน เช่น เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด, ศฤงคาร พรมสุภะ, กฤษดา นนทรัตน์, ทิตาธร อักษรศรี, เบนจามิน เดวิส, เสกสรรค์ ราตรี และ พาตริก กุสตาฟส์สัน โดยนัดนี้นักเตะมาสมทบครบทุกรายแล้ว แต่จะไม่มี เบน เดวิส ที่บาดเจ็บจากเกมก่อน ในเกมนี้คาดว่าจะยึดโครงระบบ 4 - 2 - 3 - 1 เช่นเคย ผู้รักษาประตูเกมนี้จะใช้ ปฏิวัติ คำไหม เซ็นเตอร์แบ็กใช้ พรรษา เหมวิบูลย์ ยืนคู่กับ โจนาธาร เข็มดี แบ็กสองข้างมี นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็คขวา และ ทิตาธร อักษรศรี ยืนซ้าย คู่กลางใช้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และ วิลเลียม เวเดอร์เฌอ คอยคุมเกม แผงเกมรุกสามคนเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เอกนิษฐ์ ปัญญา, สุภโชค สารชาติ กองหน้าตัวเป้าใช้ พาตริก กุสตาฟส์สัน ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : กรกฎ พิพัฒน์นัดดา – นิโคลัส มิคเกลสัน, โจนาธาร เข็มดี, พรรษา เหมวิบูลย์, ทิตาธร อักษรศรี – วีระเทพ ป้อมพันธุ์, วิลเลียม เวเดอร์เฌอ - ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เอกนิษฐ์ ปัญญา, สุภโชค สารชาติ - พาตริก กุสตาฟส์สัน ทีมชาติมาเลเซีย ทีมชาติมาเลเซีย ทีมอันดับ 137 ของโลก ที่มี เปา มาร์ตี้ กุนซือชาวสเปน คุมทีมมา มีการเรียกนักเตะ ลูกครึ่ง ที่ดีที่สุดเท่าที่เรียกตัวได้ในช่วงนี้ เกมนี้อาจจะขาด 6 นักเตะจาก สลังงอร์ และ ซาบาห์ ที่ต้นสังกัดเรียกกลับไปใช้งาน และอีก 3 รายที่บาดเจ็บจากเกมกับ ติมอร์ ทั้ง ดาร์เรน ล็อค, เฟอร์กัส เทียร์นี่ และ ซาฟิค อาหมัด คาดว่าเกมนี้ พวกเค้าจะน่าจะมาในระบบ 4 - 1 - 4 - 1 ผู้รักษาประตู กาลามุลเลาะห์ อัล-ฮาฟิซ แผงหลังมี ดีแคลน แรมเบิร์ต, โดมินิค ตัน, ฮาริต ไฮคาล และ ดาเนียล ติง กลางตัวรับเป็น แดเนียล อเมียร์ คู่กับ เซอร์จิโอ อเกวโร่ ส่วนแดนกลางดานบนใช้ นารุจดิน อัคมาล, เปาลู โจซูเอ้, ชาฟิก อะฮ์มัด และกองหน้าตัวเป้าเป็น เอ็นดริก ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : กาลามุลเลาะห์ อัล-ฮาฟิซ - ดีแคลน แรมเบิร์ต, โดมินิค ตัน, ฮาริต ไฮคาล, ดาเนียล ติง - แดเนียล อเมียร์, เซอร์กิโอ อเกวโร่ - นารุจดิน อัคมาล, เปาลู โจซูเอ้, ชาฟิก อะฮ์มัด - เอ็นดริก วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกม เกมนี้ เป็นพบกันของสองทีมใหญ่ของเอเชียนที่พบกันครั้งสุดท้ายใน AFF2023 โดย 5 นัดหลังที่พบกันค่อนข้างสูสี ทีมชาติไทยเอาชนะไปได้ 2 นัด เสมอ 1 นัด และ มาเลเซียชนะ 2 นัด ผลงานในช่วงหลังของแต่ละทีม ทีมชาติไทย ชนะ 3 นัด เสมอ 2 นัด ส่วน มาเลเซีย ชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 1 นัด จากฟอร์มนัดที่ผ่านๆมา ทีมชาติไทย ที่แม้ว่าจะพึ่งลงไปนัดเดียว แต่ฟอร์มค่อนข้างดูดีกว่า มาเลเซีย อย่างชัดเจน ในนัดนี้ ทัพช้างศึก ได้ตัวผู้เล่นมาสมทบครบแล้ว ขณะที่ มาเลเซีย นักเตะอาจจะต้องกลับไปรับใช้ต้นสังกัดจำนวนหนึ่ง ด้วยฟอร์มที่ผ่านมาของ มาเลเซีย ที่ไม่ดีเลยทั้งเกมรุก-เกมรับ ทำให้คาดได้ว่า ทีมชาติไทย จะสามารถผ่านได้ได้อย่างง่ายดาย ผลการแข่งขันที่คาด ทีมชาติไทย 2 - 0 ทีมชาติมาเลเซีย BY SILVER_SHARK ภาพปกที่ 1 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพปกที่ 2 : เพจ Football Association of Malaysia ภาพปกที่ 3 : เพจ Football Association of Malaysia ภาพปกที่ 4 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพปกที่ 5 : ธงชาติไทย ภาพปกที่ 6 : ธงชาติมาเลเซีย ภาพปกที่ 7 : โลโก้การแข่งขัน ภาพปกที่ 8 : ฺBackground ภาพประกอบที่ 1 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 2 : เพจ Football Association of Malaysia ภาพประกอบที่ 3 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 4 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ภาพประกอบที่ 5 : เพจ Football Association of Malaysia ภาพประกอบที่ 6 : เพจ Football Association of Malaysia ภาพประกอบที่ 7 : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !