พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ : หญิงสาวผู้เป็นความหวัง 'เหรียญทองโอลิมปิกแรก' ให้วงการเทควันโดไทย | Main Stand

เมนสแตนด์

27 เมษายน 2564 ( 18:30 )

692

เยาวภา บุรพลชัย คือผู้ที่จุดกระแส เทคโวโด ฟีเวอร์ ในเมืองไทย จากผลงานเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2002 และเหรียญทองแดง จากการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2004 ซึ่งเป็นครั้งแรกของนักเทควันโดไทย ที่สามารถหยิบมาได้จากมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่สุดของโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น เยาวชนไทยจำนวนไม่น้อยถูกส่งเรียนเทควันโด กลายเป็นกีฬายอดฮิตขึ้นมาในชั่วพริบตา และทีมเทควันโดทีมชาติไทยก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ชนาธิป ซ้อนคำ กับเหรียญทองแดง รุ่นน้ำหนัก 49 กิโลกรัม ฝ่ายหญิง เมื่อปี 2012, พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองแดง รุ่นน้ำหนัก 49 กิโลกรัม ฝ่ายหญิง และเทวินทร์ หาญปราบ เหรียญเงิน รุ่นน้ำหนัก 56 กิโลกรัม ฝ่ายชาย ขาดเพียงแค่เหรียญทองเท่านั้นในระดับโอลิมปิก

จากกีฬาที่ไม่เคยเป็นตัวเต็งลุ้นเหรียญ ปัจจุบัน "เทควันโด" กลายเป็นความหวังสูงสุดใน โตเกียว เกมส์ และผู้ที่ถูกมองว่ามีโอกาสก้าวไปถึงเหรียญทอง คือ "พาณิภัค วงศ์พัฒนากิจ" หญิงสาวจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ย้อนกลับไปในโอลิมปิก เกมส์ 2016 พาณิภัค วัย 19 ปี ประเดิมมหกรรมโอลิมปิกหนแรกของตัวเอง ด้วยการคว้าเหรียญทองแดง

เวลาร่วม 5 ปีผ่านไปหลังจากวันที่เธอได้ยืนบนโพเดียม รับเหรียญทองแดงจากมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก พาณิภัคกลับมาสู่โอลิมปิก เกมส์ อีกครั้ง ด้วยประสบการณ์ และทักษะที่มากขึ้น จนกลายเป็นนักเทควันโดหญิง อันดับของโลก 1 ในรุ่นน้ำหนัก 49 กิโลกรัม ตามการจัดอันดับแรงค์กิงโลก

เทนนิส- พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ.1997 ณ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ครอบครัวของเธอมีรากฐานผูกพันกับกีฬา คุณพ่อ "สิริชัย วงศ์พัฒนกิจ" เป็นอดีตนักฟุตบอล, กรีฑา และว่ายน้ำ ขณะที่คุณแม่ "วันทนา วงศ์พัฒนกิจ" ก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำเช่นกัน

ในขณะพี่น้องร่วมสายเลือดของ เทนนิส หันไปเอาดีด้านกีฬาว่ายน้ำ ตามรอยคุณพ่อคุณแม่ พาณิภัค เลือกเส้นทางที่ต่างออกไป ด้วยการเล่นกีฬาเทควันโด ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ หากแต่เส้นทางของเธอไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะร่างกายของเธอไม่ค่อยแข็งแรงนัก แพ้แม้กระทั่งผงชูรส

พาณิภัค พยายามเอาชนะขีดจำกัดด้านร่างกาย ด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อพิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นว่า เธอสามารถเป็นนักกีฬาที่ดีได้เช่นกัน และทุกอย่างมาออกดอกออกผล หลังจากเธอคว้าเหรียญทอง จากรุ่น 42 กิโลกรัม ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาครองได้สำเร็จ

ความสำเร็จในครั้งนั้นเปิดประตูให้เธอเข้าสู่ทีมชาติไทย แต่ก็ไม่มีอะไรง่าย เพราะ พาณิภัค ต้องเดินทางมากกว่า 600 กิโลเมตรทุกสัปดาห์ ระหว่างสุราษฎร์ธานี กับกรุงเทพมหานคร สูญเสียทั้งทุนทรัพย์ และแรงกาย เพื่อท้าทายตัวเอง กับการลงสนามครั้งใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

การเสียสละ และแรงสนับสนุนจากครอบครัว กลายเป็นพลังให้พาณิภัคทำงานอย่างหนัก ผลตอบแทนที่ตามมาคือความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเธอ ทั้งเหรียญเงินจากการแข่งขันซีเกมส์ และเอเชียนยูธเกมส์ ในปี 2013, เหรียญทองยูธโอลิมปิก ในปี 2014, เหรียญทองซีเกมส์ และเทควันโดชิงแชมป์โลก ในปี 2015 รวมถึงเหรียญทองแดงจากการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2016

ความสำเร็จของเธอลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน พาณิภัค คือ นักกีฬาที่มีดีกรีเป็นเจ้าของเหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก 2 ครั้ง, เหรียญทองเทควันโดชิงแชมป์โลก 2 ครั้ง, เหรียญทองซีเกมส์ 2 ครั้ง, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 1 ครั้ง จากการแข่งขันในปี 2018

จนถึงตอนนี้เหลือเหรียญทองเพียงเหรียญเดียว จากมหกรรมกีฬานานาชาติที่เธอยังไม่ได้รับ คือ โอลิมปิก เกมส์

จากเด็กน้อยคนหนึ่งที่อยากเล่นเทควันโดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ตอนนี้ความฝันของเธอกลับกลายเป็นการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก อันเป็นความสำเร็จสูงสุดในอาชีพของนักกีฬาสมัครเล่น และความสุขของคนไทยทั้งชาติ

แต่ถึงจะประสบความสำเร็จมากขนาดไหน ภายใต้การผลักดันของ "โค้ชเช" ชเว ยองซอก ทำให้ พาณิภัค ยังคงต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่ต่างกับนักกีฬาที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในเวทีไหนมาก่อน เธอต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด และซ้อมจนถึงค่ำ เหมือนกับตอนเป็นนักกีฬาหน้าใหม่

ผ่านบททดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า เคยมีประสบการณ์ต้องลงแข่งขัน ทั้งที่ร่างกายบาดเจ็บมาแล้ว ซึ่งการต้องต่อสู้อย่างหนัก ในทุก ๆ วัน อาจเป็นเคล็ดลับที่ทำให้เธอรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยม มีการพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

หากมองย้อนกลับไป เส้นทาง "กว่าจะได้ไปโตเกียว" ของพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหมือนจะไม่มีอะไรยาก หากแต่แท้จริงแล้วเธอต้องพบกับบททดสอบมากมาย ทั้งความพ่ายแพ้ที่โหมกระหน่ำใส่เธอ ตลอดช่วง 2-3 ปีแรก, การเดินทางจากบ้านเพื่อมาฝึกซ้อมหลายร้อยกิโลเมตรในทุกสัปดาห์, ฝึกซ้อมอย่างหนักไม่มีพัก รวมถึงอาการบาดเจ็บที่เล่นงาน เป็นความเหนื่อยล้า ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ

หากแต่ไม่มีครั้งใดครั้งหนึ่งที่เธอตัดสินใจยอมแพ้ จนพาตัวเองก้าวมาเป็นเต็ง 1 ได้สำเร็จ สุดท้ายแล้ว พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จะสามารถทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้หรือไม่ ? และคนไทยจะมีฮีโร่เทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก เกมส์ จากกีฬาเทควันโด หรือไม่ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะได้รู้กัน