ทำยังไงให้เข้าล็อก  : การปรับตัวของนักเตะใหม่ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยากเย็นไฉน ? | Main Stand

ปอล ป็อกบา ทำท่าจะย้ายออกไปฟรี ๆ อีกครั้งจากที่เคยซื้อตัวมาเกือบ 100 ล้านปอนด์, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค และ เจดอน ซานโช่ ตัวสำรองราคารวมกัน 115 ล้านปอนด์, แฮร์รี่ แมคไกวร์ ที่ 3 วันดี 4 วันไข้ กับสถิติกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก และอีกมากมายหลายดีลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ 

พวกเขาเหล่านี้เก่งกับทีมเก่ามากมาย จนสุดท้ายปีศาจแดงต้องควักเงินก้อนโต ทว่าเมื่อมาเล่นจริง ๆ กลับทำได้ไม่ใกล้เคียงกับฟอร์มเก่า ๆ ที่เคยทำได้ 

การเป็นนักเตะของ ยูไนเต็ด นั้นยากเย็นขนาดไหน มีปัจจัยอะไรบ้างหากอยากประสบความสำเร็จที่นี่ ... ติดตามได้ที่ Main Stand 

จุดเริ่มต้นที่ ยูไนเต็ด เวย์ ... กับโลกยุคใหม่ 

คำว่า ยูไนเต็ด เวย์ ไม่ใช่ประโยคใหม่สำหรับสโมสรแห่งนี้ นี่คือสิ่งที่แม้แต่สำนักข่าวที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษอย่าง BBC ก็เคยพยายามลงลึกและเจาะหารายละเอียดมาแล้ว ซึ่งในความสำคัญของประโยคนี้มีความหมายกับทีมตรงที่ "มันคือปรัชญาของสโมสร" 

ยูไนเต็ด เวย์ หรือ วิถีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับการขยายความจาก BBC ว่า พวกเขาจะต้องเป็นทีมที่อยากจะชนะมากกว่าทีมอื่น ๆ และตอบแทนแฟน ๆ ด้วยวิธีการที่เอ็นเตอร์เทนที่สุด นี่คือภาพกว้าง ๆ ของปรัชญานี้ 

"อีกไม่กี่วันผู้คนทั้ง แมนเชสเตอร์ จะมาดูพวกแกเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์ในโรงงานที่จ่ายค่าแรงต่ำเพื่อมาดูพวกแกลงสนามในวันเสาร์ ... แค่งานและชีวิตแต่ละวันของพวกเขาก็น่าเบื่ออยู่แล้ว ดังนั้นพวกแกจะต้องขุดทุกสิ่งที่ตัวเองมีออกมา แสดงความเอ็นเตอร์เทนที่พวกเขาโหยหาซะ" นี่คือสิ่งที่ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ตำนานกุนซือของทีมมักจะพูดเสมอ และเรื่องนี้ถูกถ่ายทอดโดย เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน นักเตะในยุคนั้น 

จากที่ บัสบี้ กล่าวมา อาจจะทำให้เราเห็นภาพของทีมที่เน้นเกมบุก เล่นสนุก ใช้ปีกสองข้างที่มีความเร็วเจาะแนวรับคู่ต่อสู้ ... แค่นี้ก็น่าจะหมายความว่าเป็นบอลเอ็นเตอร์เทนได้แล้ว ทว่ารายละเอียดเชิงลึกของ "วิถีของ แมนฯ ยูไนเต็ด" ไม่ใช่แค่วิธีการและแทคติก แต่มันเป็นเรื่องของทีมที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งยิ่งกว่าทีมอื่นที่ต้องเผชิญหน้ามากกว่า 

"จริง ๆ มันมีอะไรมากกว่าวิธีการเล่นเยอะ หลักใหญ่ใจความคือความแข็งแกร่งของสภาวะทางจิตใจของนักเตะในทีม ... นักเตะของทีม ๆ นี้ต้องมีความแตกต่าง พวกเขาอาจจะแพ้บ้าง อาจจะไม่ใช่ทีมที่ชนะแบบไร้เทียมทาน แต่นักเตะยูไนเต็ดต้องไม่เหมือนใคร ไม่ตามรอยใคร แต่เราต้องเป็นแบบอย่างที่ทีมอื่นต้องมาดูเป็นตัวอย่างต่างหาก" ฌอน โบนส์ รองประธานแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว กับ BBC 

การเป็นทีมที่ไม่ยอมแพ้ มีหัวใจนักสู้ มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสูง และชอบเป็นฝ่ายเดินหน้ามากกว่าเป็นฝ่ายตั้งรับ คือสิ่งที่เราได้รับรู้จากบทสัมภาษณ์ของทั้ง ชาร์ลตัน และรองประธานแฟนบอลของทีม

ดังนั้นนี่คือเหตุผลแรกที่นักเตะหลายคนไปไม่รอดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาซื้อตัวไม่ตรงกับคาแร็คเตอร์และสิ่งที่ทีมเป็นมาโดยตลอด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องยอมรับว่ามันเห็นภาพชัดจริง ๆ นับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน... 

อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเริ่มฟังดูเหมือนกับมันเป็นเรื่องโบราณและเอาของเก่ามาเล่าซ้ำ ... แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เราไม่ได้กำลังจะบอกว่า ยูไนเต็ด เวย์ คือสิ่งที่ถูกต้องแน่นอน 100% เพราะในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดจีรัง อะไรที่เคยดีก็ใช่ว่าจะดีตลอดไปแบบไม่มีข้อผิดพลาด และ ยูไนเต็ด เวย์ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพราะเมื่อเวลาเดินไปไม่หยุด การเกาะอยู่กับสิ่งเดิม ๆ ไม่พลิกแพลงก็อาจจะทำให้ตกยุคได้ง่าย ๆ

ย้อนอดีตกลับไปสักหน่อย แมนฯ ยูไนเต็ด เคยขึ้นชื่อเรื่องการเป็นทีมที่มีกฎระเบียบภายในทีมที่เฮี้ยบมาก กฎยิบย่อยมากมายเกิดขึ้นโดยเฉพาะในยุคของ เฟอร์กูสัน กฎเหล่านี้ประกอบด้วย นักเตะดาวรุ่งห้ามใส่สตั๊ดมีสีสันฉูดฉาด, ห้ามขับรถหรูนอกจากรถที่สโมสรเตรียมไว้ให้, ห้ามปาร์ตี้ในคืนก่อนแข่งเด็ดขาด, นักเตะดาวรุ่งต้องรับระบบซีเนียร์ มีการขัดรองเท้าให้รุ่นพี่ และมีรุ่นพี่เป็นคนคอยดูแลเรื่องต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่อยู่กับทีม กฎเหล่านี้มีขึ้นเพื่อไม่ให้นักเตะในการดูแลของเขาทะนงตัวว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลก ตัวลอยไปไกลจนเท้าไม่ติดดิน ซึ่งหากปล่อยไว้ก็จะทำให้นักเตะไม่มีพัฒนาการอย่างที่ควรจะเป็น 

นั่นคือเรื่องของยุคเก่าแล้ว และถามว่าจะได้ผลหรือไม่ ก็คงต้องให้ความสำเร็จทั้งหมดในยุคเฟอร์กี้เป็นคำตอบ ... อย่างไรก็ตามไม่มีการรับประกันได้ว่าวิธีเก่า ๆ หากเอามาปรับใช้ในยุคใหม่มันจะเวิร์กหรือไม่ นี่คือยุคที่ทุกคนมีเสรีภาพ และมีสัดส่วนการทำงานกับชีวิตส่วนตัวชัดเจน หากมีการตามจี้กันทุกเม็ดเหมือนยุคนั้น แทนที่นักเตะจะเคารพและเกรงอำนาจ นักเตะอาจจะเตลิดและสร้างปัญหาแทนก็ได้ใครจะรู้

สำหรับทีมยักษ์ใหญ่ของโลก ไม่มีทีมไหนปกครองนักเตะด้วยการใช้ความกลัวหรือวิธีล้างสมองกันได้อีกแล้ว เราได้เห็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ที่นักเตะระดับท็อปทำตัวใหญ่กว่าสโมสร ดังนั้นคนที่รับตำแหน่ง "นายใหญ่" หรือผู้ที่ใกล้ชิดนักเตะในทีมมากที่สุดมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการทำทีมในยุคนี้ พวกเขาจะต้องมีวิธีครองใจคนให้ได้ ไม่ใช่แค่บู๊แต่ต้องบุ๋นด้วย ไม่ใช่แค่เฮี้ยบแต่ต้องอยู่เคียงข้างด้วย ไม่ใช่แค่วางแทคติกแบบ "โค้ชชิ่ง" แต่พวกเขาต้องเป็นเหมือน "ทีชชิ่ง" หรือคุณครูที่ต้องบอกและสอนให้นักเตะรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด 

หากจะให้เปรียบภาพให้เห็นชัด ๆ คงต้องขอยกกรณีของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สำหรับการจัดการทีมของพวกเขา กุนซือระดับโลก 2 คนนี้ เอานักเตะในทีมอยู่และมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปในแบบของตัวเอง คล็อปป์ เชื่อมั่นในการดึงศักยภาพนักเตะโดยให้ความสำคัญกับระบบทีม หลายครั้งเขาสามารถสร้างนักเตะที่ดูเหมือนธรรมดาให้กลายเป็นนักเตะระดับโลกได้ อาทิ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือยุคที่เขาคุมดอร์ทมุนด์อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ มาริโอ เกิตเซ่ เป็นต้น 

ขณะที่ เป๊ป เองก็ลงรายละเอียดชัดเจนเพื่อให้นักเตะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อสาร ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป๊ป เปรียบได้กับคนที่สอนเขาให้มองวิธีการเล่นฟุตบอลแบบใหม่เลยด้วยซ้ำ เพราะ เป๊ป จี้นักเตะในรายละเอียดส่วนตัวตลอดทั้งการซ้อม ต่อให้ซ้อมดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่ตรงใจเขา เป๊ป ก็จะเป่านกหวีดให้เริ่มซ้อมใหม่อีกครั้ง เขาปรับแม้กระทั่งองศาการยืนการรับบอล ... งานของ เป๊ป จริงจังถึงขนาดนั้นเลยทีเดียว 

พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำให้นักเตะกลัวแต่ทีมก็ประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่านักเตะคนไหนที่เข้ามาก็สามารถสอนให้เขาใจวิธีการเล่นจนนักเตะปรับตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว ... ซึ่งเราต้องยอมรับว่าถ้า ยูไนเต็ด เวย์ จะเวิร์กก็ต้องได้กุนซือที่สามารถเอามันมาปรับเข้ากับโลกฟุตบอลยุคใหม่ได้ และ ณ ตอนนี้พวกเขายังไม่เจอคน ๆ นั้น คนที่จะทำให้นักเตะคนเดิมกลายเป็นนักเตะที่เก่งขึ้น 

โค้ชก็เกี่ยว แต่การเลือกซื้อนักฟุตบอลก็มีผล 

ที่ร่ายยาวมาทั้งหมดนี้เรากำลังจะบอกว่านักเตะค่าตัวแพงของ ยูไนเต็ด ที่ล้มเหลวหลาย ๆ คนทั้ง อังเคล ดิ มาเรีย, ปอล ป็อกบา, อเล็กซิส ซานเชซ หรือใครคนอื่น ๆ อีกมากมาย พวกเขาถูกกุนซือที่แตกต่างกันซื้อตัวเข้ามาร่วมทีม กุนซือแต่ละคนมีวิธีการปกครองและวางตัวกับนักเตะของพวกเขาในแบบของตัวเองทั้งสิ้น ทั้ง ๆ ที่หลายคนก็ได้ฉายาว่าจอมเฮี้ยบ ไม่ว่าจะทั้ง หลุยส์ ฟาน กัล หรือ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนต่างก็มีปัญหาเรื่องการควบคุมห้องแต่งตัวทั้งสิ้น 

ทุก ๆ ปี ยูไนเต็ด มักจะมีข่าวลือหลุดมาตลอดว่านักเตะในทีมไม่พอใจสถานะของตัวเอง ไม่ชอบใจแนวทางของโค้ช หรือไม่ชอบวิธีการเล่นของทีม จะจริงหรือไม่เรื่องนี้เราไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ไม่มีมูลหมาไม่มีทางคุ้ยอยู่แล้ว และนักเตะของ ยูไนเต็ด ก็มักจะให้สัมภาษณ์กระทบถึงกุนซือของพวกเขาตลอด เรื่องนี้เราจะโทษกุนซือก็ย่อมได้ แต่ไม่มีทางที่โค้ชจะเป็นเหตุผลทั้งหมดของการซื้อตัวที่ล้มเหลวแน่นอน 

นักเตะที่ดีคือนักเตะที่รู้หน้าที่ตัวเอง เข้าใจวิธีการเล่นของทีม มีความเป็นมืออาชีพ และคำนึงถึงทีมเป็นอันดับแรก เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นเป็นทีม หากมีทีมที่แข็งแกร่งพวกเขาก็จะประสบความสำเร็จ และสิ่งดี ๆ ก็จะย้อนกลับไปที่ตัวนักเตะเอง กลับกันถ้าพวกเขาไม่คำนึงถึงความสำเร็จของทีมเป็นอันดับแรก สิ่งแย่ ๆ ก็จะย้อนกลับเข้าตัวพวกเขาเช่นกัน ยิ่งกับสื่อสมัยนี้ที่เน้นขยี้ข่าวฉาว ซ้ำเติมทีมที่กำลังสภาพแย่ด้วยข่าวลือข่าวลวงต่าง ๆ ที่ยิ่งส่งผลให้แย่ตามกันไปหมด 

ดังนั้นการซื้อนักเตะไม่ใช่แค่การเลือกคนที่เก่ง แต่ต้องเลือกคนที่เหมาะกับสไตล์การทำทีม มีทัศนคติตรงกัน และต้องเป็นคนที่ซื้อมาแล้วทำให้มีความสามัคคีเกิดขึ้นในทีม ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่า ยูไนเต็ด ยังอ่านได้ไม่ขาดนัก นักเตะบางคนเก่งมากแต่ก็เล่นไม่เข้ากับทีม อาทิ ป็อกบา, ซานเชซ และ ดิ มาเรีย ส่วนบางคนก็ทัศนคติดี ใจสู้ ไม่ปริปากบ่น พร้อมทำงานหนักแต่ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ในแง่ของฝีเท้าและผลงานในสนาม แม้หลัง ๆ จะมีทิศทางการซื้อตัวที่ดีขึ้น คือซื้อแล้วใช้งานได้ต่อเนื่อง เป็นตัวหลักได้ เช่น บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เอดินสัน คาวานี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ถ้าอยากจะเป็นทีมแถวหน้าก็ต้องได้นักเตะลักษณะเดียวกับกลุ่มนักเตะที่กล่าวมาข้างต้นมาให้ได้ในทุกตลาดซื้อขาย   

ตัวผู้เขียนเองก็คงไม่สามารถบอกได้ว่าการคัดสรรนักเตะให้ตรงตามตำราทั้งฝีเท้าและทัศนคตินั้นต้องทำอย่างไร เพราะสิ่งนี้คือหน้าที่ของโค้ชและทีมซื้อขายที่ต้อง "คุยให้เคลียร์" เพื่อให้ได้คนที่ลงล็อก และสามารถเข้ามาทำให้ทีมดีขึ้นได้จริง ๆ โดยไม่ต้องมารู้สึกเสียดายเงินสักแดงต่อให้จะซื้อมาแพงแค่ไหนก็ตาม 

ลงล็อกแล้วเป็นยังไง ? 

เมื่อได้นักเตะที่ลงล็อกมาแล้วจะเป็นยังไง เราคงไม่ต้องอธิบายกันมากนัก คุณดูสิ่งที่ บรูโน่ และ โรนัลโด้ ทำให้กับ ยูไนเต็ด ในเวลานี้เอาก็ได้ พวกเขาลงสนามและเป็นนักเตะระดับ "เดอะ แบก" ของทีม สามารถชี้ขาดผลการแข่งขันได้ด้วยตัวเอง และทีมยังต้องพึ่งความมหัศจรรย์จากพวกเขาอยู่เสมอ 

นอกจากนี้บทบาทนอกสนามของ โรนัลโด้, บรูโน่ หรือแม้กระทั่ง คาวานี่ ก็แสดงให้เห็นว่าทำไมพวกเขาจึงเป็นนักเตะที่ถูกต้อง และนักเตะที่ถูกต้องไม่ต้องการข้อเรียกร้องใด ๆ ในการปรับตัวกับทีมทั้งสิ้น ... ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจพวกเขาก็กลายเป็น "กลุ่มผู้นำ" ของทีมได้ในทันที 

การปรับตัวในฐานะนักเตะ ยูไนเต็ด ของ โรนัลโด้, บรูโน่ และ คาวานี่ มาจากการที่พวกเขารู้วิธีรับมือกับความกดดัน เมื่อสโมสรแห่งนี้ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ความคาดหวังอันสูงส่งจากแฟนบอลก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ … วันใดที่ยูไนเต็ดแพ้ วันนั้นคือเรื่องใหญ่  

พวกเขาทั้งหมดที่กล่าวมาอาจจะไม่ได้ทำให้ทีมชนะทุกนัด แต่พวกเขาจะไม่ยอมให้ทีมย่ำแย่โดยไม่คิดจะสู้ต่อ เมื่อทีมโดนยิงต้องพยายามยิงกลับให้ได้ เกมนี้แพ้เกมหน้าต้องดีกว่านี้  

นักฟุตบอลยุคใหม่มักออกมาโพสต์ว่าผิดหวังบนโซเชียลมีเดียของพวกเขาหลังทีมแพ้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการแสดงมันออกมาว่าคุณผิดหวังกับมันจริง ๆ และทำให้เห็นว่าคุณอยากชนะแค่ไหนในท้ายที่สุด 

เอดินสัน คาวานี่ มาด้วยค่าตัวฟรี พร้อมสถิติยิงมากกว่า 400 ประตูตลอดชีวิตค้าแข้ง มากกว่ากองหน้าทุกคนในทีม ยูไนเต็ด ยิงรวมกันด้วยซ้ำ และเมื่อเขามาถึงเขาก็รับบทบาทเป็นรุ่นพี่ที่ดี คอยให้คำแนะนำนักเตะอย่าง เมสัน กรีนวูด และคนอื่น ๆ อีกทั้งเมื่อลงสนาม คาวานี่ คือกองหน้าที่วิ่งสุดทุกจังหวะ บางเกมทีมโดนนำขาดไปแล้ว แต่ คาวานี่ ก็ยอมวิ่งแบบตีรถเปล่าเหนื่อยฟรี ซึ่งจุดนี้ทำให้เขาเป็นที่รักของแฟนบอล แม้จะใช้เวลาด้วยกันมาไม่นาน 

ขณะที่ บรูโน่ คือคนที่เข้ามาในช่วงที่ทีมกำลังย่ำแย่ ไม่มีผู้นำในสนาม แต่จากการซ้อมเพียงไม่กี่ครั้ง เขาเรียกบอลจากเพื่อนร่วมทีม ตะโกนโหวกเหวกในสนามซ้อม เรียกร้องความมุ่งมั่นที่มากกว่านี้จากผู้เล่นคนอื่น ๆ และเมื่อบวกกับการเป็นคนที่เก่งอยู่แล้ว บรูโน่ ก็ซื้อใจเพื่อนร่วมทีมได้ และกลายเป็นนักเตะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่า "มีเขาอยู่ในสนามเรายังมีโอกาสชนะเสมอ" 

"เขาเป็นคนที่มีพลังมาก ๆ เป็นผู้เล่นหมายเลข 10 ที่ต้องการบอลตลอด แต่เขาเปรียบเสมือนอากาศที่สดชื่น มีบุคลิก และนั่นคือสิ่งที่สโมสรแห่งนี้ต้องการ เขามีสิ่งนั้นซึ่งผมพอใจมาก" นี่คือสิ่งที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางดาวรุ่งของทีมปีศาจแดงกล่าวถึง บรูโน่  

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ โรนัลโด้ เขานั้นถือเป็นนักเตะใหม่หน้าเก่าที่เข้ามาอยู่กับทีมในซัมเมอร์นี้ ด้วยวัย 36 ปี และด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จที่ผ่านมา โรนัลโด้ สามารถวางตัวเป็นลูกพี่ได้อยู่แล้ว แต่เขาก็แสดงออกด้วยการพยายามบอกและสอนรุ่นน้องในทีมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ควรทำ ในการซ้อมก็ทุ่มเท ในการแข่งจริงก็แสดงให้เห็นด้วยผลงานว่าหากขยันซ้อม มีความรับผิดชอบ และไม่ย่อมแพ้ จะมีผลดีอะไรตามมา 

"ผมกลับมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ด้วยเหตุผล 2 ประการ" 

"ข้อแรกเป็นเพราะผมรักสโมสรแห่งนี้ ส่วนข้อสองคือผมรักจิตวิญญาณของการเป็นผู้ชนะที่ถูกปลูกฝังมากับทีมทุกรุ่นของสโมสรแห่งนี้ ผมไม่ได้กลับมาเพื่อที่จะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ถ้าพวกคุณอยากประสบความสำเร็จ ผมก็ต้องการให้พวกคุณรักสโมสรแห่งนี้จากก้นบึ้งของหัวใจจริง ๆ พวกคุณต้องกิน นอน และสู้เพื่อสโมสรแห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะได้ลงเล่นหรือไม่ คุณก็ต้องให้การสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมของคุณ และทุ่มเทให้สโมสร 100 เปอร์เซ็นต์เต็มอยู่เสมอ"

"ผมมาที่นี่ก็เพื่อที่จะเป็นแชมป์เท่านั้น การเป็นแชมป์จะทำให้เรามีความสุข ผมอยากมีความสุข แล้วพวกคุณล่ะ ?" นี่คือสิ่งที่ โรนัลโด้ กล่าวในเกมเปิดตัวรอบที่ 2 ก่อนเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ที่เขาช่วยยิง 2 ประตูให้ทีมชนะ 4-1 

ต่อให้ โรนัลโด้ ไม่ต้องพูดอะไร ใคร ๆ ก็สามารถรับรู้ถึงความเป็นคนที่ใช่ของเขาได้อยู่ดี หลายคนอาจจะมองว่าเขาเป็นคนทะเยอทะยานกับความสำเร็จส่วนตัว นั่นคือเรื่องจริงแต่ไม่ทั้งหมด เพราะนักเตะอย่าง โรนัลโด้ จะมีความสุขที่สุดก็ต่อเมื่อทีมของเขาเป็นผู้ชนะและประสบความสำเร็จ ดังนั้นเราจึงเห็นเขาสู้ไม่ถอย ไม่ลดละความพยายาม และมักจะเป็นคนที่ทีมต้องมองหาเมื่อต้องการใครสักคนที่จะมากอบกู้ในสถานการณ์ที่คับขัน 

"ผมว่านักเตะและแฟน ๆ ของ ยูไนเต็ด คงไม่ต้องการอะไรจากโรนัลโด้มากกว่าสิ่งที่เขาเป็น ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับเขา เขาจะปรากฏตัวเสมอเมื่อทีมต้องการ" ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวชม โรนัลโด้ ในการยิง 2 ประตู ในเกมที่ช่วยให้ ยูไนเต็ด บุกเสมอกับ อตาลันต้า 2-2 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ผ่านมา 

นักเตะ 3 ชื่อที่กล่าวมาช่วยบอกคุณรู้ว่า "นักเตะที่ใช่" สำหรับทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง พวกเขาพยายามอย่างหนัก ปรับตัวเขาหาทีม และต่างคนก็มีความทุ่มเทในแบบที่แตกต่างกันออกไป 

หาก ยูไนเต็ด อยากจะเป็นทีมที่ "เกาะกันเป็นกลุ่ม" และไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ พวกเขาก็ควรเลือกซื้อนักเตะแบบที่เป็นที่พึ่งได้ทั้งในและนอกสนามเหมือนกับ 3 คนนี้ 

และที่สำคัญที่สุดก็ต้องไม่ลืมด้วยว่านักเตะคนอื่น ๆ แม้จะไม่เก่งเท่าก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญ นักเตะทุกคนล้วนต้องการการสอน การดูแล แนะนำ เพื่อให้พวกเขาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับทีมได้มากที่สุด ... หากใครที่ไม่ใช่ก็ไม่ต้องเสียเวลา เพราะความสงสารและความเห็นใจนั้นไม่ถือว่าเป็นคุณสมบัติของมืออาชีพ 

นักเตะที่ขยัน ทัศนคติดี และทำผลงานได้ดี ก็ควรได้รับการตอบกลับและมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ ... เมื่อทุกอย่างสัมพันธ์กัน เราจะได้นักเตะที่พร้อมเล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง และทีมสำคัญคือ ยูไนเต็ด จะสามารถใช้คำว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีขึ้นได้จริง ๆ 

ยูไนเต็ด เวย์ ต้องถูกนำมาปัดฝุ่นและอัพเดตให้ตรงกับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน หาคนที่ใช้ให้เจอทั้งคนสอนและคนเรียนรู้ นี่คือส่วนผสมที่ถูกต้องที่สุด และจะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมที่ไม่แพ้ใครง่าย ๆ ด้วยนักเตะที่ทำให้ทุกทีมต้องเกรงกลัวอีกครั้ง 

สุดท้ายนี้ สำหรับแฟนของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีอะไรที่คู่ควรไปกว่า บัตรเครดิต กรุงศรี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นบัตรเครดิตบัตรเดียวที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ไม่ใช่แค่ใช้แทนเงินสดได้เท่านั้น แต่ยังมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่สามารถ "สานฝัน" แฟนบอลปีศาจแดงทุกคนได้อีกด้วย

เพราะทุกครั้งที่คุณใช้บัตรนี้ ในวันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงแข่งขัน จะสามารถสะสมแต้มได้เพิ่มอีก 2 เท่า หากแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะในเกมธรรมดาจะได้รับแต้มสะสม 4 เท่า และหากชนะในเกมใหญ่ รับเพิ่มไปเลย 8 เท่า

แต้มเหล่านี้ที่คุณได้รับจะสามารถสะสมเพื่อใช้แลกซื้อของที่ระลึกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบ Limited Edition ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถสานฝันแฟนผีด้วยการไปชม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ด้วยตาของตัวเอง โดยสามารถแบ่งชำระ 0% ได้นานสูงสุด 6 เดือน

หากสนใจจะจับจองเป็นเจ้าของบัตรเดียวครบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แฟนบอลปีศาจแดงแบบนี้

คลิกเพื่อสมัครบัตรได้เลยที่ https://kcc.gg/Apply-ManUTD

หรือ ติดต่อ 02-646-3555 สายด่วนบัตรกรุงศรีอยุธยา ตลอด 24 ชั่วโมง

แหล่งอ้างอิง

https://www.skysports.com/football/news/11095/12458637/cristiano-ronaldo-impact-at-man-utd-like-michael-jordan-says-ole-gunnar-solskjaer-raphael-varane-injury-not-looking-good
https://www.goal.com/en-ae/news/ronaldo-not-man-utd-problem-keeping-them-afloat/1rqw1jftwci681c0g6twqml00b
https://www.bbc.com/sport/football/27163758
https://hbr.org/2013/10/fergusons-formula
https://www.manutd.com/en/news/detail/cristiano-ronaldo-interview-with-sky-sports-before-man-utd-v-liverpool-on-24-oct-2021
https://www.manutd.com/en/news/detail/exclusive-bruno-fernandes-interview-full-transcript-dec-2020
https://www.manutd.com/en/news/detail/edinson-cavani-interview-about-new-man-utd-contract-on-10-may-2021
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คนนี้ไหวมั้ย!! ร็อดเจอร์ส ขึ้นเต็ง 1 กุนซือ แมนยู คนใหม่ หากปลด โซลชา
• โอเล่รอดได้ยังไง? เทียบผลงาน โซลชา กับ 5 กุนซือพรีเมียร์ลีก ที่โดนปลดในซีซั่นนี้

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก