วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกีฬาพื้นบ้าน ซึ่งเล่นแล้วสนุกสนาน และก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะด้วย เรียกได้ว่า เล่นกีฬาพื้นบ้าน ช่วยประสานสามัคคี เราเองก็ชอบมากต้องลงแข่งขันทุกครั้งเลยก็ว่าได้ คือ แข่งขันชักเย่อ นั่นเอง ใครอยากป็นนักกีฬาชักเย่อตามมาทางนี้ เริ่มต้นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ มีเชือกขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 20 – 30 เมตร จำนวน 1 เส้น ผ้าแดง 3 ผืน สำหรับใช้ผูกเป็นเครื่องหมายที่เชือก 3 ระยะ คือ ผืนหนึ่งผูกไว้ตรงกลางความยาวของเชือกอีก 2 ผืน ผูกไว้โดยวัดจากกึ่งกลางของเชือกออกไปข้างละ 2 เมตร แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละเท่า ๆ กันกำลังพอ ๆ กัน มีเส้นเขตกลางโดยการนำเชือกเส้นใหญ่ ที่มีความแข็งแรงพอจะทานกำลังผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ที่จะดึงเชือกนั้นมาซึ่งจะวางเชือกให้กึ่งกลางตรงเส้นเขตกลางพอดี โดยมีที่ว่างระหว่างกลางเหลือไว้ประมาณ 2 เมตร รวมทั้งผู้ตัดสินจะต้องไปยืนตรงเส้นเขตกลางนั้นด้วยเพราะถือเป็นเส้นชัย เชือกที่ใช้มักใช้เชือกขนาดพอกำรอบ ยาวพอที่จะให้ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายเรียงแถวจับได้ กลางเชือกคาดด้วยผ้าหรือใช้สีป้ายเป็นเครื่องหมายไว้ วางกึ่งกลางเชือกไว้บนพื้นที่ที่มีเส้นขีดกลางเป็นเส้นแบ่งเขตแดน เริ่มต้นการแข่งขัน โดยผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจับสลาก หรือไม้สั้นไม้ยาว ว่าใครจะอยู่ด้านไหน เมื่อได้สลากแล้ว ผู้เล่นจะไปยืนประจำที่ข้างเชือกที่วางกะระยะให้ห่างกัน พอให้ไม่ชนกันได้ เมื่อผู้ตัดสินให้สัญญาณ ทั้งสองฝ่ายจะลงมือดึงเชือก ขณะเอนตัวดึงเชือก เมื่อวางระยะดีแล้ว ผู้เล่นจะดึงเชือกให้สูงพอเอว พอสัญญาณเริ่มทั้ง 2 ฝ่าย จะเริ่มออกแรงดึงเชือก โดยพยายามดึงฝ่ายตรงข้ามให้เข้ามาในแดนของตัวเอง คนที่อยู่ต้นเชือกและหางเชือกเป็นคนสำคัญ ยิ่งในระหว่างดึงนั้น ถ้าผู้ใดเสียหลักยันพื้นไม่อยู่ก็จะเสียกำลัง ความสนุกอยู่ที่ผู้ให้สัญญาณ และผู้เล่นที่มีท่าทางสีหน้าต่างๆ กัน การแพ้ชนะอยู่ที่ฝ่ายไหนสามารถดึงอีกฝ่ายหนึ่งให้ลู่ตามไปถึงเส้นชัยจะเป็นฝ่ายชนะ การเล่นชนิดนี้ฝึกการทรงตัวและออกกำลังกายทั้งแขนและขาและความพร้อมเพรียง ในการแข่งขันจะแข่ง 3 ครั้ง (การเล่นในครั้งที่ 2 ต้องเปลี่ยนแดนกัน แต่ถ้าต้องตัดสินกันในเกมที่ 3 ต้องเสี่ยงเลือกแดนใหม่) ฝ่ายใดชนะ 2 ครั้งติดต่อกัน หรือชนะ 2 ใน 3 ครั้ง จะเป็นผู้ชนะโดยเด็ดขาด การเล่นกีฬาชักเย่อ สามารถสร้างความรัก และความสามัคคีให้แก่คนในประเทศได้ ดังนั้นพวกเราควรร่วมแรง ร่วมใจกัน สนับสนุนการเล่นกีฬาพื้นบ้าน เพื่อทำให้วงการกีฬาชักเย่อของไทย ให้ก้าวไกลไปสู่กีฬาสากลในระดับนานาชาติต่อไป