ฟานไดค์กองหลังคนสำคัญในยุคคล็อปป์ถ้าหากเราพูดถึงผู้เล่นลิเวอร์พูลในชุดของการคุมทีมของกุนซือชาวเยอรมันเจอร์เก้น คล็อปป์ เราอาจจะนึกถึงโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ รวมไปถึงปราการหลังคนสำคัญของทีมอย่างเวอร์จิล ฟานไดค์ ผู้เล่นชาวดัตช์คนนี้ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลกลับมาเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอีกครั้งเส้นทางพรีเมียร์ลีกของฟานไดค์เวอร์จิล ฟานไดค์ ด้วยวัย 24 ปี เริ่มต้นอาชีพบนเกาะอังกฤษกับทีมนักบุญเซา แทมป์ตัน ในปี 2015 ภายใต้การคุมทีมของโรนัลด์ คูมัน และในฤดูกาล 2015/2016 เขามีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับทีม จนสามารถพาทีมติดท็อป 6 ของพรีเมียร์ลีกได้ของพรีเมียร์ลีกได้ ด้วยการเล่น 38 นัด เก็บไปทั้งหมด 63 คะแนนผลงานที่ยอดเยี่ยมของฟานไดค์ ทำให้มีหลายทีมที่จับจ้องตัวของเขา แต่แล้วก็เป็นลิเวอร์พูลที่สามารถปิดดิลไปได้ ถึงแม้ว่าช่วงแรกของการเจรจาจะเริ่มต้นได้ไม่สวย แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี โดยฟาน ไดค์ได้เซ็นสัญญากับทีมลิเวอร์พูลช่วงปลายปี 2017 และลงสนามนัดแรกในเกมเอฟเอคัพในวันที 5 มกราคม 2018 เจอกับทีมเอฟเวอร์ตัน หลังจากนั้นเขากลายเป็นผู้เล่นตัวสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในตำแหน่งกองหลัง ด้วยทักษะความเป็นผู้นำทำให้เขาสามารถคุมเพื่อร่วมทีมได้ดี เมื่อมีตัวเขาอยู่ในสนามแนวรับของลิเวอร์พูลจะเหมือนกับกำแพงเหล็กที่ทลายลงได้ยาก ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา มีความผิดพลาดน้อย ทำให้ฟาน ไดค์เป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดบนเกาะอังกฤษ ที่สำคัญส่วนเขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019/2020 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของทีมในรอบ 30 ปี ในฤดูกาลนั้นลิเวอร์พูลเสียประตูเพียงแค่ 33 ลูกเท่านั้นตัวของเขาเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นและกลายเป็นพี่ใหญ่ของทีม และก็ได้รับตำแหน่งเป็นกัปตันทีมในฤดูกาล 2023/2024 หลังจากที่จอร์แดน เฮนเดอร์สันย้ายไปเล่นกับทีมอัล อิตติฟาคในลีกซาอุ ผลงานของฟานไดค์เวอร์จิล ฟานไดค์พาทีมหงส์แดงคว้าแชมป์ได้หลายถ้วยด้วยกัน ได้แก่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2018/19ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ 2019แชมป์สโมสรโลก 2019พรีเมียร์ลีก2019/20ล่าสุดเวอร์จิล ฟานไดค์ ก็ได้รับบทบาทหน้าที่เป็นกัปตันทีมพาลิเวอร์พูลลงทำการแข่งขันนัดชิงคาราบาวคัพเจอกับทีมเชลซี ในเกมนี้เป็นเกมที่หนักสำหรับกัปตันทีมชาวดัตช์คนนี้ ผู้เล่นตัวหลักของทีมบาดเจ็บ ทำให้คล็อปป์จะต้องดึงผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามาตัวสำรองในเกมนี้ฟานไดค์ นอกจากจะรับตำแหน่งกับกัปตันทีม ต้องคุมเกมรับ เขาต้องคอยช่วยรุ่นน้องที่อาจจะสนามในเกมนัดชิงด้วย แต่เขาก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีและกลายเป็นคนทำประตูชัยให้กับทีมเอาชนะเชลซีได้ด้วยสกอร์ 1-0 คว้าแชมป์คาราบาวคัพในฤดูกาล 2023/24 ได้อีกหนึ่งรายการและแน่นอนว่าการเดินทางของกัปตันทีมคนนี้ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ ลิเวอร์พูลยังมีลุ้นแชมป์อีก 3 แชมป์ด้วยกัน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เอฟเอคัพ และพรีเมียร์ลีก ต้องติดตามดูกันว่าในปีนี้เวอร์จิล ฟานไดค์ จะได้ชูถ้วยกับทีมลิเวอร์พูลอีกกี่ถ้วยกันแน่ และเขาอาจจะได้เป็นอีกหนึ่งตำนาน ที่ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีกต่อจากอดีตกัปตันทีมจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ภาพปกจากเพจ Liverpool FCภาพประกอบ 1 จากเพจ Liverpool FCภาพประกอบ 2 จากเพจ Liverpool FCภาพประกอบ 3 จากเพจ Liverpool FCภาพประกอบ 4 จากเพจ Liverpool FC เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบน App TrueID โหลดเลย ฟรี !